

สำหรับผม เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่มันก็เกือบจะเป็นทุกอย่างของชีวิต มันบันดาลความสุขได้เกือบทุกอย่าง "เกือบ" นะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด แล้วเท่าไรละ ถึงจะพอ สำหรับผม ก็ขอแค่ มีอิสระภาพทางการเงิน ผมอยากตื่นมาตอนเช้าๆ ออกไปวิ่งออกกำลังกาย ไม่ต้องเครียดกับงานบนโต๊ะ ไม่ต้องเจอคนไข้ ได้ทำไรในสิ่งที่อยากทำ มีเงินกินข้าว 3 มื้อ มีเงินเติมน้ำมัน มีเงินพาแฟนไปเที่ยว มีเงินพาลูกไปเที่ยว มีเงินซื้อของเล่นให้ลูก(ที่พูดมายังไม่มีลูกนะ พูดไว้ก่อน และยังไม่ได้แต่งงานด้วย) ไม่ต้องส่งบ้าน(ตอนนี้ทำได้แล้ว) มีเงินเหลือเดือนละ 1-2 หมื่น เอาไว้ดูเล่นๆแก้เซ็ง มีเวลาออกไปดูหนัง และ ประโยคสุดท้าย "หยุดไปทำงาน"
แล้วจาทำไงล่ะ เพื่อให้สิ่งที่เราอยากจะได้อยากจะมีเกิดขึ้น คนบางคนจะพูดว่า ก็ทำงานให้เยอะๆสิ ใช้เงินน้อยๆ เก็บเงินเยอะๆๆ ไม่ใช่ครับ ถ้าทำอย่างนั้นคุณจะใช้ร่างกายใช้ความคิดจนคุณหมดกำลัง หรือบางคนโชคดีหน่อย เจอทางลัด ทำจนรวยตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ เลยเลิกทำงาน แต่สำหรับผมนิยมการลงทุนครับ ผมอยากมีคนทำงานแทนผม คนๆนั้นชื่อ "เงิน" ครับ
ก็ขอแนะนำหนังสือด้านการลงทุนเน้นคุณค่าเลยนะครับ มีหนังสือที่เป้นตำนานของการลงทุนเน้นคุณค่า ที่คนทั่วโลกแนะนำให้อ่านโดยผู้เขียนเป้นระดับ "กูรู" มิใช่ "กูรู้" มาเลย เล่มแรกนะครับ
เล่มนี้เขียนโดย ปรมมาจารย์การลงทุนเน้นคุณค่าของโลก Benjami graham แปลและเรียบเรียงโดย คุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข (พี่เขาเป้นเภสัชกร)
เล่มที่สอง หุ้นสามัญกับกำไรที่ไม่สามัญ (Common Stocks & Uncommon Profits) เขียนโดย. Philip A. Fisher แปลโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คนนี้ก็เป็นระดับเทพด้านการลงทุน
เล่มที่สาม เล่มนี้ผมชอบครับ ชอบมากขอบอก เหนือกว่าวอลสตรีท (ฉบับปรับปรุงใหม่) (One Up On Wall Street) เขียนโดย. Peter Lynch แปลโดย. ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เดี๋ยววันนี้หิวข้าว ขอตัวก่อน วันหน้าจะมีแนะนำต่อนะครับ