New Document









เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย PRACHASAN » 07 เม.ย. 2008, 13:56

แทนการปรับระยะเวลาของกลักสูตร (time) ผมจะชวนท่านนายกสภามาคุยกันเรื่องการเปลี่ยนเครื่องมือการสอน (Tools) ดีไหมครับ... เราควรจะไม่ปรับเรื่องเวลา (Time) เอาเวลาที่เท่าเดิมของการเรียนการสอนเภสัชศาสตร์ คือ 5 ปี มาสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนการให้เป็นแบบ Constructivism ที่เน้นให้นักศึกษาเภสัชศาสตร์ คิดเป็น สร้างสรรค์เป็น แก้ปัญหากับโลกของความเป็นจริงได้ เอกสารตำราจำนวนมาก มันควรจะถูกย่อไว้ใน E-Book E-learning ให้เด็กๆ ทำงานเป็นกลุ่ม สหสาขา ค้นหาความจริง เรียนนอกห้องเรียนให้มากขึ้น ผมว่า การปรับเปลี่ยนเฉพาะเวลาเรียน (Time) โดยไม่เปลี่ยนวิธีคิด (Thinking) ของคนสอน (Teacher) มันจะเดินไปถึงทางตัน ถอยหลังจะถอยยาก .... ฟังน้องๆ พูดให้มากขึ้นได้ไหมครับ... นี่ผมมองจากนอกสถาบันการศึกษานะครับ... ผมมองแบบคนที่เคยมีส่วนร่วมกับการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้กับกระทรวงอื่นๆ เรากำลังมีปัญหาที่กระบวนการคิดครับ... วิธีการในการตัดสนใจของสภาโดยการนำของท่านนายก ท่านคิดแบบ Inside Out มองเราออกไป โดยไม่สนใจ Market ว่าต้องการอย่างไร.... มันหมดยุคแล้วครับ... ต้องยอมรับความจริงว่าหมดเวลาของ Inside Out แล้ว วันนี้มันต้อง Outside In มองตลาด มองอนาคต มองเพื่อนร่วมทีมสุขภาพ มองประชาชน ก่อนกลับมาจัดการตนเอง... เพียงไม่กี่บรรทัดที่ผมนำเสนอคงจะทำให้คนในวงการการศึกษาเข้าใจแล้วนะครับ... เราต้อง Constructivism ลดการท่องจำ เน้นการลงมือทำให้มากขึ้น เวลา 5 ปี เพียงพอครับที่จะสร้างเภสัชกรคุณภาพ ที่มีความเป็นมืออาชีพ (Professional Pharmacist)

เชื่อมั่น
เภสัชกรประชาสรรค์ แสนภักดี
Different Leading to Development
แตกต่าง เพื่อ เติบโต
PRACHASAN
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2006, 23:11
ที่อยู่: Khon Kaen, THAILAND







Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Wiz@rd. » 07 เม.ย. 2008, 19:45

ปรับหลักสูตรและวิธีการสอนเอาเหอะครับ ไม่ใช่ปรับจำนวนปี

สมมุติ

ระบบเก่า เราเรียน physio patho pharmaco เรียนแยกเป็นครั้งๆ
เริ่มแรกก่อน เราก็เรียน physio ไป จำบ้าง เข้าใจบ้าง งงอยู่ว่าเอาไปทำอะไร
พอต่อมาเรียน patho ก็มี physio แถมเข้ามาอีก ปกติเป็นแบบนี้ ไม่ปกติเป็นแบบนี้
ต่อมาเรียน pharmaco ก็กลับมาเรียน physio patho และ pharmaco เออ ปกติเป็นแบบนี้ ผิดปกติเป็นแบบนี้ แล้วเอายาเข้าไปออกฤทธิ์ตรงนี้ ให้ผิดปกติกลับมาเกือบปกติ

เรียนกันเข้าไป ตอนเรียน patho ก็เสียเวลาไปทบทวน physio ซัก 1/3
พอเรียน pharmaco ก็ต้องไปทบทวน physio กะ patho อีก 1/3

เวลามันถึงไม่พอเรียน

การเรียนก็ควรเป็นแบบอะไรที่ควรเข้าใจ อาจารย์ก็บอกให้ทำความเข้าใจ อะไรต้องท่องก็ต้องบอกให้จำ
ไม่ใช่อะไรที่ควรเข้าใจก็ท่อง อะไรที่ควรท่องก็ท่องอีก
ท่องๆไปเดี๋ยวก็ลืม... เปล่าประโยชน์

