New Document









ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

ข่าวสารสาธารณสุข

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย zartingtong » 07 ม.ค. 2009, 19:52

กลัวแต่เปลี่ยนแล้วจะถูกปาไข่น่ะซี
:lol: :mrgreen: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14







Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย choxe » 25 ม.ค. 2009, 09:07

เปลี่ยนเหลือแค่คำว่า เภฯ สั้นๆเรียกง่าย คุณเภฯ นานเข้าคงกลายเป็น คุณเพ่ คนไข้จะได้ทักว่าหวัดดีครับเพ่ อินเทรนด์ :lol: :lol: :lol: ฮิบฮอบ ดีออก :lol: :lol: :lol:
IX NU pharmacist
ภาพประจำตัวสมาชิก
choxe
 
โพสต์: 30
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2008, 19:05
ที่อยู่: ดาวพุธ

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย sukanya_rx19 » 25 ม.ค. 2009, 10:29

Satapat เขียน:
apotheker เขียน:
adRIAmYCin เขียน:ขอตัวไปเปลี่ยนชื่อเป็นอภิสิทธิ์ซะหน่อย เผื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรี :biggrin: :biggrin: :biggrin:


ถ้าadRIAmYCinเป็นอภิสิทธิ์ ผมก็แบรดด์พิทท์ ละว้า :lol:


ผมก็ลีโอนาโด ดิคาปริโอแล้วครับ หุหุ :lol: :lol:



ขอเป็นใบไผ่ ใรเรื่องเเม่ค้าขนมหวาน ด้วยคน :lol: :lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sukanya_rx19
Global Moderator
 
โพสต์: 2148
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2005, 16:06
ที่อยู่: ยโสธร

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย Surasak » 27 ม.ค. 2009, 01:02

ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ ขอเพียงทำหน้าที่ของเภสัชกรให้่ชัดเจนก็เพียงพอแล้ว
Surasak
 
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มี.ค. 2008, 00:31

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย kero » 27 ม.ค. 2009, 09:39

ต่อให้เปลี่ยนชื่อก็มิได้แปลว่า ศักดิ์ศรีจะดีขึ้นหรือแย่ลง
มานอยู่ที่ "การกระทำครับ" ไม่ว่าคุณมีคำนำหน้าว่าอะไร ต่อให้เปน นายแพทย์ แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เต็มความสามารถ ไม่ได้มีจริยธรรมตามที่คณาจารย์ได้สั่งสอนมา อย่างไรเสียคำว่าแพทย์ก็แค่ หัวโขนอันนึง
หัวใจสิครับสำคัญกว่า ว่าเรามีใจในการที่จะดูแลคนไข้ของเรา เต็มความสามารถ หน้าที่หรือยัง
ผมเชื่อว่าอย่างไรเสียทุกคนในที่นี้ย่อมมีหัวใจของ "เภสัชกร" สมดังที่เราได้รับการสั่งสอนมากันทุกคนครับ
ไม่ว่าเราจะทำงานในหน้าที่ไหน ทั้ง เภสัชกรร้านขายยา โรงพยาบาล สสจ งานผลิต งานประกันคุณภาพ ฯลฯ


สู้ๆ เพื่อวิชาชีพของเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
kero
 
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 18:31

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย NJ » 27 ม.ค. 2009, 21:13

อายเค้าว่ะ ลบเหอะกระทู้นี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
NJ
 
โพสต์: 70
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2008, 21:30

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย amp_sena » 14 พ.ค. 2009, 01:22

เหตุผลที่ผมจะสนับสนุนความคิดเรื่องแพทย์ปรุงยาหรือเภสัชแพทย์มีดังนี้คับ

-เครียดจังเวลาที่คนถามว่าทำไมไม่เรียนเทคนิคการแพทย์ มันยากกว่าเภสัชใช่มั้ยยย

ณ ปัจจุบันนี้ก็จะตอบว่าถ้าคะแนนต่ำก็ต้องเรียนเทคนิคการแพทย์คะแนนสูงก็มาเรียนเภสัช แล้วเดินจากไป 555

-และก็เครียดเวลาที่คนไม่เข้าใจว่าเจ้าพนักงานเภสัชกับเภสัชกรต่างกันยังไง เพราะเวลาคนถามพวกจพ.ก็บอกว่าเค้าเปงเภสัชล่ะมั้ง

ส่วนพวกเราเภสัชกรก็บอกว่าเปงเภสัช...เวรกรรม เหมือนกันเลย ผู้ช่วยทันตแพทย์ ผช.พยาบาลยังแตกต่างเลย

