กลัวอะไร กับ ความเจ็บปวด

[DrugCenter]

ผมว่าควรเหลือเงินสดในมือไว้หนุมเวียนสักก้อนนะครับ อย่างน้อยก็ 3-5 หมื่นบาทครับ

[maymay]

น่าคิดค่ะ ที่คุณ naname พูดมา

ถ้าเราไม่มีทุนสำรองมากพอ  แต่อยากเปิดร้าน

จบมา น่าจะหาประสบการณ์โดยการทำงานในร้านยาก่อน เก็บตังค์ไว้ส่วนนึง แล้วค่อยเปิดร้าน

(พี่เกาะบอยเปิดร้านใหม่ ไปทำงานร้านพี่เค้าก่อน เก็บตังค์ไว้เปิดร้าน)

[นิวัช]

นั้นไง ถึงขอภาคต่อจากภาคเปิดร้านไง

[sukanya_rx19]

มารอฟัง ต่อ ...............

[kohboy]

เรื่องที่น่าเปิดอาจไม่ใช่อย่างที่คุณเกาะบอยกล่าวทั้งหมดครับ ผมว่าเรื่องน่ากลัวของการเปิดร้านคือ...
เรื่องน่ากลัวกลายเป็นว่า ยอดขายต่อวันจะเป็นเท่าไหร่ ยอดขายต่อเดือนจะเป็นเท่าไหร่ เเล้วยอดขายต่อปีจะเป็นเท่าไหร่
ผมเชื่อว่าการเปิดร้านขายยาของเภสัชกรที่จบมาเป็นเรื่องที่คนจบเภสัชมาใฝ่ฝัน
แต่ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ค่ายาแรกเข้า การตกแต่งร้าน
แต่ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงอยู่ที่ยอดขายแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปีจะคุ้มค่ากับรายจ่ายที่จ่ายออกไปหรือเปล่า
หลายคนจน หลายคนเป็นหนี้เพราะคิดหวังว่าไปตายดาบหน้า คิดว่าต้องทำได้ ต้องขายได้
แต่ในความเป็นจริง ผมอยากให้น้องน้องเภสัชคิดเผื่อไว้ด้วยครับ
ค่าเช่า/เดือน สมมุติ 1 หมืน  ค่านำค่าไฟตกเดือนละ 5 พัน
ค่าตัวค่าเเรงเภสัชสมมุติเดือนละ 2 หมื่น
ค่าใช้จ่ายรวมก็ประมาณ 3 หมื่นกว่ากว่า
สรุปคุณต้องกำไรอย่างน้อยวันละ 1 พันบาท
ยอดขายคุณต้องอย่างน้อยวันละ 4-5 พันบาท
ความฝันกับความจริงต่างกันเหมือนกันน่ะครับ
คิดความเสี่ยงด้วยครับ

"อยากให้มานั่งใกล้จัง จะสาธยายให้ฟัง ว่า...คิดผิด"

เอางี้..
-ถ้าขายปลีกได้วันละ 4 พันนะครับ บริหารดีๆ เดือนหนึ่ง เหลือได้ไม่น้อยกว่า4หมื่น
-ค่าเช่าเดือนละหมื่น อย่างที่พูดมาข้างบนนะครับ ถ้าเภสัชทำเอง ดูแลเอง...ให้ยอดขายปลีกแค่ 2500 บาทพอ...รับรองสบาย ส่งลูกเรียนปริญญาเอกได้ละกัน