ที่เหลือก็ต้องทำอะไรให้เด็กสืบค้นเป็น ค้นหาได้ และพิสูจน์ให้ได้ว่าเด็กค้นเป็น ไม่ใช่ค้น 1 คน ที่เหลือลอกตามไอ้ที่ค้นมา ส่งเหมือนกัน ไม่ได้อะไร
จบออกมา ค้นอะไรไม่เป็น คิดอะไรไม่เป็น ทำงานก็จะไม่เป็น

จบมา ยังไงมันก็ต้องฝึกและปรับตัวให้เข้ากับแต่ละที่ให้ได้อยู่แล้วด้วย อย่าคิดหาวิธีให้จบปุ๊บ วางปั๊บ ทำงานได้เลย ไม่มีทาง โดยบริบทของการทำงานแต่ละที่มันต่างกันอยู่แล้ว
ยังไงก็ต้องปรับตัว และการปรับตัวเนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่หลักสูตรหรอก มันอยู่ที่ความสามารถในการทำงานของเด็ก ความรับผิดชอบ ความตั้งใจไขว่คว้า เออ แต่ถ้าเทรนมาดี เวลาตรงนี้ก็ลดลงเท่านั้นเอง

แล้วก็หลักสูตร ไม่ต้องใช่ Pharm D ล้วนๆหรอก ขอให้เด็กเข้าใจพื้นฐานก็พอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wiz@rd.
Global Moderator
 
โพสต์: 942
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2004, 20:15
ที่อยู่: โลก

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย apotheker » 08 เม.ย. 2008, 11:52

คิดอย่างไรกับเด็กเภสัชปี4 ซื้ออาหารเสริม กลูต้าไธโอน หรือ LCH กิน
ผมว่ามันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างนะ :?
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 08 เม.ย. 2008, 13:07

apotheker เขียน:คิดอย่างไรกับเด็กเภสัชปี4 ซื้ออาหารเสริม กลูต้าไธโอน หรือ LCH กิน
ผมว่ามันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างนะ :?


การศึกษา(ที่ถูกต้อง) ทำให้เกิดปัญญา

ตอนนี้ ผู้คนถูกโหมกระหน่ำด้วยกระแสบริโภคนิยมอย่างรุนแรง แล้วเจ้ากระแสที่ว่านี่ ก็ระบาดเข้ามาในสถาบันการศึกษา การจัดการศึกษาเพื่อความงอกงามของปัญญาจางหายไป แต่เป็นการจัดการศึกษาเพื่อความงอกงามของ KPI  ตอนนี้อะไรๆก็ KPI อะไรๆก็ Bonus อะไรๆก็ชื่อเสียง เรื่องนั้นได้ excellence เรื่องนั้นได้ good  เรื่องนั้นได้ติดอันดับนานาชาติ ทั้งๆที่ก็ได้มาหลายปีเต็มที แต่ก็ยังใช้โฆษณาอยู่
แก้ไขล่าสุดโดย wannee เมื่อ 08 เม.ย. 2008, 13:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 08 เม.ย. 2008, 13:12

ข้อเขียนของนักศึกษาค่ะ

งานเภสัชกรรมปฏิบัติ กันนโยบายการศึกษาที่อาจขัดขวางการพัฒนามากกว่าส่งเสริม

วันนี้ได้อ่านบทความวิชาการชื่อ งานเภสัชกรรมปฏิบัติ วิวัฒนาการและมิติที่ต้องพัฒนา
ที่เขียนโดยท่านอาจารย์ ธิดา นิงสานนท์ ในเอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ประจำปี พ.ศ. 2550
สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) วันที่ 23-25 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
ที่รวมเล่มในชื่อ มิติใหม่ของงานเภสัชกรรมปฏิบัติ

อาจารย์เขียนบทความได้น่าอ่านและชี้แจงเหตุผลของความจำเป็นที่จะต้องมีการบริบาลเภสัชกรรมอย่างเต็มรูปแบบ
และอาจารย์ได้ชี้ให้เห็นมิติต่างๆที่จะต้องทำการพัฒนาอีกมากเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น

