เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

[coolturtle]

เรียน คุณ krung
ดีใจมากๆเลยที่เห็นข้อความของคุณกรุง
แต่ เรื่องมันเยอะ เรื่องมันยาว
ขอนัดเจอได้ไหมคะ คุณ krung ช่วยระบุ วัน-เวลา-สถานที่
เพื่อที่ใครที่มีข้อมูลจะข้าไปพบ
ตุณ Krung จะได้เรื่องในครั้งเดียวค่ะ
หวังว่าจะพิจารณานะคะ

[coolturtle]

ได้ข่าวว่ามีคนจะส่งข้อมูลให้คุณ krung
รอดูสักนิดก็ได้ค่ะ ว่าการส่ง work หรือไม่ เพราะการเดินทางอาจไม่สะดวกสำหรับหลายๆท่าน
แต่..อย่าลืมว่า
เหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวนะคะ
เดี๋ยวจะฟ้องไม่ทัน

[Jphar]

เอาแล้ว  ได้เรื่องแล้ว
การออกโรงบ่นกันไปบ่นกันมา
เริ่มเห็นแสงไฟที่สุดปลายอุโมงค์อันมืดมิดแล้ว

ช่วยกันเดินไปบ่นไปเรื่อยๆนะจ๊ะ
เพื่ออนาคตที่ลงตัวของวิชาชีพเรา

[zartingtong]

ใครที่พบคุณ Krung ก็ขอเพิ่มอีกข้อแล้วกัน

เวลาที่เรียนเพิ่ม 1 ปี คิดเป็นค่าเทอม ค่าหอ ปีนึงร่วมแสน

เวลาที่ขาดรายได้ 1 ปี คิดเป็นเงินที่ควรหาได้อีก 2 แสนถึงสองแสนห้า

รวม 2 เด้งเป็น 3 แสน ถึงสามแสนห้า

เงินเดือนที่ 6 ปีได้มากกว่า 5 ปีในภาคราชการ หรือเอกชนบางสาขา คิดเป็นส่วนต่างเอาไปหารแล้วต้องทำงานจนเหนียงยานไม่รู้ตั้งกี่ปี รวมดอกเบี้ยที่อาจต้องกู้เงินมาเรียน

เฮ้อขยันหากรรมมาให้เด็กจริงๆ ถ้าเป็นลูกตัวเองก็ต้องบอกซวยจริงๆ

ถ้าบังเอิญไม่มีลูกก็ให้เห็นใจคนมีลูกบ้าง

[Mooma]

รายงานเพิ่มเติมจากควันหลงของ Workshop 3
การเป็นเทคโนแครต ข้าราชการอะไรเหล่านี้ ก็คล้ายๆ กับกรรมการสภาเภสัชกรรม

หมายความว่าการศึกษาเภสัชบ้านเราเน้นคนไปทำราชการ
เรียน 6 ปี เงินเดือนมากว่า 5 ปี มากกว่า 4 ปีในระบบราชการ
6 ปี เรียนหมอ จบออกมา เงินเดือนเท่ากับทันตแพทย์
6 ปีเรียนเภสัชบริบาล จบออกมาเงินเดือนเท่ากับสัตวแพทย์ แต่ต่ำกว่าแพทย์และทันตแพทย์
ถามว่าตรงนี้มีอิทธิพลต่อการรับรองหลักสูตรของสภาเภสัชหรือไม่

ดูสถิติไม่กี่ปีก่อน เภสัชไปทำงานภาครัฐถึง 38% แน่นอนย่อมมี รพ. มหาวิทยาลัย อย. กรม กองต่างๆ
13% เป็นเภสัชชุมชน 10% เป็นเภสัชโรงงาน

[Mooma]

อ.อำพลพูดถึงหลักสูตร Pharm D ในอเมริกาว่าเป็นหลักสูตร 2 + 4
2 ปี เรียนหลักสูตรพื้นฐานเป็น admission requirement ไม่ต่ำกว่า 63 credit-h ตัวอย่าง
English composition/literature 6
General chemistry 8
Organic chemistry 8
General Biology 4
Calculus 4
Physics 8
Microbiology 4
General Statistics 3
Humanities and Social Sciences  18

ในการเรียน 4 ปีหลัง
80 credits of required courses,
32 credits of experiential learning
และ minimum of 20 elective credits
total of at least 132 credits.