เรื่องค่าตัวเภสัช
ผมโพสไว้แล้วนะครับ ว่า "ตั้งไว้เท่ๆ"
เปิดร้านเองนะครับ จะไปคิดให้มากทำไม เงินสดเราก็เป็นคนเก็บ ดอกเบี้ยก็เป็นของเรา โอกาสในการหมุนเงินก็เป็นของเรา สินค้าตั้งต้นก็เป็นสมบัติของเรา(แถมมูลค่าก็ยังไม่สูญหายเหมือนของในตลาดสด)  ชื่อเสียงที่ดีขึ้นๆ ก็เป็นของเรา เครดิตการซื้อเชื่อก็มากขึ้นๆก็เป็นของเรา โอกาสที่มากขึ้นๆก็เป็นของเรา เวลาว่างก็เป็นของเรา อิสระก็เป็นของเรา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ แปลงเป็นตัวเงินได้ไม่รู้เท่าไหร่

[kohboy]

นั้นไง ถึงขอภาคต่อจากภาคเปิดร้านไง

เอาอีกแล้วพี่นิวัช
พี่เปิดบทความดิ
แล้วผมจะเสริมให้

"ทำเป็นถ่อมตัว...น่าหมั่นใส้"

[kohboy]

น่าคิดค่ะ ที่คุณ naname พูดมา

ถ้าเราไม่มีทุนสำรองมากพอ  แต่อยากเปิดร้าน

จบมา น่าจะหาประสบการณ์โดยการทำงานในร้านยาก่อน เก็บตังค์ไว้ส่วนนึง แล้วค่อยเปิดร้าน

(พี่เกาะบอยเปิดร้านใหม่ ไปทำงานร้านพี่เค้าก่อน เก็บตังค์ไว้เปิดร้าน)

เล่าให้ฟังก็ได้
ตอนนี้มีน้องคนหนึ่ง จบใหม่จากหัวเฉียว
พ่อแม่ของน้องเค้ามีทุนอยู่แล้ว อยากให้หาประสปการณ์
ผมเลยชวนมาอยู่ด้วย
(เงินเดือนเยอะ ตามมาตรฐานของ"เกาะช้างฟาร์มาซี")
คอยดูนะ...อีกไม่เกินสองปี แถวสัตหีบ จะมีดาวรุ่งดวงใหม่..แน่นอน

ปล.
ถ้าเมย์เมย์ สนใจจริง..ก็ว่ามา

[sukanya_rx19]

เห็นด้วยในเรื่องค่าตัวเภสัชนะคะ เปิดเริ่มแรก ถ้าคิดเงินเดือนตัวเองด้วยไม่ไหวคะ ทำยังไงไม่ไหว ต้องมอง ว่ามันเป็นธุรกิจของเราคะ
เปิดเริ่มเเรกค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำงานเก็บเงิน เงินเก็บก็ของเราเเบบที่พี่ เกาะบอย บอก พออยู่ตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าตัว หรือเงินเดือนเภสัชคะ ถึงเวลา ตรงนี้มันก็ตามมาเอง 

[maymay]

เล่าให้ฟังก็ได้
ตอนนี้มีน้องคนหนึ่ง จบใหม่จากหัวเฉียว
พ่อแม่ของน้องเค้ามีทุนอยู่แล้ว อยากให้หาประสปการณ์
ผมเลยชวนมาอยู่ด้วย
(เงินเดือนเยอะ ตามมาตรฐานของ"เกาะช้างฟาร์มาซี")
คอยดูนะ...อีกไม่เกินสองปี แถวสัตหีบ จะมีดาวรุ่งดวงใหม่..แน่นอน

ปล.
ถ้าเมย์เมย์ สนใจจริง..ก็ว่ามา

สนใจไรคะพี่ 

ยังไม่คิดเปิดร้านใหม่เลยค่ะ เหนื่อยจะแย่

[kohboy]

...
ปล.
ถ้าเมย์เมย์ สนใจจริง..ก็ว่ามา

สนใจไรคะพี่ 

ยังไม่คิดเปิดร้านใหม่เลยค่ะ เหนื่อยจะแย่

ขอโทษครับ
นึกว่ายังไม่มีร้าน จะชวนมาอยู่ด้วย

และที่สำคัญ..ผมจำผิดคน

[kohboy]