จึงขออนุญาตนำบทสรุปที่อาจารย์ได้เขียนไว้มาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เข้าใจถึงปรัชญาของการบริบาลเภสัชกรรม

        'การทำงานในแบบสหสาขาวิชาชีพโดยมีเป้าหมายที่ความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นทิศทางที่ต้องดำเนินต่อไปในอนาคต
สำหรับการให้บริการทางเภสัชกรรมที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่ผู้ป่วยคงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ กิจกรรมทางคลีนิกที่ดำเนินการกันอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่การรายงานผลโดยขาดการประสานงานทั้งในระหว่างวิชาชีพเดียวกัน และต่างวิชาชีพ
จึงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนมุมมองจากที่มองเรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพเป็นเพียงการทำกิจกรรม และทำอย่างแยกส่วน
มาเป็นการประสานงานและส่งต่อข้อมูลทั้งในส่วนของเภสัชกรเองและสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย
เพื่อให้การบริบาลทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วยเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และต่อเนื่อง
          โรงพยาบาลที่มีการพัฒนาระบบยาพื้นฐานได้ตามมาตรฐานแล้ว ขั้นต่อไปคือการพัฒนาที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยโดยใช้องค์ความรู้เชิงลึก
เรื่องยาเพื่อให้ช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากการใช้ยา ซึ่งการบริบาลเภสัชกรรมในโรงพยาบาลขนาดต่างๆ จะมีความแตกต่างกันไปตามกลุ่มของผู้ป่วย
สภาวะโรคและยาที่ใช้รักษา ทั้งนี้ควรพิจารณาตามบริบทและความจำเป็นตลอดจนสภาวะแวดล้อมของโรงพยาบาลนั้นๆ
แต่สิ่งที่เป็นหน้าที่ของเภสัชกรที่ต้องทำด้วยความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ป่วยใช้ยาได้ผลดี คือการค้นหาปัญหา การแก้ไข การป้องกันปัญหาที่เกิด หรืออาจเกิดจากการใช้ยา'
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 08 เม.ย. 2008, 13:13

ข้อเขียนของนักศึกษาค่ะ (ต่อ)

นั่นคือหลักการของการบริบาลเภสัชกรรม ที่สภาวิชาชีพกำลังเร่งรัดนโยบายการศึกษาเภสัชศาสตร์ให้มีมาตรฐานเดียวกัน คือ เป็นการบริบาลเภสัชกรรม 6 ปีทั่วประเทศ
และทำให้เกิดการถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ว่า มันเหมาะสมหรือไม่ และต่อจากนี้ไปคือทัศนะของผม
ที่มองว่า บางทีการที่บังคับให้เรียนบริบาลเภสัชกรรม 6 ปี ทั่วประเทศนั่นแหละ จะเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้บรรลุวัตถุประสงค์

การทำงานในแบบสหสาขาวิชาชีพโดยมีเป้าหมายที่ความปลอดภัยของผู้ป่วย ประสานงานและส่งต่อข้อมูลทั้งในส่วนของเภสัชกรเองและสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย เพื่อให้การบริบาลทางเภสัชกรรมแก่ผู้ป่วยเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และต่อเนื่อง

