เภสัช HCU อยู่ไหนกันบ้างค่ะ

[kikkapu_Rx]

ฟริ้วววววว มาป่วนกระทู้กันหน่อย เห็นเงียบ ๆ กัน 555+

สวัสดีพี่หนึ่ง พี่มีนะ พี่หญิง พี่แก่น พี่วัฒน์ พี่ขิง พี่ต่ายสายขวัญ
พี่วุตตี้ พี่กุมาร พี่มหา พี่หนำเลี๊ยบ พี่สา พี่แก่น พี่กระต่าย
พี่ลิลลี่ พี่แน็ต พี่กานต์ พี่แอม พี่โอ๋ พี่พล พี่่นัท ป๋าวุฒิ
พี่ยุ้ย พี่นะมล พี่แพท พี่แหม่ม พี่จิว พี่นิก พี่ตูน พี่น๊อต
พี่ณัฐ(แควนพี่ขวัญ) พี่ปิง พี่แพม สุดท้ายพี่นิวัฒน์ admin และอาจารย์วิรัตน์ที่น่ารัก


คิดถึงทุกคนนะครับ...แวะมาที่นี่บ้างเพราะ First impression ไม่ค่อยดี
มาครั้งแรกโพสแบบไม่รู้เรื่องอะไรก็โดนด่าซะอ่วม(โดนรุมด้วย) 555+

พี่ ๆ มีอะไรให้รับใช้ add face book ไว้ได้นะคับ Kanon Kikkapu Thamcharoen เจอกันคับเจอกัน ^__^

[Wipada]

อาจารย์พี่หนึ่ง สวัสดีค่ะ พี่หนึ่งเคยเป็น adviser หนูตอนปีไหนสักปีนี่แหละค่ะ
เพิ่งเปิดร้านยาได้ เกือบปีค่ะ แต่ว่ายอดไม่ค่อยเท่าไหร่เลย เครียดเหมือนกัน
แต่ก้อสู้ต่อไป

[visanu]

สวัสดี น้องๆ ทุกคนครับ บอร์ดนี้ช่างเงียบเหงา เหมือนที่มหาลัยของเราเลย ส่วนวิภาดา น่าจะรหัส 44 ใช่ไหมอะ ตัวเล็กๆ

[Olive Green]

มาทักทายพี่วิษณุคนรูปหล่อหน้าคมสัน

[Wipada]

ตอบ อาจารย์พี่หนึ่งค่ะ ถูกแล้วค่ะ รหัส 44 แต่ตัวไม่เล็กนะคะ ประมาณว่าอวบๆ พี่หนึ่งหนูเครียดเรื่องร้านมากเลยค่ะ บางทีหนูอยากจะเลิกทำแล้วอ่ะ ฮือ ฮือ

[kikkapu_Rx]

อ้าวทำไมจะรีบปิดร้านซะล่ะ ทำไม่ไหวหรืออยากทำอย่างอื่น แอบเสียดายถ้าจะมีเภสัชออกจากร้านไปอีกคน T__T

[Wipada]

ถ้าเลือกได้ ก้ออยากทำต่อแหล่ะค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรเหมือนกันก้อเรียนมาทางนี้ แต่ว่ายอดไม่ค่อยน่าพอใจ ทั้งๆที่พยายามมทำทุกกลยุทธ์แล้ว เป็นเภสัชเองอยู่ประจำตลอดเวลา ไม่จ้างลูกจ้าง แต่ร้านแขวนป้ายกลับขายเอาขายเอา

[Wipada]

พี่kikkapu_rx นี่ รุ่นไหนค่ะ หนูคุ้นๆหน่ะ

[visanu]

ก็ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร คงต้องถามก่อนว่าทำแล้วขาดทุนหรือเปล่า ถ้าทำแล้วขาดทุนก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น แต่ถ้าทำแล้วยังมีกำไร อยู่ได้ ก็อดทนทำไป ถ้าทำแล้วไม่ขาดทุน แต่ขายไม่ดี เหมือนร้านอื่น ที่เน้นขาย ก็คิดว่า เราทำแบบเศรษฐกิจพอเพียง อดทน เหมือนปลูกต้น้ไม้ ต้องใช้เวลา กว่าจะได้กินผล ช่วงนี้ก็อย่างนี่้แหล่ะ พี่ว่าวิชาชีพเรามันอยู่ขาลง เภสัชก็เยอาะ ร้านก็เยอาะ เศรษฐกิจก็ไม่ดี รัฐบาลก็ประชานิยม (ยาฟรี) จะเอาที่ไหนไปขายดี ขายก็แย่งกันขาย คนขายไม่มีต้นทุนที่ต้องเรียนมาเหมือนพวกเรา เขาคิดว่าแคร่หยิบยาใส่ถุง ได้ 10 บาท 20 บาท เขาก็เอาแล้ว ไม่ต้องซัก ไม่ต้องถาม ไม่ต้องแนะนำ หายก็ช่าง ไม่หายก็ช่าง คนจะเป็นอะไร ก็ช่างหัวมัน สภาก็ไม่รู้ทำอะไร เฮ้อ ! บ่นอีกจนได้