Experiential learning rotations will be accepted by Boards of Pharmacy as meeting the 1600-hour internship requirements necessary for licensure เป็นต้น

เภสัชบริบาลของพี่ไทยถ้าลองวิเคราะห์ดูจะเป็นหลักสูตรแบบ 4 + 2
คือ Pharm Sci 4 ปี ต่อยอดด้วย Pharm Care 2 ปี  รวมเป็นหลักสูตร 6 ปี

สำหรับที่จะสอนในมหิดลอยากให้เรียน Pharm Sci  4 ปี แล้วได้ปริญญาตรี
ต่อยอดเภสัชบริบาล +2 ปี ได้ Pharm D
ต่อยอด ปริญญาโท และเอก 2 และ 3 ปี ตามลำดับ ได้ MS และ Ph D
การสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม : จบ Pharm Sci สามารถสอบได้

ทางมหิดลยังทำหลักสูตร 6 ปีเผื่อเหนียวเอาไว้ ตามเกณฑ์ของสภาเภสัชกรรม

ท่าน อ.อำพลครับ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดช่วยมาทำการแก้ไขด้วย

[ruralphar]

จากคุณ jphar
เริ่มเห็นแสงไฟที่สุดปลายอุโมงค์อันมืดมิดแล้ว

ระวังแสงไฟที่เห็นกลายเป็นไฟหน้าหัวรถจักรดีเซลวิ่งสวนเข้าอุโมงค์มานะครับ 

[zartingtong]

สำหรับที่จะสอนในมหิดลอยากให้เรียน Pharm Sci  4 ปี แล้วได้ปริญญาตรี
ต่อยอดเภสัชบริบาล +2 ปี ได้ Pharm D
ต่อยอด ปริญญาโท และเอก 2 และ 3 ปี ตามลำดับ ได้ MS และ Ph D
การสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม : จบ Pharm Sci สามารถสอบได้

ถ้าต้องเรียน 6 ปี ถ้านอกจาก Pharm D ก็ควรเป็น MS นั่นแหละ แต่ระวังสภาไม่ได้คิดอย่างนี้แล้วกัน อีกอย่างปริญญาโทที่มี Research ให้ต่างประเทศรับรองไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะจบนะครับ ไม่ใช่ให้ได้กันได้ง่ายๆจริงๆแล้วลองไปดูที่เรียนๆปริญญาโททุกวันนี้ซีครับไม่จบตามกำหนดง่ายๆหรอก แล้วอาจารย์ที่เป็น Adviser น่ะจะไปหาที่ไหนจำนวนมากขนาดนั้น (Impossible Dream) แถมทุนที่ทำ research ด้าน Pharm Sci น่ะเป็นเงินมหาศาลสำหรับนักศึกษาปริญญาโทจำนวนมากขนาดนี้ เครื่องมือเป็นล้านจะมีพอใช้ที่ไหน? คณะจะไปเอาเงินจากไหนเยอะๆ ปริญญาโทที่มีมาตรฐานน่าจะลำบาก

แต่เรื่องสอบใบประกอบฯระวังจะตีกันเละในอีกไม่กี่ปีนี่แหละถ้าคาดไม่ผิด

[img width=600 height=415]http://image.taonoi.com/out.php/i22429_correct.jpg[/img]

[PRACHASAN]

เข้ามาอ่านเพื่อเพิ่มเติมข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ แต่ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น.... ขอบคุณทุกข้อคิดดีๆ ครับ...

[wannee]

เอาแล้ว  ได้เรื่องแล้ว
การออกโรงบ่นกันไปบ่นกันมา
เริ่มเห็นแสงไฟที่สุดปลายอุโมงค์อันมืดมิดแล้ว

ช่วยกันเดินไปบ่นไปเรื่อยๆนะจ๊ะ
เพื่ออนาคตที่ลงตัวของวิชาชีพเรา

อยากบอกว่า...
อะไรดีล่ะ

เป็นสัญญาณที่ดี
แต่...
เตรียมใจไว้บ้างก็คงไม่เสียหาย

ว่าแต่ว่า วันที่ 25 นี้ดูจะฤกษ์ดีนะ
พันธมิตรประชาชนนัดกันวันที่ 25
ที่เมืองชลก็คุยกันเรื่อง 6 ปี ในวันที่ 25

