mingrx19 เขียน:
เราต้องแยกกันให้ออกกันให้ออกแล้วล่ะค่ะว่า อันไหนจรรยาบรรณ อันไหนธุรกิจ เชื่อว่า เภสัชกรร้านยาที่ดีต้องรู้จักการทำธุรกิจค่ะ ไม่งั้นร้านยาของเภสัชรือจะสู้ร้านยาของหมอตี๋ได้
ตามความคิดเห็นของหนูนะคะ มันเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจค่ะ
เห็นด้วยกับน้องหมิ่ง
คนก็มีดีมีเลวปะปนไปทุกวงการ
เภสัชกรก็เหมือนกัน
เจ้าของกระทู้ถามว่า คิดอย่างไรกับ
"เภสัชกรที่สั่งยาเพื่อหวังโปรแกรมทัวร์จากบริษัทยา"
คนที่ทำแบบนี้ ก็คงมีทั้งคนดีบ้าง ไม่ดีบ้างปนๆกันไป
ตราบใดที่เภสัชกรไม่จ่ายยาเกินความจำเป็นให้แก่คนไข้
และ demand-supply ตรงกัน
คนไข้ยินดีจ่าย... ไม่ได้ผิดตรงไหน
ร้านยาจะโขกสับราคาคนไข้ได้สักเท่าไหร่กัน
ยกตัวอย่างชัดๆ
เมื่อวานลูกค้าเอายาจากคลินิคมาให้ดู มีตกขาวนิดเดียว(ลักษณะเป็น candida ตกขาวแบบแป้งเปียก) ล่อยาไปซะเจ็ดซอง
ได้ ofloxacin 100 mg มาสามแผง(expire เดือนหน้า) atarax 10 mg กิน 2x3 metronidazole 1x3
อีกสี่ตัวดูไม่ออก เพราะไม่เคยขาย (ยาทุกซองไม่มีชื่อ และเป็นยานับเม็ด ยกเว้น oflox เป็นแผง ถึงรู้ว่าใกล้หมดอายุ)
พร้อมกับยาสอด nystatin อีกหกเม็ด
ค่ายาแปดร้อยบาท...
เนื่องจากลูกค้าบอกว่าทานแล้วง่วงนอนมาก และยาสอดตัวนั้นลูกค้าสอดแล้วไม่ละลาย
เลยมาหาที่ร้านยาขอเปลี่ยนยาทั้งหมด
ตอนนี้ซองยายังอยู่ในถังขยะสดๆร้อนๆ เพราะลูกค้าไม่อยากกินอีกแล้ว วันหนึ่งกินยาสิบห้าเม็ด
อยากถามว่า...
เภสัชกรที่ไหนจะสามารถจ่ายยาได้เยอะขนาดนี้
ที่แน่ๆ ธุรกิจมักจะสวนทางกับอุดมการณ์เสมอ
ขึ้นอยู่กับว่าจะหาจุดยืนตรงไหน ให้ทั้งสองอย่างดำเนินไปด้วยกันอย่างสมดุลย์
เรื่องซื้อยาเพื่อหวังโปรแกรมทัวร์ ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเภสัชกรที่ทำแบบนั้นเป็นเภสัชกรที่ไม่ดี
เพราะเภสัชกรที่ไม่ดีจริงๆ น่าจะเป็นเภสัชกรแขวนป้ายมากกว่า