[kikkapu_Rx]

เราเรียนรุ่นเดียวกันมั๊ง Wipada แหะ ๆ ๆ ^___^
เห็นต่างกับพี่หนึ่งนิดนึงครับ ว่าธุรกิจยาเป็น "ขาลง" น่ะไม่จริงเพราะ
ถ้าเป็น "ขาลง" ทำไม 7-11 ถึงจะมี Extra(ตอนนี้ 48 จาก 6000) , ทำไม BigC ต้องออกแบรนด์ Pure
ทำไม โรงพยาบาลดัง ๆ ถึงจะเริ่มมาเปิดร้านยาอีกไม่นานจะเห็น "ร้านยาพญาไท"
"ร้านยาบำรุงราษฎร์" "ร้านยาเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ" ถ้าเป็นขาลงจริง
มันจะไม่มีผู้เล่นใหม่กล้าลงมาให้สนามแข่งขันนี้อ่ะคับ

ส่วนจะรับมืออะไรยังไงเรื่องนี้ต้องคุยกันยาวแหง ๆ แต่จะบอกว่า "เภสัชหัวเฉียว"
ก็มีกลุ่มนึงที่พอรู้เรื่อง รู้ข้อมูลอินไซด์ และกำลังทำงานตรงนี้อยู่
ไว้มีโอกาสเจอกันเอามุมมองมาแชร์กันนะคับ ดีใจที่ยังมีคนคิดเพื่อคนอื่นอยู่ตลอด
ไม่ใช่ มัวมันส์กับการ "ค้ายา" เพีียงอย่างเดียว

[visanu]

ก็ที่น้องเห็น คือ ธุรกิจที่มีสายป่าย ใช่ไหมหล่ะ เขามีทุน ถึงเขาไม่มีกำไร เขาก็อยู่ได้ เช่น 7 11 ร้านยา pure ร้านพวกนี้ เขาไม่าเน้นขายยา เขาเน้นขายเครื่องสำอาง อาหารเสริม เขาทำ promotion ได้ แล้วร้านที่เป็นร้านเดี่ยวหล่ะ แข่งกับเขาไหวมั๊ย ทราบมาจากวงในว่า ร้าน extra บางที่เขาก็เงียบ แต่ที่อยู่ได้ ก็เพราะทุน ส่วนที่น้องว่ามาว่า จะมีการเปิดร้านยาในเครือโรงพยาบาล น่ะ เขาก็มีสายป่าน คือ เชื่อมโยงจากธุรกิจโรงพยาบาลเขาไง และ อีกอย่างพวกนี้ เขามองข้าม ช๊อต คือ มองไปถึงการมารับยาที่ร้านยาแล้ว ถ้าเมื่อไร คนไข้มารับยาที่ร้านยา พวกนี้ก็ยิ่งจะได้เปรียบ เพราะอะไร เพราะเขาเป็นระบบสาขา คนไข้มีความสะดวก รับที่ไหนก็ได้ เรื่องอย่างนี้พูดยาก ต้องมาเจอเอง ว่าแต่น้อง kikkapu เปิดร้านยาหรือเปล่า ถ้าเปิดแล้วยอดเป็นอย่างไร มาแชร์ได้นะ เพราะตอนนี้ ใครๆ ก็บ่น ว่ายอดขายตกทั้งนั้น ที่ลำบาก ก็ร้านยาเดี่ยวอย่างพวกเรานี้้หล่ะ สภาเคยบอกว่าร้านยาจะเป็นธงวิชาชีพ จะกลายเป็นเรื่อไททานิก ซะแล้ว หล่ะมั้ง งานนี้

[Wipada]