เจอแล้วครับ
ข้อความที่เคยโพสท์ไว้

http://www.pharmacafe.com/board/index.p ... 685.0.html

ผมคิดไม่เหมือนคนอื่นครับ

เปิดทันทีที่จบ

เจ๊งช่างมัน

เจ๊งแล้วเป็นครู
เปิดใหม่ได้

เปิดใหม่แล้วเจ๊ง
ก็เป็นครูอีก
เปิดใหม่อีก
ไม่ตายมันคงจะสำเร็จซักร้านหละ

"สู้ซะอย่าง"

[apotheker]

ผมว่าเดี๋ยวนี้เภสัชกรหาง่ายกว่าทำเลดีๆซะอีกนะ ว่ามั้ย
แล้วทำเลดีๆเนี่ยนะมันก็ไม่ได้จะดีอยู่อย่างนั้นด้วยนะ มันแปรไปตามเวลาด้วย

[นิวัช]

ผมว่าเดี๋ยวนี้เภสัชกรหาง่ายกว่าทำเลดีๆซะอีกนะ ว่ามั้ย
แล้วทำเลดีๆเนี่ยนะมันก็ไม่ได้จะดีอยู่อย่างนั้นด้วยนะ มันแปรไปตามเวลาด้วย

ร้านข้างๆ ถึงมาเปิดแข่งไง

[kohboy]

ผมว่าเดี๋ยวนี้เภสัชกรหาง่ายกว่าทำเลดีๆซะอีกนะ ว่ามั้ย
แล้วทำเลดีๆเนี่ยนะมันก็ไม่ได้จะดีอยู่อย่างนั้นด้วยนะ มันแปรไปตามเวลาด้วย

ผมรอมือเซียนแห่งพิดโลกมาโพสท์นะเนี่ย

แต่มาแบบ..สั้นจุ้ดจู๋
(ผิดคาด เล็กน้อย)

เรื่องทำเล ขอเพิ่มเติมหน่อย
แนะนำนะครับ
ในขั้นเริ่มต้น...
อย่าจ้องที่เดียว ดูไว้หลายๆที่หน่อย
เพราะบางทีมันช้า  และเสียเวลา เสียทรัพยากรโดยใช่เหตุ
ผมเคยมีประสปการณ์เรื่องจ้องทำเลแถวถนนลอยเคราะห์ ที่เชียงใหม่ (ถนนจากริมคูเมืองท่าแพ เข้าไนท์บาซาร์)
จ้องเป็นปี ขี่มอไซค์ไปถามตั้งแต่ต้นถนน ยันท้ายถนน ไปบ่อยมาก
เทียวไปเป็นปี...แต่ไม่ได้
คิดแล้วขำความพยายามของตัวเองเหมือนกัน

ทำเลเกรดเอ ก็ต้องราคาแพงครับ
ตามกฏดีแมนด์-ซัพพลาย...ของมีน้อย คนต้องการมาก ราคาย่อมสูงขึ้น เป็นธรรมดา



"แต่โชคก็มักจะเข้าข้างคนขยัน นะครับ"

[kohboy]

ถึงจะทำร้านยาอยู่แต่ยังไม่มีประสบการณ์การเปิดร้านยาเลย เลยไม่ค่อยทราบรายละเอียด  ยังไงพี่เกาะบอยแนะนำอีกเยอะๆนะ เผื่ออนาคตจะเปิดร้านเองบ้าง (เมื่อแต่งงานแล้วอ่ะ)

กรณีของน้อง "โสมมะแร็ท"
ผมว่าไม่ต้องแนะนำหรอกครับ
"ขอกงสีมาซัก10ล้าน บวกกับเงินสามีอีก10ล้าน เป็น20ล้าน ซื้อตึกในทำเลที่ดีที่สุดของหัวหิน ขายยาเอากำไรซัก5เปอร์เซนต์ของราคาทุน...ก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน(อีก)แล้ว"