อยากให้มีเจ้าพนักงานแพทย์ จพ.ทันตแพทย์ จังเลยยยยย แล้วก็ทันตแพทย์เปงทันตกร แบบเภสัชกร จาได้งงกันเยอะๆดี นี่งงกันแต่เภสัชอย่างเดียว

ยายที่รู้จักกันบอกว่า "เรียนเภสัชหรอลูกเหมือนกับลูกผู้ใหญ่ท้ายหมู่บ้านเลย(เค้าเปงจพ.เรียนแค่สองปีตูอุตส่าเข็นตัวเองเรียนหกปี...เพื่ออออ)"

เราพยายามอธิบายว่าเราจบมาเปงเภสัชกรเลยยยย แต่ก็หาคำพูดมาบอกเค้าม่ายได้อ่าม่ารุว่าจาบอกเค้าว่าไงเลยหยุดพูดไป 555

ยายเค้าก็เลยบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอกลูกได้แค่นี้ก็ดีแล้วต่อไปมีโอกาสก็ค่อยขยับขยายไปโนะ"

งิ่ดมากกกกกกสุดบรรยาย ยายไม่รู้ว่ามีเภสัชกรอยู่บนใบนี้คงรู้แต่ว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ในห้องยาที่จัดยามาให้ไอ้คนพวกนี้แหละเปงเภสัช

คงอารมณ์เดียวกับแบบคนเข็นเตียงอารายทำนองนี้

ใครมีวิธีอธิบายบอกผมด้วยนะคับบบบบบบจาได้เอาไปบอกยายเค้า

-และก็คนชอบถามว่า "เรียนเภสัชหรอทำไมไม่เรียนหมอไปเลยล่ะ หมอรวยกว่าเยอะเลยนี่ รู้ยาเหมือนกันแถมรักษาได้เปิดคลินิคได้"

อันนี้เป็นคำพูดของลูกสะไภ้ของเภสัชเจ้าของร้านยาที่เราไปฝึกนะ ไม่น่าเชื่ออออ

สงสารตัวเองจิงๆทำไมเจอแต่คนแบบนี้ตั้งแต่ยังเรียนเนี่ยแล้วก็เพิ่งมาเจอบ่อยๆตอนปีสามที่ซิ่วไม่ทันแล้วอ่ะ

ประเด็นนี้ช่วยหาคำตอบหน่อยนะคับว่าจาตอบว่าไรดี

-ตอนขึ้นปีสามลองซิ่วเล่นๆติดสัตแพทย์จุฬาเพื่อนร.ร.เก่าและคนอื่นๆทุกคนที่รู้ชมกันใหญ่เลย

"เก่งจังเลยนะเนี่ยติดสัตแพทย์จุฬาเลย" แบบว่ายังชื่นชมซะมากกว่ากว่าตอนที่เราติดเภสัชอีก ทำนองว่าเอาเลยๆๆๆๆๆๆติดที่ดีสุดๆๆไปเลย

งิ่ดครับคือสัตแพทจุฬาคะแนนมันไม่ได้สูงไรมากมายไง66ก็ติดได้และ คณะที่เราเรียนอยู่ต้อง68อัพถึงจาติดได้นะ แต่ไม่มีใครรู้ครับในโลกใบนี้

-พักหลังเจอพวกพยาบาลตามเวบบอร์ดยิ่งบั่นทอนจิตใจมาก บอกว่าพยาบาลทำรพ.เอกชนซักห้าปีก็ได้ห้าหมื่นอัพๆๆๆๆขึ้นไปละ

มีคนไปเม้นว่าเวอร์ไปป่าวเรทสูงกว่าเภสัชอีกหรอ ทุกคนมารุมด่าว่าไม่รู้จิงแล้วยังจะมาพูด ....งิ่ดคับ

ถ้าใครรู้ช่วยบอกผมด้วยว่าจิงมั้ยเรื่องเงินเดือนอ่าคับ

ถ้าจิงก็ช่วยตอบผมด้วยว่ามาเรียนเภสัชตั้งหกปีทำไมคับ ไมไม่เรียนพยาบาลไปเลยล่ะแค่สี่ปีจบ

แถมจบง่ายดันกันให้จบ(เป็นทุกที่ที่เพื่อนเรียนพยาบาลเล่าให้ฟังทั้งวิทลัยทั้งมหาลัย) เกรดก็สวยใบประกอบก็สอบง่ายยย ทำไม่กี่ปีได้ห้าหมื่นนน

-อ้อ อีกเรื่องนะคับเพื่อนคณะพยาบาลเรียนม.เดียวกะผมปีเดียวกะผมถามว่า "วันนี้เห็นป้ายหน้าห้องยามีทั้งเภสัชกรรมและก็เภสัชกรมันต่างกันยังไงหรอเนี่ย"

