เรื่องของเขาเราไม่เกี่ยว แต่เหมือนกับเราถูกผูกติดกับคนข้างหน้าแล้วยังฉลาดไปตะโกนให้พุ่งหอกหรือยิงปืนเข้าใส่คนข้างหน้าเลย
ผมไม่เอาหรอก

(เภสัชบางคนไม่ได้เกี่ยวเพราะไม่ได้ทำธุรกิจนี่ครับ)
ส่วนที่ต้องเติมในกฎหมายคือถ้าผู้ป่วยต้องการจะให้กรรมการกองทุนนี้พิจารณาจะต้องไม่ฟ้องร้องอะไรอีกทั้งทางแพ่งและอาญา
ถ้าคนรักษาไม่ผิดก็คือไม่จ่ายใช่ไหม ถ้าคนรักษาผิดจ่ายแล้วไม่พอใจก็เอาคำตัดสินนี้ไปฟ้องแพ่งต่ออีกใช่ไหม(ชี้โพรงให้กระรอก แล้วใครจะไม่ฟ้องต่อล่ะ)
อีกปัญหาที่ควรไปอ่านจากบทความของอาจารย์แก้วสรรคือ ถ้าความเสียหายนั้นเกิดจากโรคไม่ใช่ความผิดพลาด
สมควรแล้วหรือที่จะเอาเงินจากกองทุนนี้ ทำไมไม่เอาจากรัฐบาลล้วนๆล่ะ?
http://www.siamrath.co.th/?q=node/54443อ่านจากนักกฎหมาย นักขวางโลกอย่าง อ.แก้วสรรแล้ว เภสัชโรงพยาบาลเองที่คิดว่ากฎหมายนี้เป็นกฎหมายประกันการฟ้องร้อง
คิดผิดนะครับ
ผมว่าเป็นกฎหมายชี้โพรงให้กระรอกเอาไปฟ้องร้องทางแพ่งต่อ ยิ่งทำงานแบบงานเยอะมากกว่าจำนวนที่จะทำให้เสร็จทันอย่างรอบคอบ
ระวังว่า เภสัชกรโรงพยาบาลรัฐบาลจะกลายเป็นเหยื่อชิ้นใหญ่
ของอาการไม่ชอบขี้หน้าหมอ แล้วตัวเองซวยไปด้วย