ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเปรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต (แก้วแบบจอก) เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป (ประมาณ 1-2 ออนซ์ หรือ 30-60มิลลิลิตร แตกต่างตาม พฤติกรรมการดื่ม ของแต่ละประเทศ) การสั่งเอสเปรสโซตามร้านกาแฟทั่วไป มักสั่งตามปริมาณเป็น "ซิงเกิ้ล" หรือ "ดับเบิ้ล" (ชอตเดียว หรือ สองชอต) เอสเปรสโซมีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เพื่อไม่ให้เสียรสชาติจึงควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ ๆ
ผงกาแฟที่ใช้ ขึ้นอยู่กับแต่ละระบบการชง ระบบการชงแบบแรงดันน้ำ หรือแรงอัด จะต้องใช้ผงละเอียด แต่ไม่ถึงกับเป็นแป้ง (ขนาดของไซด์ผงกาแฟที่บด จะแปรผันตาม ระยะเวลาที่ทำกาแฟ อาทิ เครื่องชงแบบ เอสเปรสโซ่ เวลามาตราฐานอยู่ที่ 18-30 วินาที ก็ต้องใช้ ผงละเอียด แต่หากเป็นการชง ลักษณะอื่นๆ เช่น ชงโดยที่ชงแบบเฟรนช์เพรส ก็ต้องบดให้หยาบขึ้นและระยะเวลาที่ชงก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ <ยิ่งหยาบยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้นในการชง>)
ในการชงเอสเปรสโซ จะต้องควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อรสชาติ อาทิ เมล็ดกาแฟที่ใช้ (สมควรเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่ว เก็บมาไม่เกิน 1 เดือน) ,การบดกาแฟ (ขนาดของผงกาแฟที่บด ต้องสัมพันธ์ กับเครื่องชงและระยะเวลาการไหล ของกาแฟ ขณะชง) , น้ำที่ใช้ชงกาแฟ (คุณภาพเป็นน้ำที่ใช้ บริโภค ไม่ควรใช้นำสะอาดบริสุทธิ์ จนเกินไป เพราะ นอกจากไม่ได้รับ สารอาหารที่มากับน้ำแล้วยังมีผลกระทบ ต่อรสชาติ ด้วย) , ระยะเวลาในการชง (ดังที่กล่าวไว้ ในข้างต้น หากใช้เวลา การชงเอสเปรสโซ่ตำกว่า 18 วินาที หรือ underextract แสดงว่า การแพคกาแฟ ต่อชอต ไม่แน่นพอ หรือ ปริมาณผงกาแฟในชอต มีน้อยเกินไป หรือ ขนาดผงกาแฟหยาบเกินไป หากการกลั่นกาแฟเอสเปรสโซ่ นานเกินกว่า 30 วินาที จะมีผลทำให้เอสเปรสโซ่ที่ได้ มีรสขม bitter ไม่เข้ม มีกลิ่นไหม้ burn จากการชงแบบเครื่องอัด ศัพท์ฝรั่งเรียก overextract)
ตามที่ถูกต้องแล้ว กาแฟเอสเพรสโซ่ของต่างประเทศไม่มีเย็นนะครับ มีแต่กาแฟร้อน เรียกเป็นชอทแก้วเล็กๆ แต่ด้วยอากาศร้อนของบ้านเรามีคนไทยสั่งเอสเพรสโซ่เย็น ด้วยความไม่เข้าใจของร้านค้า ก็เลยทำเป็นกาแฟเย็นแบบที่เห็นอยู่ในปัจุจุบัน
ว่ากันว่าในร้านกาแฟที่มีบาริสต้าที่มีความรู้จริงๆเดิมทีก็พยายามจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าความจริงคืออะไร แต่ลูกค้าส่วนมากก็ไม่พยายามที่จะทำความเข้าใจ ไปๆมาๆเดี๋ยวนี้เลยมีเอสเปรสโซ่เย็นกันเกือบจะทุกร้านในเมืองไทย
มีคำพูดที่ว่า "ลูกค้าถูกเสมอ" ดูจะเป็นเรื่องจริงในสังคมไทย
ไม่เว้นแม้กระทั่งในร้านยา ร้านยาที่เป็นเภสัชกรพยายามอธิบายว่าหลักการใช้ยาที่ถูกต้องคืออะไร กลับ ไปกระทบอีโก้ของลูกค้า เกิดเป็นความไม่พอใจ ทำไมร้านเภสัชมันเรื่องมากเหลือเกิน ฉันจะกินkanamycinรักษาแผลมันก็จะให้เปลี่ยน จะเอาโปลเคนเพนจีไปใส่แผลมันก็ห้าม จะเอาทีซีไปกินแก้มดลูกอักเสบ ก็ถามนู่นถามนี่ บางร้านไม่ยอมขายให้ก็มี บางทีถึงกับเป็นปากเป็นเสียงกัน
เหมือนลูกค้าจะเอาเอสเปรสโซ่เย็น ก็ทำกาแฟเย็นให้ฉันกินซะก็จบไปแล้ว ต้องมาอธิบายยืดยาว คิดว่าฉันโง่นักหรือไงเนี่ย เจอบ่อยๆเข้า เอสเปรสโซ่เย็นก็เลยเป็นเมนูประจำร้านไป
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ อยากขายเอสเปรสโซ่เย็นกันหรือยังครับ