ถ้าพิจารณาปัญหาของประเทศไทยกับปัญหาวิชาชีพตอนนี้ ต่างกันแค่ย่อส่วนเท่านั้น

[Pharma_Name]

อย่าว่าอย่างโน้น อย่างนี้เลยนะครับ พี่ครับ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เวลาเขียนเป็นตัวย่อ เขียนว่า "มศว" ไม่มีจุดนะครับ

[Mooma]

แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วหละครับ มือพิมพ์เร็วไปหน่อยครับ

[Mooma]

ดูข่าวเมื่อตอนตี 5 ม็อบสองฝ่ายปะทะกันค่อนข้างรุนแรง ขวางปาก้อนหินเข้าใส
ตำรวจไม่สนใจห้ามปราม ปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้าย  เศร้าจังเลย 

[Mooma]

ว่าจะเล่าควันหลงจาก Workshop 3 ให้จบนะครับ
สำหรับวิทยากรท่านสุดท้ายคือพี่สุนทรีย์ อรรฆย์วัชระ
อยากให้คณะเภสัชมีการสอน
1. ให้เภสัชกรรู้จักคิดเป็น พัฒนาตนเองและสังคมด้วยความคิดสร้างสรรค์
2. อะไรเป็นสิ่งสำคัญๆ ในส่วนอาชีพเภสัชเน้นประสบการณ์
3. หาความรู้เพิ่ม ในสาขาที่ต้องการ
4. รู้จักการบริหารจัดการ และ เกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล
5. รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อม

สำหรับการเรียนการสอนนั้นตนคิดว่า 5 ปีน่าจะเพียงพอ
โดยความรู้เภสัชขั้นพื้นฐาน 4ปี ด้าน Pharm Sci
แยกความถนัดช่วงปี 5 และฝึกงานได้ ภบ.
และศึกษาต่อเนื่องเพื่อรับวุฒิบัตรเฉพาะวิชาชีพ (ที่ตนถนัด)

[coolturtle]

สำหรับที่จะสอนในมหิดลอยากให้เรียน Pharm Sci  4 ปี แล้วได้ปริญญาตรี
ต่อยอดเภสัชบริบาล +2 ปี ได้ Pharm D
ต่อยอด ปริญญาโท และเอก 2 และ 3 ปี ตามลำดับ ได้ MS และ Ph D
การสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม : จบ Pharm Sci สามารถสอบได้

ถ้าต้องเรียน 6 ปี ถ้านอกจาก Pharm D ก็ควรเป็น MS นั่นแหละ แต่ระวังสภาไม่ได้คิดอย่างนี้แล้วกัน อีกอย่างปริญญาโทที่มี Research ให้ต่างประเทศรับรองไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะจบนะครับ ไม่ใช่ให้ได้กันได้ง่ายๆจริงๆแล้วลองไปดูที่เรียนๆปริญญาโททุกวันนี้ซีครับไม่จบตามกำหนดง่ายๆหรอก แล้วอาจารย์ที่เป็น Adviser น่ะจะไปหาที่ไหนจำนวนมากขนาดนั้น (Impossible Dream) แถมทุนที่ทำ research ด้าน Pharm Sci น่ะเป็นเงินมหาศาลสำหรับนักศึกษาปริญญาโทจำนวนมากขนาดนี้ เครื่องมือเป็นล้านจะมีพอใช้ที่ไหน? คณะจะไปเอาเงินจากไหนเยอะๆ ปริญญาโทที่มีมาตรฐานน่าจะลำบาก

แต่เรื่องสอบใบประกอบฯระวังจะตีกันเละในอีกไม่กี่ปีนี่แหละถ้าคาดไม่ผิด

[img width=600 height=415]http://image.taonoi.com/out.php/i22429_correct.jpg[/img]

ชื่นชมจริงๆ มีวิสัยทัศน์มากๆ...ตัวเองยังนึกไม่ถึงเลย เพราะคิดแค่ว่า หากเรียน 6 ปี แล้วได้ ป.ตรี ขอเรียนเอา ป.โท ดีกว่า แต่ไม่รอบคอบในการนึกถึงปัญหาอื่นๆ..................คุณ Zartingtong  มีวิสัยทัศน์จริงๆ