ผมว่ามันขึ้นอยู่กับสิ่งที่น้องอยากเป็นว่าอยากเป็นอะไร ทำไมถึงเข้าเภสัช ถ้าน้องอยากได้หน้าตา ศักดิ์ศรี เงินเยอะๆ เป็นที่เคารพนับถือ ถ้าเช่นนั้นไม่ใช่เภสัชหรอกคับ น้องมีเหตุผลสมควรที่จะออกไปเข้าคณะอื่นครับ เพราะหากฝืนเรียนทนเรียนก็จะเป็นเหมือนเภสัชหลายๆคนที่มาบ่นๆในกระทู้นี่ แหละครับ(ต้องกราบขอโทดด้วยครับ ผมไม่ได้มีเจตนาว่าใครนะครับ เพียงแค่อธิบายให้น้องฟัง)
โดยส่วนตัวพี่คิดว่า เภสัชกรเป็นอาชีพที่มั่นคงกว่าหลายๆอาชีพ ถ้าพูดถึงจำนวนเด็กจบ แน่นอนว่าแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ถ้าลองเปรียบเทียบกับวิศวะ
เภสัชจบมาปีหนึ่งๆไม่น่าเกินสามพันคนหรือไม่ก็มากกว่านั้นไม่มาก ครั้งหนึ่งๆสอบใบประกอบผ่านปีละพันกว่าๆ แต่วิศวะลาดกระบังปี1 มี นศ พันกว่าคน ยังไม่รวมสถาบันอื่นๆอีกอีกสองพระจอม และอีกทั้งของรัฐและเอกชนอื่นๆที่เปิดกันทั่ว ถ้าการแข่งขันในวิชาชีพเราเยอะ ทำให้เราลำบากหนักหนา แล้วพวกเหล่าวิศวะจะอยู่ยังไงครับ
ถ้าพูดถึงอาชีพแพทย์ปีนึงจบมาพันกว่าๆ เปนที่ขาดแคลนเพราะว่าแพทย์ส่วนใหญ่อยู่แต่ในเมืองครับ ในชนบทไม่ค่อยมีแพทย์ประจำอยู่นัก ดังนั้นจึงคลาดแคลน และอย่าคิดว่าในเมืองแพทย์จะไม่แข่งขันนะครับ จบมาเปิดคลินิกในเมืองก็มีการแข่งขันแน่นอน ที่แน่ๆไม่ใช่มีที่น้องที่เดียว และไหนจะระบบประกันสุขภาพ เสียเงินน้อย รักษาใน รพ ที่พูดนี่แค่อยากจะบอกว่าอาชีพไหนๆก็มีการแข่งขันครับ มากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละอาชีพ
ส่วนเรื่องเงินเดือนเนี่ย พี่ว่ามันก็ไม่ได้น้อยอะไรเลยนะครับ เท่าที่เห็นมาญาติๆพี่เปนเภสัชโรงงาน เงินเดือนห้าหกหมื่น ลูกค้าที่บ้าน เปนเภสัชผัวเมียเงินเดือนรวมกันไม่ต่ำกว่าห้าแสน เภสัชดีเทลเงินเดือนสองแสนกว่า แต่ท่านเหล่านี้มีอายุทั้งนั้นแล้วนะครับ

ถ้าเงินเดือนเด็กจบใหม่แล้วจะเอาหลายๆหมื่น ฝันเถอะครับ ไม่มีหรอกในโลกนี้
ส่วนเรื่องสถาบันเนี่ยเป็นเรื่องที่พูดยากนะครับ พูดไปก็ทะเลาะกันป่าวๆ เอาเป็นว่าพูดในความเห็นส่วนตัวละกัน จบต่างสถาบันกันแตกต่างกันมั้ย?? ต่างครับ ถึงแม้มาตรฐานในหลักสูตรการศึกษาของสภาจะเหมือนกัน แต่ความเชื่อมั่นกับสถาบันต่างกันแน่นอน ยกตัวอย่างง่ายๆ แพทย์ศิริราช กับแพทย์เอกชน ที่ไหนน่าเชื่อถือกว่าครับ คิดเอาเอง หลักสูตรแพทย์สภาบังคับเหมือนกันนะและถ้าน้องเป็นเจ้าของ รพ น้องจะเลือกใคร
ซึ่งเภสัชก็เหมือนกัน เพราะถ้าบอกว่าไม่ต่างเลยก็คงไม่ใช่ ไม่เช่นนั้นแล้ว คณะที่เพิ่งเปิดจะต้องเชิญอาจารย์ที่สอนในมหาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐมาสอนเพื่อให้ได้การรับรองจากสภาทำไมครับ
ส่วนเรื่องจรรยาบรรณเนี่ยมันขึ้นอยู่กับเรื่องของแต่ละบุคคล ว่าใครจะทำหรือไม่ทำ ทุกอาชีพมีดีเลวปนกันไปเภสัชกรดีๆมีเยอะแยะมากมาย ที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่และเห็นประโยชน์ของคนไข้เป็นอันดับต้นๆ อยู่ที่น้องจะเลือกมองส่วนดีหรือส่วนเลว ถ้าน้องคิดว่าการค้ายาบ้าหรือการแขวนป้ายมันทำให้มีรถแพงๆขับ มีบ้านหลังโตๆ มีเงินเยอะๆ ว่ามีดี มันก็ขึ้นอยู่กับน้องว่าจะมองว่า มีทรัพย์สมบัติมากมายแต่ทำลายชีวิตผู้อื่น กับ การที่น้องกระทำสัมมาอาชีพ มันไม่ทำให้น้องรวยมากมายแต่ได้ช่วยเหลือคนเจ็บป่วยให้หายเป็นปกติ แบบไหนมันถึงเรียกว่าดี
สุดท้ายนี้พี่ก็อยากให้น้องคิดดีๆ เภสัชกรที่มีปัญหาย่อมมาขอคำปรึกษาในบอร์ดกระทู้อยู่แล้ว ไม่มีใครได้ดีแล้วจะมาโอ้อวดในนี้หรอกครับ การตัดสินใจครั้งนี้ ชี้อนาคตน้องทั้งชีวิต อยากให้คิดดีๆ พี่อยากให้น้องเข้ามาเรียนเพราะน้องรักที่จะเรียน รักในความเปนมัน รักในบทบาทหน้าที่ของมันแล้วน้องจะมีความสุขทั้งการเรียนและการทำงาน
