ในความเห็นของผม ผู้เคยเรียกตัวเองว่าครู และเป็นลูกของคุณครู
ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อน
ที่บ้านคุณพ่อ คุณแม่ ของผม ท่านเปิดสอนพิเศษ ในระดับ ป.1-ป.6 กล้าพูดว่าเคยมีเชื่อเสียงและมีจำนวนเด็กที่มาเรียนมากที่สุด ในอำเภอแห่งหนึ่ง ของ จ.พังงา ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่เลิกกิจการสอนพิเศษตามคำขอร้องของผม (ผมขอร้องท่านให้เลิกสอนพิเศษอยู่หลายปี ด้วยอยากให้ท่านพักผ่อน ขอร้องอยู่หลายปีกว่าท่านจะเลิกกิจการ)
ผมเริ่มเป็นครู ครั้งแรกก็ที่บ้านที่พังงานี่แหละ ด้วยการสอนเด็กๆแทนคุณพ่อ คุณแม่ บ้าง ในช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
โดยรวมแล้วผมสนุกและมีความสุขมากที่ได้สอนเด็กๆ มีบางครั้งบ้างที่รู้สึกหัวเสียเมื่อต้องเจอเด็กดื้อ จิตวิทยาในการกำราบเด็กดื้อผมสู้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ ใครคิดว่าการสอนพิเศษเด็ก ป.1-ป.6 ง่าย ผมว่าไม่จริง การสอนเด็กประถม นั้นต้องใช้จิตวิทยามากกว่าสอนเด็กมัธยมอยู่หลายขุม
เด็กใต้อยากไปอยู่เหนือ
ผมจบคณะเภสัชศาสตร์ มอ. ตั้งใจว่าอยากไปใช้ชีวิตที่ภาคเหนือในช่วงเริ่มต้นของการเป็นเภสัชกร แล้วค่อยย้ายกลับบ้าน
เหตุที่อยากไปอยู่ภาคเหนือ เพราะฮักคนเมืองขนาด (เคยมีแฟนเป็นสาวพะเยา 5555555555)
เริ่มชีวิตราชการด้วยการเป็นเภสัชกร รพ.ชุมชน แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ชีวิตในรพ.ก็ไม่ต่างจากเภสัชกร รพ.ชุมชนทั่วๆไปแต่ที่ต่างบ้างก็คือ เป็นเภสัชขายเวรตัวยง ขายเวรไปหาเด็ก ม.ปลาย

ผมไปสมัครงานที่สำนักสอนพิเศษ ติวเตอร์ แห่งหนึ่ง ด้วยความที่อยากทำงานที่ใจรักและฝันไว้ โชคเข้าข้างที่นั้นขาดอาจารย์ติวเตอร์วิชา เคมี พอดี ผมอธิบายแนวทางการสอนและสาธิตการสอน ที่นั้นตอบตกลงรับผม ความฝันที่จะเป็นติวเตอร์วิชาเคมีจึงเป็นจริง
ผมมีความสุขมากกับการสอนวิชาเคมี เตรียมตัวทำการบ้านก่อนไปสอนทุกครั้ง และถ่ายทอดวิทยายุทธ์วิชาเคมีทั้งหมดที่ได้รับมาและคิดขึ้นเองให้เด็กๆม.4-5-6 เวลาสอนผมเรียกตัวเองว่า พี่ และ ครู เวลาเด็กเรียกผมว่าครู ผมรู้สึกมีความสุขมาก

ผลงาน เด็กม.6 เกือบทั้งหมดที่สอน สอบent.ติดม.รัฐ อาจเพราะเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน
และมี 1 คน ที่ทำให้ผมภูมิใจเป็นพิเศษ คือ น้องเค้าสอบเคมีโอลิมปิก ได้คะแนนเป็นที่ 1 ของภาคเหนือ
ผมอยู่ภาคเหนือ 1 ปี และตัดสินใจย้ายกลับใต้ ด้วยกลัวว่าถ้าไม่รีบย้าย มีโอกาสจะได้อยู่เหนือนานแน่ๆ
กลับใต้ ลาออกจากติวเตอร์ มาเป็นเภสัชกร รพ.ชุมชน แห่งหนึ่ง อยู่ได้ 3 เดือน หัวหน้าฝ่ายขอย้ายเพื่อไปเปิดร้านยา
ด้วยความที่หัวหน้าฝ่ายการพยาบาลกับผอ.รพ. เอ็นดู เลยได้เป็น หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมชุมชน
อยู่ไปอยู่มา ผอ.เกิดอุบัติเหตุบางอย่างไม่อาจทำหน้าที่ได้ เลยได้ตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ เป็นอยู่เกือบปี เกือบตาย
รอดตายมาได้ด้วยความภูมิใจและประสบการณ์ชีวิต อันล้ำค่า
ปัจจุบันลาออกจากราชการ เปิดร้านยา เป็นเภสัชกรร้านยา ที่ จังหวัดที่เป็นเกาะ
หลังจากกลับใต้ ได้ไปกราบคารวะอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธ์วิชา เคมี ให้ ท่านเป็นอาจารย์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชภัฏ แห่งหนึ่ง ท่านชวนเปิดสถาบันกวดวิชาเคมี ผมปฏิเสธ และเรียนท่านตามตรงว่า เราสู้ อ.อุ๊ ไม่ได้หรอก ไม่ใช่เพราะว่าวิทยายุทธ์เคมีของอาจารย์ด้อยกว่า แต่เราสู้การตลาดของ อ.อุ๊ ไม่ได้หรอก พูดคุยเหตุผลกันมากมาย ในที่สุด ท่านอาจารย์ก็เห็นด้วย ว่าอย่าเปิดดีกว่า
เปิดร้านยาใหม่ๆ ยอดขายช่างน้อยจัง จึงรับจ้างสอนพิเศษวิชา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ให้เด็ก ม.ต้น สอนไปจนเมื่อร้านยาอยู่ได้แล้วก็เลิกสอน และเป็นเภสัชกรร้านยาอย่างเดียว
โปรดติดตามตอนต่อไป