งิ่ดคับ ขนาดนศ.พยาบาล วิชาชีพสุขภาพยังแยกไม่ได้เลยว่ามันต่างกันยังไง...กรรมเจงๆชีวิต

ก็เลยพยายามอธิบายว่าจพ.เภสัชกรรมจะจัดยามาให้เภสัชกรจ่าย มันถามต่อคับว่าผมจบไปเป็นอะไรล่ะ....งิ่ดต่อเนื่องคับ

เป็นเภสัชกรน่ะสิ....555555555555555555 หัวเราะกลบเกลื่อน เหมือนมีลมพัดใบไม้ปลิวผ่านมา ....วิ้วววววววววววววววว

-เรื่องนี้สุดท้ายแล้วจิงๆคับเรื่องร้านยาคับ ตอนช่วงฝึกงาน(ฝึกแถวบ้านนอกบ้านเกิดผมเอง) เวลาเจอเพื่อนเก่าๆมันถามว่าเห็นไปขายของที่ร้าน...หรออออ

เออดีคิดในใจอยากตอบไปว่า ใช่จ้าก็แบบว่าเราเรียนมาน้อยอ่ะโนะไม่ได้จบปริญญาอะไรกะเค้าเลยต้องมาขายของแบบนี้แหละไม่ได้เป็นเจ้าคนนายคนกะเค้าหรอก

เย้ยยยยยยไปกันใหญ่ละอย่าไปคล้อยตามมัน (ใส่เสื้อกาวน์สามสี่คนเดินว่อนร้านซะขนาดนี้มาบอกว่าเราขายของ นี่ร้านยานะไม่ใช่โชห่วย ทุบหัวกันเลยดีกว่ามั้ย)

และก็มีเรื่องเดียวที่คุยกะคนมีการศึกษาหน่อยจะชื่นชมคือ บอกว่าดีจังเลยเรียนเภสัชจบมาก็คุมร้านสบายเลยไม่ต้องไปทำงานก็ได้เงิน...จบข่าวคับ

สรุปคือประเทศนี้ชอบให้ตูแขวนป้ายยยแล้วอยากซื้อยากับลูกจ้างชาวพม่าที่ใส่เสื้อกาวน์เช่นกัน มาถึงบางอ้อก็ตรงนี้ว่าทำไมถึงบอกว่าเราขายของ

นั่นคือ.......สถานะเราก็เหมือนกับแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่ใส่กาวน์สั้นคนนั้นนี่เองงงงง 55555 ชีวิตคนบ้านนอกอ่าคับม่าค่อยพัฒนา เอิ๊กกๆๆ

เฮ้อออออ...บ่นยาวมาก แบบมาแชร์อ่าคับ ถือว่าขำๆนะคับบบ ใครมีไรตลกๆแบบนี้ก็มาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคับ ถามเพื่อนก็เจอบ้างแต่ไม่เยอะไม่บ่อยเท่าผม ทามายผมต้องเปงผู้โชคดีด้วยนี่ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 55555555555 บ้าไปแล้วนั่นนนนน
ภาพประจำตัวสมาชิก
amp_sena
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 15:51

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย zartingtong » 14 พ.ค. 2009, 13:32

อะไรก็ไม่ว่า

ใครมาเรียกผิดว่า

เภสัชสุกร

น่ะซีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย mali » 14 พ.ค. 2009, 16:30

amp_sena เขียน:เครียดจังเวลาที่คนถามว่าทำไมไม่เรียนเทคนิคการแพทย์ มันยากกว่าเภสัชใช่มั้ยยย




และก็เครียดเวลาที่คนไม่เข้าใจว่าเจ้าพนักงานเภสัชกับเภสัชกรต่างกันยังไง เพราะเวลาคนถามพวกจพ.ก็บอกว่าเค้าเปงเภสัชล่ะมั้ง


ยายที่รู้จักกันบอกว่า "เรียนเภสัชหรอลูกเหมือนกับลูกผู้ใหญ่ท้ายหมู่บ้านเลย(เค้าเปงจพ.เรียนแค่สองปีตูอุตส่าเข็นตัวเองเรียนหกปี...เพื่ออออ)"


ใครมีวิธีอธิบายบอกผมด้วยนะคับบบบบบบจาได้เอาไปบอกยายเค้า

-และก็คนชอบถามว่า "เรียนเภสัชหรอทำไมไม่เรียนหมอไปเลยล่ะ หมอรวยกว่าเยอะเลยนี่ รู้ยาเหมือนกันแถมรักษาได้เปิดคลินิคได้"