พี่หนึ่งคะ จะเล่าอะไรให้ฟังค่ะ ช่วงนี้ใครๆก้อบ่นว่ายอดตกใช่ไหมคะรวมทั้งร้านหนูด้วย แต่ร้านยาที่นี่ ถึงยาอื่นตก ยอดรวมร้านก้อไม่ตกค่ะ เพราะขายยาแก้ไอวันนึงเป็นร้อยๆ ขวด เดือนนึงเขาจะส่งให้ 3 ลัง ลังนึง 144 ขวด ขายขวดละ120 กำไร หนูลองบวกลบคูณหารดูแล้วเฉียดๆ 50000 เลยค่ะ บางร้านนะออกรถเบนซ์เลยค่ะ สสจ เคยเรียกประชุม เค้าก้อถาม สสจ ประมาณว่าอนุโลม ให้ขายได้วันละกี่ขวด จริงๆ แล้วหนูว่า เค้าก้อรู้กัน แหล่ะว่าร้านไหนขายบ้าง ประธานชมรมร้านยายังขายเลยนะคะ พูดไปแล้วก้อถือว่าเค้าหน้าหนาเหมือนกันนะคะ ทำมาเป็นประชุมว่า เออ เนี่ย เรามีวิธีจัดการกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง แต่จริงๆ แล้วตัวเองทำเองแท้ๆ เฮ้อ พูดแล้วก้อท้อใจ กำไรร้านเราทั้งหมด ยังไม่สู้เค้าขายยาแก้ไอแค่ลังเดียวเลย เราตัวคนเดียว จะไปสู้รบปรบมือกะใครได้ สสจ ได้ กะเค้า ขวดละกี่บาทฟะ ทำไมไม่จัดการ

[kikkapu_Rx]

ยอดตกเพราะเรา "ไม่เปลี่ยน" น่ะครับ...เราคิดแต่ว่าเปิดร้านมาเพื่อค้ายา เอ๊ย ขายยา
แต่ "เขา" คนที่รับบริการจากเราเค้าอยากได้มากกว่าแค่ยา แต่ "เขา" ต้องการ "สุขภาพที่ดี"
เปลี่ยนแค่แนวคิดนิดเดียวเราก็แข่งกับพวกสายป่านยาวได้สบาย เพราะพวกนี้ไม่มีใครอยากคบครับ
ทั้งยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ผู้แทน และบริษัทยา แต่ต้องทนคบเพราะหลวมตัวเข้้าไปให้วังวนแห่งความโลภเข้าแล้ว

1.มันเปลี่ยนมาเป็นสไตล์มาเล่นเป็น Special Categlory Killer (Specialty store + Categlory Killer)
จาก Convenience store หรือ Super Store(แต่ก็มีจุดอ่อน)
2.ตอนนี้ร้านที่เปิดทั้งหมดมีไม่กี่ร้านที่ Break Even Point ได้สำเร็จ
3.มีการรวมกลุ่มกันอยู่ลับ ๆ ทั้งหน้าม่านและหลังม่าน โดยไม่ได้รอ "สภาเต่า"

บอกแล้วครับเรื่องนี้ถ้าจะคุยกันน่ะยาววววววว มีโอกาสคงได้จัดอบรม "ร้านยาศิษย์เก่าหัวเฉียวฯ" เพราะยังไงเราก็พี่น้องกันครับ

ปล...ยกตัวอย่างเล่น ๆ ร้านเล็กสุดที่เราคุย ค้ายากัน วันละแสนครับ ร้านใหญ่ไม่ต้องพูดถึงครับวันละ 7 หลัก ยินดีแชร์ถ้ายังพอมีประโยชน์กับพี่ ๆ น้อง ๆ บ้าง

[kikkapu_Rx]

ยังไงถ้าวันอาทิตย์ที่ 25/09/2554 นี้ว่าง เชิญไปเจอกันที่โรงแรมตวันนา สุรวงศ์ ก็ได้นะครับ...
ผมมีบัตรพิเศษพี่หนึ่งกับพี่วิภาดาให้บอกว่า "คิกคาปู้" เชิญมาอย่างน้อยก็น่าจะได้ฟังไอเดียดี ๆ เกี่ยวกับร้านยา
ในการเริ่มต้นใช้ระบบ RMS และถ้าอยากเข้าร่วมหัวจมท้ายกันจบงานก็ให้เบอร์เขียนชื่อร้าน
แล้วคงได้คุย + แชร์ประสบการณ์ ทางหนีทีไล่กันอีกยาวเลยทีเดียวเชียวครับ ^___^