          การทำงานในแบบสหสาขาวิชาชีพโดยมีเป้าหมายเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยนั้นเป็นสิ่งที่เภสัชกรทุกคนต้องคำนึงถึงก่อนเป็นอันดับแรก
แต่หากพิจารณากันให้เห็นชัดๆแล้วนั้น การที่เภสัชกรสามารถขึ้นไปทำงานร่วมกับสหวิชาชีพสาขาอื่นๆได้อย่างภาคภูมินั้น เป็นเพียงผลลัพธ์ จาการสนับสนุนของวิชาชีพโดยรวม
ที่เราอาจมองไม่เห็นว่าวิชาชีพสาขาอื่นๆมีส่วนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เปรียบเสมือนก้อนน้ำแข็งในส่วนที่โผล่พ้นน้ำ ส่วนหนึ่ง ในขณะที่อีกส่วนที่เป็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำ
ที่คอยสนับสนุนให้น้ำแข็งส่วนที่อยู่เหนือน้ำโผล่ขึ้นมานั้น ต้องยอมเสียสละจมอยู่ใต้น้ำ
          สิ่งที่อยากให้คำนึงถึงคือ แม้ว่าเราจะมุ่งสู่การบริบาลเภสัชกรรมในโรงพยาบาล แต่เภสัชกรเองก็ต้องพึ่งพาความรู้ใหม่ๆส่วนใหญ่ จากในรั้วมหาวิทยาลัย
ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ทางวิชาการที่มีคุณภาพสูง เนื่องจากเภสัชกรโรงพยาบาลเองไม่มีเวลาในการศึกษาความรู้ต่างๆด้วยตนเองมากนัก และต้องพึ่งพาการทำงานของเภสัชกร
ที่ทำงานนอกโรงพยาบาลซึ่งทำงานเชิงรุกในการสร้างเสริมสุขภาพ ตามนโยบาย สร้างนำซ่อม เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงลดอัตราการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาล เป็นปราการที่สำคัญของการสาธารณสุขของประเทศ หากขาดในส่วนนี้ จะต้องมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล และนอกจากนี้เภสัชกรยังต้องดูแลเรื่องผลิตภัณฑ์ต่างๆที่นอกจากจะต้องดูแลเรื่องยาเป็นหลักแล้วนั้น ยังต้องขยายขอบเขตความรับผิดชอบไปถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพด้านอื่นๆด้วย
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 08 เม.ย. 2008, 13:14

ข้อเขียนของนักศึกษาค่ะ (ต่อ)

หล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชนซึ่งจะเป็นผู้ป่วยในวันใดวันหนึ่ง แต่หากเภสัชกรช่วยกันดูแลระบบต่างๆที่อยู่นอกโรงพยาบาลให้ดี ปริมาณของประชาชนที่ป่วย หรือความถี่ของการป่วยก็น่าจะลดลง ตราบใดที่งานด้านการดูแลผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลยังมีความสำคัญอยู่ การบังคับให้เภสัชกรที่ต้องการทำงานเหล่านั้น ต้องเรียน 6 ปี ตามมาตรฐานใหม่ที่สภาวิชาชีพกำหนดขึ้น นอกจากจะไม่ยุติธรรมต่อผู้เรียนแล้ว ยังไม่ยุติธรรมต่อประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียภาษีสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาเภสัชศาสตร์ด้วย และจากประโยคที่ว่า

ซึ่งการบริบาลเภสัชกรรมในโรงพยาบาลขนาดต่างๆ จะมีความแตกต่างกันไปตามกลุ่มของผู้ป่วย สภาวะโรคและยาที่ใช้รักษา ทั้งนี้ควรพิจารณาตามบริบทและความจำเป็นตลอดจนสภาวะแวดล้อมของโรงพยาบาลนั้นๆ  แต่สิ่งที่เป็นหน้าที่ของเภสัชกรที่ต้องทำด้วยความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ป่วยใช้ยาได้ผลดี คือการค้นหาปัญหา การแก้ไข การป้องกันปัญหาที่เกิด หรืออาจเกิดจากการใช้ยา

นั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่า การให้การบริบาลเภสัชกรรมในโรงพยาบาลเองก็ไม่ได้แสดงให้เห็นความจำเป็นในการที่จะต้องเรียนในระดับปริญญาตรีนานถึง 6 ปี เนื่องจากโรงพยาบาลต่างๆมีความแตกต่างกัน การปรับหลักสูตรให้ยืดหยุ่นขึ้นภายในระยะเวลาการศึกษา 5 ปีน่าจะมีประโยชน์กว่า เพราะเมื่อเภสัชกรเรียนจบก็สามารถไปทำงานในโรงพยาบาลต่างๆได้ แต่หากรู้สึกว่า ความรู้ในระดับปริญญาตรีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลต้นสังกัด การกลับมาศึกษาต่อน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า โดยที่ผู้เรียนปริญญาตรีที่ทำงานในส่วนอื่นๆ ไม่ต้องเสียเวลาและเงินทองในระยะเวลาเรียนที่เพิ่มขึ้น และรัฐเองก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในส่วนนี้

บางทีการบังคับให้เรียนปริญญาตรี 6 ปีนั้น อาจทำให้เกิดช่องโหว่ ในงานด้านอื่นๆที่ต้องการเภสัชกรไปดูแล และสุดท้าย การบริบาลเภสัชกรรมเองก็อาจล้มเหลว เพราะขาดแรงสนับสนุนจากเครือข่ายเภสัชกรที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านต่างๆที่อยู่นอกโรงพยาบาล เครือข่ายเหล่านี้ อาจมองไม่เห็นด้วยตา แต่มีความสำคัญมากกว่าที่คิด