โดนใจจังค่ะ เฮ้อ แต่ที่ช้ำใจสุด ๆ ก็คือแยกไม่ออกว่า จพง.เภสัช กะ เภสัช ต่างกันตรงไหน
และ โดนเขียนตำแหน่งผิดเป็น เภสัชกรรม ตลอดเลย ไม่ใช่เภสัชกร เฮ้อ หลัง ๆ เลยบอกใคร ๆ ว่าเป็น เภสัชกรรมกร 555+
mali
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2007, 18:49

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย tee supatsiri » 15 พ.ค. 2009, 14:00

อยากตอบแบบ มีเหตุผลนะครับ ชื่ออะไรก็ได้แต่ควรปรับปรุงให้มีบทบาทและมีความสำคัญน่าเชื่อถือ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้จะดีกว่า
เช่น เจ็บป่วยถ้าไม่ร้ายแรงนึกถึงร้านยาใกล้บ้านที่ต้องมีเภสัชกรเป็นต้น เหมือนกับผู้ป่วยไปโรงพยาบาลก็อยากไปพบแพทย์ หรือไม่ก็ไปหาหมอนวดแผนไทย หมอกายภาพ ฯลฯ แต่ไม่เคยอยากมาหาเภสัชทำอย่างไรจึงจะมีคนป่วยอยากมาพบเภสัช เพราะมีคลินีกเภสัชกรรม(เหมือนคลีนิกrefillยา ให้คำปรึกษา คลีนิกTB คลินีกยาต้านAIDS ฯลฯ แต่เป็นคลีนิกดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรั้งที่ได้รับการคัดกรองแล้วว่าเข้าเกณฑ์ให้เภสัชดูแลต่อจากแพทย์ได้ หรืออาจจะมีรูปแบบอื่นก็ได้ แต่ขอย้ำว่าไม่ควรรักษาโรคเหมือนแพทย์นะ เดี๋ยวจะไปทะเลาะกันอีก)และควรทำให้มีทุกโรงพยาบาลด้วย เภสัชกรที่ล้นโรงพยาบาลก็จะมีงานทำมากขึ้นเป็นการลดภาระงานของ แพทย์ พยาบาล มีประชาชนนับถือสมกับที่พวกเราอยากได้รับจากประชาชน หรือวิชาชีพอื่นๆต่อไป
tee supatsiri
 
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 เม.ย. 2009, 15:27

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย mama » 16 พ.ค. 2009, 17:10

น้าน...ลดความร้อนแรงของกระทู้ดีกว่า เนอะ
mama
 
โพสต์: 906
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ต.ค. 2005, 00:07
ที่อยู่: มหาสารคาม

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย INDY_Rx » 16 พ.ค. 2009, 23:47

เอาน้ำแข็งมาแจกครับ... :biggrin:
INDY_Rx
 
โพสต์: 340
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 มี.ค. 2009, 14:02
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย Nopnutnat » 27 พ.ค. 2009, 11:55

ไอ้ที่ให้เปลี่ยนนั้น เป็นเพราะ เรื่องค่าตอบแทนต่างๆ เนื่องจาก กฎหมายเวลาเค้าดูจะดูตามลายลักษณ์อักษร
เช่น ให้ค่าตอบแทนแก่แพทย์ อันนี้ ทันตแพทย์ มีคำว่า แพทย์ร่วมด้วยก็ได้อานิสงค์ไปด้วย แต่เภสัชกร ไม่เกี่ยว
ไม่มีคำว่าแพทย์ ต้องไปดูคนออกกฏหมายว่าเป็นใคร พวกแพทย์เหมือนกันหรือเปล่า
อย่างนี้พี่น้องต่างจังหวัดที่ต้องทำงานแสนลำบาก ต้องเสียความรู้สึก
Nopnutnat
 
โพสต์: 26
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 05:49

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย zartingtong » 27 พ.ค. 2009, 16:41

จะไปเปลี่ยนทำไม?

ต่อไปให้เรียกเภสัชกร 6 ปีว่า

ด๊อกเตอร์

เดี๋ยวนี้เค้ามีร้าน ด็อกเตอร์เภสัช กันแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

โพสต์โดย km1 » 29 พ.ค. 2009, 14:30

ไม่มีใครรักเรา เพราะเราบอกเขาว่า ?เราน่ารัก?
เขาจะรักเราก็เพราะ เราน่ารัก
พวกเราเป็นเภสัชกร เพราะเรารักที่จะเป็นเภสัชกร
อยากเห็นผู้รับประโยชน์จากความเป็นเภสัชของเรา(ใช่ไหม :wink: )
ไม่จำเป็นต้องโกรธ ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ และไม่จำเป็นต้องบอกใคร

นอกจากตัวเอง
เขาจะรู้ว่าคุณเป็นเภสัชกรก็เพราะ คุณเป็นเภสัชกร
คุณคือสุดยอดเภสัชกร M04
km1
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2008, 15:25

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document