[visanu]

ที่น้องพูดมา ก็เห็นด้วยนะ แต่พี่ว่ามันยังมีมากกว่าคำว่าบริการอีกอย่าง คือ ราคา และ ทำเล ถึงคุณจะบริการดีแคร่ไหน แต่ถ้าราคา แพงกว่า คุณก็อยู่ลำบาก ถามว่าเราอยู่ได้ไหม เราอยู่ได้ครับ แต่จะให้ขายดีๆ เหมือนเมื่อก่อนคงยาก ที่เป็นห่วงคือน้องที่ตั้งใจจะเปิดร้านใหม่ๆมากกว่า จะเก็บเล็กผสมน้อย ตั้งตัวนี่เหล่ะ ลำบาก ส่วนเรื่องการประชุม บอกตามตรงว่า เบื่อ ประชุมแล้วก็เครียด แล้วก็ไม่เห็นมีอะไร ถามว่าทำอะไรแล้วเราได้ทั้งกล่อง ได้ทั้้งเงินมีไหม อย่างร้านบางร้านที่ไปร่วมโครงการกับรัฐ น้องก็ลองไปถามพี่เขาดูเอาเองว่าจะทำต่อไปไหม ทีน้อองบอกเรื่องมันยาว ก็ยอมรับ น้องรู้ไหมว่า ร้านยาของมหาวิทยาลัยที่ให้บริการตามหลักวิชาชีพทุกอย่าง ทำแล้วมันขาดทุน มีอยู่ 2 ที่ ที่มันกำไร คือ จุฬา กับ เชียงใหม่ ถ้าจะเน้น เรื่องบริการ โดยไม่ได้ คำนึงถึงความอยู่รอด ก็เตรียมตัว ปิดร้าน ถ้าร้านคุณไม่ได้อยู่ที่มันทำเลดีจริง ส่วนร้านที่ทำเลดี จะขายแพงกว่าร้านอื่นก็ลำบาก ถ้าน้องบอกว่าก็อย่าขายแพง เราคงไม่ได้อยากขายแพง แต่น้องก็รู้ว่าเมืองไทยมันมีวิชามารเยอาะ ถ้าไม่ได้ทุนหนา ไปแข่งราคา ก็เตรียมตัวปิดร้านอีกเช่นกัน
ส่วนคนรับบริการ ใครๆ เขาก็อยากพบเภสัช รับบริการจากเราทั้งนั้น แต่ถ้าคุณขาย แล้วทำให้เขารู้สึกว่า เขาซื้อยาเป็นชุดๆถูกกว่า คุณอาจไม่ได้เป็นร้านแรกที่ถูกเลือก จนกว่าเขาจะยอมรับ และ ไว้ใจคุณ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันต้องใช้เวลา
ส่วนที่น้องบอกว่า ให้เน้น บริการ มากกว่า ขาย ก็คำนี้เแหล่ะ ที่เราคุยกัน เราเน้นบริการ มากกว่า ขาย ไง ยอดขายถึงตก น้องไม่เข้าใจ หรือ ไง
ตอบน้องวิภาดา ทำใจเถอาะน้อง บอกแล้วต้องช่วยตัวเอง พี่ก็เห็น ประธานชมรมร้านยาจังหวัด ขายยานอนหลับ แขวนป้าย ไม่จ่ายหนี่้ มันก็ยังไปเป็นประธานชมรมร้านขายยาได้ นี่ไง สะท้อน สังคมเรา ที่ไม่ยกย่องคนดี ยกย่องผลประโยชน์มากกว่า เหมือนประเทศของเราตอนนี้
แล้วเรื่องที่สำคัญที่สุด ทีแก้ไม่ได้ คือ แขวนป้าย รู้แล้วท้อ ก็แม่ปู (อาจารย์) ยังแขวนป้ายได้หน้าตาเฉย ลูกศิษย์มันทำบ้าง จะไปผิดอะไร พวกเราส่วนน้อยทำลาย คนส่วนมาก (หรือ คนส่วนมาก ทำลายคนส่วนน้อย) ก็ไม่รู้ ปากเสียอีกจนได้ เห็นมะ ไม่หน้ามาตอบเลย ถ้าไม่พูดพาดพิง เราแต่แรก เราก็ไม่ปากเสียแล้ว