จนถึงวันนี้ผมยังคงมีความหวังอยู่ครับ ว่าเด็กรุ่นหลังจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียโอกาสในราคาแพงมหาศาล และรัฐไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดการศึกษาในส่วนที่เพิ่มขึ้นมา
ในขณะที่วิชาชีพยังคงก้าวไปข้างหน้า ในการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับยา ที่เภสัชกรเข้าไปดูแลการใช้ยาได้เกือบทุกระบบในปัจจุบัน ไม่อยากให้ความพยายามเหล่านั้นต้องสูญเปล่า เพราะการลอกเลียนแบบการศึกษาจากต่างประเทศโดยไม่ดูสภาพสังคมไทย
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 08 เม.ย. 2008, 13:18

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ทิศทางของงานในอนาคต จะมุ่งไปที่คนไข้ เป็นรายบุคคล แต่ขาดมิติของสังคม
ถ้าคิดตามที่มีคนเขียนไว้ก่อนนี้ก็คือ เราเน้น pharm care ที่เป็น individual (patient) แต่ไม่เน้น pharm care ที่เป็น community
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย sting19 » 08 เม.ย. 2008, 13:31

เห็นด้วยกับหลักสูตร 6 ปี
เพิ่มระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติเป็น 2 ปี
เรียนตัวพื้นฐาน 4 ปี
ผมเชื่อลึกๆว่าการฝึกงาน 2 ปี น่าจะเพียงพอสำหรับเภสัชกรที่จบออกมาประกอบวิชาชีพ
และเห็นควรให้สังคายนาหลักสูตรใหม่ทั้งหมด(ทั้งประเทศ)
เพื่อจะตอบให้ได้ว่าเภสัชกรที่ดีของประเทศไทยควรต้องศึกษาอะไรที่จำเป็น ในระยะเวลา4+2 ปี
ในใจก็อยากถามว่าสอบ 1 วัน กับ ฝึกงาน 2 ปี ความชำนาญอยู่ที่ไหน
เรามองข้าม/ให้ความสำคัญ กับการฝึกงานน้อยเกินไปรึเปล่า
sting19
 
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2005, 14:53

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 08 เม.ย. 2008, 14:58

เมื่อประมาณปี พศ.2535-2538(จำไม่ได้แน่นอน ตอนนั้นอยู่นิวซีแลนด์)  ได้อ่านนิตยสาร time เขาบอกว่าจากผลสำรวจทั่วประเทศนิวซีแลนด์พบว่าวิชาชีพที่ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดอันดับหนึ่ง คือ เภสัชกร.....แปลกใจไหมคะ เภสัชกรที่นิวซีแลนด์ใช้เวลาเรียนเพียง 4 ปี+ ฝึกงาน 1 ปีเท่านั้น (รู้สึกแพทย์จะได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับ 4)        การเรียน 6 ปี หรือเรียน 4 ปีกับฝึกงาน 2 ปีของเรา(หากทำอย่างนั้นจริง)  จะรับประกันได้ไหมคะว่า จะทำให้ประชาชนเชื่อถือไว้วางใจเราได้เท่าการเรียน 4 ปี+ฝึกงาน 1 ปีของนิวซีแลนด์
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย zartingtong » 08 เม.ย. 2008, 15:10

บางคนยิ่งฝึก ยิ่งทำงานนานยิ่งเข้าหม้อไปหมด

บางแห่งให้ไปฝึกแต่เด็กที่ไปฝึกไม่ได้ลงมือทำ ได้แต่นั่งดู
ก็ทำงานไปจริงๆนั่นแหละถึงจะรู้จริง
เรียกว่าให้นั่งดูข้างเวทีนานๆยิ่งเรื้อ พาลจะหมดเรี่ยวแรงไปชกจริง
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย PRACHASAN » 08 เม.ย. 2008, 19:22

