พลบค่ำของร้านยานนท์ วันวันที่ฝนตกหนัก แล้วคนไข้ก็มา มีหญิงวัยกลางคนแต่ไม่น่าจะเกินสามสิบห้า แต่ด้วยการทำงานทำให้หญิงผู้นี้
มีใบหน้าราวกับว่าผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะ อุ้มเด็กตัวน้อยมาที่ร้านยา เด็กดูตัวเล็กแต่ใบหน้าดูเกินวัยเช่นเดียวกัน แม่เด็กบอกว่าเด็กมีไข้
ผมเลยถามอายุ และน้ำหนักตัว แกบอกว่าอายุ เจ็ดขวบ น้ำหนัก ยี่สิบกิโลกรัม แม่เด็กบอกว่าเด็กปวดหลัง ผมนึกในใจตัวแค่นี้ปวดหลัง ใช้ยาไรดีหว่า แม่บอกว่าเด็กพิการ แล้วผมก้มลงไปดูเห็น มื้อและเท้าเด็กพิการ แขนเล็กมากเหมือนด้ามไม้กวาด เช่นเดียวกับขาที่เล็กมาก
ส่วนนิ้วเท้ากับนิ้วมือก็เหมือนเป็นระยาง ที่ไม่สามารถบังคับได้ เหมือนมันเป็นพวงๆ ผมเห็นแล้วรุ้สึกสงสารเด็กมากมาย ตัวแค่นี้แต่ต้องมารับ
ความยากลำบาก แม่เด็กเล่าให้ฟังว่า น้องพิการ แขนขาผิดปรกติ นิ้วเหมือนผักที่ตากแดดนานๆๆ ทั้งนิ้วมือและนิ้วเท้า แกเดินได้แต่ช้ามาก
ราวกับว่าจะเดินไม่ไหว ทุกวันนี้แม่ต้องอุ้มไปไหนไปตลอด เวลาอยุ่โรงเรียนก็สามารถเรียนได้ รับรุ้ได้ แต่การเคลื่นไหวยากมาก เดินได้แต่ไม่ทันเพือน อาจใช้ชีวิตที่ยากลำบาก แต่ก็อยากใช้ชีวิตในโลกนี้ให้ได้
ผมได้เห็นความรักที่ยิ่งใหญ่มากมาย คุณแม่แกอุ้มน้อง แล้วก็ลูบผม นี่คงเจ็ดปีแล้วสิบนะ ที่แม่เด็กได้ดูแลคนๆหนึ่งที่เป็นสายเลือด ประคองไปตลอด และต่อไปจนกว่าแกจะหาไม่ มันเป็นความรักที่ทำให้ผมมีน้ำตานิดๆในวันนั้น ที่ผ่านมาในเดือนที่สี่ของการเปิดร้านยาคือเดือนเมษายน กับเดือน พฤษภาคม ผมมีเรื่องที่ทำให้ผมเบื่อร้านยา แขนขาหนักมาก เวลาอยุ่ร้านยา ปวดหัว เพราะมีเรื่องไหร่หลายอย่าง ปวดกายไม่เท่าไหร่ แต่ปวดใจ มันทำใจยาก ผมไม่มีสมาธิในการทำงาน ยาที่สั่งมาแล้วจัดการทันที ก็กองเพนินไม่ได้ทำ เป็นสัปดาห์แล้ว ร้านยารกมากถึงขีดสุด
มีหลายเรื่องทำให้ผมท้อแท้ ชีวิต ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ผมน้ำหนักลดไปสามกิโล ด้วยสภาวะบางอย่างของหัวใจที่แย่แบบสุดๆๆ
ผมแทบอยากจะหลับไปเรือ่ยๆแบบไม่ต้องมารู้สึกอะไร มันยากมาก เรื่องหัวใจมันทรมานเกินไปที่เราจะรับได้ ผมแทบขาดใจ ที่จะต้องอยุ่ในภาวะแบบนี้มาเดือนสองเดือน
และแล้วแม่คนนี้กับเด็กพิการคนนั้นก็เหมือนพระผู้ช่วยให้ผมได้รอดจากความรุ้สึกที่ว่าผมแย่ ผมลำบาก ออกมาจากใจและสมองผมได้เยอะเลย อาจจะไม่ทั้งหมดแต่เป็นส่วนใหญ่เลยที่ทำให้ผมดีขึ้น ผมได้เห็นความรักของแม่ที่มีต่อลูกที่พิการ เห็นความยากลำบากของใครคนหนึ่ง ที่เขาไม่ได้สร้างขึ้นมาเลย มันเหมือนกรรมที่ต้องมารับผิดชอบ เด็กวัยแค่นั้นแต่ต้องมาแบกรับความรู้สึกที่ยากไรขนาดนั้น แต่สำหรับผมแค่เรื่องนิดๆ แต่ผมกลับคิดให้มันเศร้า คิดให้มันหนักหนาสาหัสสากรรณ์อยุ่ได้ ทั้งที่ผมสามารถเลือกได้ว่าจะรู้สึก หรือคิดอย่างไร แต่เด็กคนนั้นไม่สามารถเลือกได้เลย สิ่งที่ทำได้คืออยู่กับมัน ยอมรับสภาพมันต่อไป แม้จะมีความสุขหรือไม่มีความสุขก็ตาม
เรือ่งของผมเลยสิวๆ ไปเลยเมื่อเที่ยบกับเรื่องน่าเศร้าของน้อง
ตอนนี้ผมดีขึ้นแล้วนะครับ กลับมาเป็นนนท์คนเดิม อาจจะยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่คิดว่าสักวันคงกลับมาเหมือนเดิม ที่ผ่านมาปล่อยปละละเลย
ร้านยาไปเยอะ สัปดาห์ที่ผ่านมาผมตั้งใจ จัดร้านยาใหม่ อะไรๆใหม่ก็เริ่มดีขึ้น
ของคุณนะครับที่ทนอ่านจนจบ แล้วว่างๆมีไรที่ดีๆๆเกี่ยวกับร้านยานนท์จะมาแบ่งปันให้ฟังอีกนะครับ
