ก็บอกแล้วไงว่า Pharm D อเมริกาน่ะเงินดีมาก
แต่ Pharm D เมืองไทยน่ะเหมือนฟันคุด และ เภสัชกรอเมริกัน ก็ไม่ทำโรงงานยาอีกต่อไปแล้ว รวมไปถึงพวกงานค้นคว้าด้วยจะหาคนยาก
ทำทั้งทีไม่ใช่ทำครึ่งๆกลาง ก็ต้องเลิกกฎหมายที่ให้เภสัชกรทำโรงงานยา แต่ให้นักวิทยาศาสตร์ Pharm Sci ทำแทน (แล้วคุณจะเอาไหมล่ะ?)
แล้วพวก Pharm D ในอเมริกันก็ไม่ค่อยเรียนต่อปริญญาเอกเพราะเงินดีอยู่แล้วจะไปทำ Ph.D ทำไม
อาจารย์โรงเรียนเภสัชอเมริกันที่สอน Pharm Sci ต่อไปก็ไม่ใช่เภสัช
ตอนนี้เลยมีแต่หัวหงอกอายุเกิน 60 (เก่งแต่แก่ยักแย่ยักยัน)

ทำไมไม่ดูอังกฤษบ้างล่ะหือ
เอาแบบฟันธงเลยล่ะน่ะ ทำอย่างนั้นต่อไปไม่ช้าก็เร็วเภสัชจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เภสัชกรโรงพยาบาล และร้านขายยาจะกลายเป็น Pharm D
ไม่ช้ากฎหมายก็จะแยก พวกโรงงานยา ออกมาเหมือนอเมริกัน
พวกทำงานรัฐแต่ไม่ใช่บริบาลเภสัชกรรม ก็ไม่มีอะไรดีกว่า เงินเดือน start ดีหน่อย แล้วต่อไปอาจไม่ใช่เภสัช
แล้วตอนนี้แค่พวกอยากทำงานโรงพยาบาลก็ไปเรียน 6 ปี ส่วนพวกอยากทำหลายๆอย่างก็เรียน 5 ปีต่อไปตามเดิม
ลำบากแค่ไหนครับ
หรืออยากให้แยกกันเป็นเสี่ยงๆไปเลย คณะเภสัชก็ต้องสอน Pharm D พวกหนึ่ง และนักวิทยาศาสตร์ Pharm Sci (ที่ไม่นับเป็นเภสัชกร) อีกพวกหนึ่งแบบอเมริกาน่ะ
อนาคตที่น่ากลัวสำหรับประเทศกำลังพัฒนามากกว่านะ