บอกแล้วให้ทำการเปิดเวทีใหญ่ของทุก Field ในวิชาชีพ เพื่อการระดมพลังความคิดครั้งใหญ่ของประเทศ ก็ยังเงียบๆ อยู่อีก สภาเภสัชกรรม ต้องตอบคำถามมากมาย... โดยเฉพาะกรรมการสภาส่วนที่มาโดยตำแหน่งก็ยิ่งต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มากๆ ผมไม่ถามถึงส่วนที่มาจากการเลือกตั้งหรอกเพราะไม่ยอมแสดงบทบาท ของการเป็นแกนนำสร้างการมีส่วนร่วมกลับไม่พากันสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ให้นายกแสดงเป็นหลัก ก็นายกมาจาก Paradigm เก่า จะมาเปลี่ยนแปลงสู่พื้นที่ใหม่ ยากมาก... ขอให้ทุกคนอดทน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กันต่อไป เพื่อวันข้างหน้า....
Different Leading to Development
แตกต่าง เพื่อ เติบโต
PRACHASAN
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2006, 23:11
ที่อยู่: Khon Kaen, THAILAND

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 09 เม.ย. 2008, 08:26

แปลกนะ  เราว่าเขาหัวเก่า  แต่นายกฯและกรรมการสภาฯกลับว่าพวกเราหัวเก่า ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง........
เมื่อไหร่ เขาจะฟังได้ยินซะที  ว่า....ไม่มีใครต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเลย........
เราอยากเปลี่ยนแปลงมากกกกกก......เปลี่ยนหลายๆๆๆๆอย่าง......และที่อยากเปลี่ยนมากที่สุดก่อนใครเพื่อนเลย คือ....เปลี่ยนนายกสภาฯ
เพราะคงจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่พวกเราอยากให้เปลี่ยนหลายๆๆๆอย่าง......เว้นแต่ท่านนายกสภาฯจะรีบเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยด่วน
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย NOOMCHAN » 09 เม.ย. 2008, 08:33

ฟอร์มทีมสภาเงา
หาอีเมลล์แอดเดรสกรรมการสภาทุกคน ส่งความเห็นอย่างบริสุทธิ์ใจไปหาอย่างต่อเนื่อง
ประกาศผลดำเนินการไปทุกเวปของเภสัชกรไทย


ลองมะ
ไม่ต้องใช้เงินด้วย เพราะยังไงทุกคนก็เข้าเน็ทอยู่แล้ว

8)
คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว    คนล้มเหลวคือคนที่ล้มเลิกต่างหาก



ผมชื่อ..." หนุ่มจัณฑ์"  ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
NOOMCHAN
 
โพสต์: 140
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 เม.ย. 2008, 12:07

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 09 เม.ย. 2008, 08:51

อีกนิดดด..การกักเด็กไว้ให้แก่อยู่ในมหาวิทยาลัยนาน...นอกจากสูญเสียทางเศรษฐกิจ  สูญเสียไฟในการทำงานแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้นได้กี่มากน้อย ในเมื่อเด็กเองก็รู้อยู่ว่าไม่ต้องรับผิดชอบจริง แค่ใช้เวลาให้หมดไปครบตามที่อาจารย์กำหนด แหล่งฝึกก็ไม่อยากให้เด็กทำงานจริงเพราะกลัวผิดพลาด เสียของเสียเงิน และการมาอยู่นานโดยไม่ทำจริงก็เป็นเรื่องเกะกะมากกว่าจะได้ประโยชน์ แหล่งฝึกเอกชนน่ะไม่อยากให้เด็กฝึกของเขามากหรอกเพราะรู้มาก พอจบไปทำงานก็อาจกลับมาทำแข่งกับเขา...ถ้าเราให้เด็กฝึกเหมือนพนักงานฝึกหัดได้เงินเดือนผลจะต่างกัน  เมื่อแหล่งงานต้องจ่ายเงินเดือน เขาก็จะคาดหวังกับคนที่รับเงินเดือนของเขา แน่นอนว่าเขาจะต้องให้ทำงานจริง รับผิดชอบจริง ถ้าผิดพลาดเขาจะโกรธและต่อว่าจริง  การเรียนรู้ก็จะเกิดขึ้นได้จริง ถ้าใครเรียนรู้ช้า ผิดพลาดบ่อย ก็จะลำบากเอง....ขอการฝึกงานที่ได้รับเงินเดือนแบบ pre-register เถอะ และการฝึกงานแบบนี้ 1 ปีก็พอค่ะ
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document