ก่อนที่จะ go so big ผมว่าเรื่องที่ตัดตอนมามันมีอะไรโยงยาวไปมากกว่านั้น คงต้องไปอ่านให้ครบถ้วนกระบวนความ เจ้าของประโยคไม่ได้หมายรวมว่าเภสัชร้านยาทั้งหมด หากแต่หมายความถึงเภสัชคนที่เป็นคู่กรณีของเขาในความเห็นก่อนหน้าเท่านั้น
Nopnutnat เขียน:ผมว่า ควรเพิ่มค่าตอบแทนให้เภสัชกรถูกต้องแล้ว แต่ควรให้น้องที่จบปีแรก - ปีที่ 3 สูงกว่านี้อีก เนื่องจากว่า จะลาออกช่วงนี้เยอะ ส่วนช่วงกลางๆซักปีที่ 10-20 ช่วงนี้ควรให้มากๆเพราะประสิทธิภาพการทำงานดี มีประสบการณ์สูง ส่วน 21 ปีขึ้นไปก็ค่อยๆลดลงได้แล้ว เพราะเงินเดือนก็เพิ่มมากขึ้นอยู่แล้วเงินส่วนนี้ควรจะเฉลี่ยมาให้น้องจบใหม่จะดีกว่า เนื่องจาก ผมมีประสบการณ์การทำงานหลายที่
ส่วนผู้ที่ประิเมินตัวเองต่ำอย่างความเห็นก่อนหน้า ที่ไปเปิดร้านขายยา ผมคิดว่าไม่ควรจะมาเป็นเภสัชกร เกาะกินวิชาชีพ มีแต่ถ่วงความเจริญ เอาตัวรอด ห่วยสุดๆ ไม่มีค่า ไม่มีอะไรดีเลย อย่างผมน่ะครับมีคุณค่าสุดๆ อยู่หน่วยผลิตยา ทำได้ทุกอย่าง ทั้ง small dose , เคมีบำบัด, ทำสารอาหารให้ทางหลอดเลือดดำ จ่ายยา ให้คำปรึกษาด้านยา ถ้าเภสัชกรทุกคนเป็นอย่างผม ค่าึตัวเภสัชกรต้องเพิ่มมากกว่าแพทย์อย่างแน่นอน เนื่องจาก เราเป็นผู้ที่เตรียมสิ่งที่จะไปช่วยให้หายจากโรค
ถ้าใครไม่รักวิชาชีพ ประเมินตัวเองต่ำเกินไป ก็ออกไปจากวิชาชีพ มึงไม่ต้องไปขายยาหรอก ไปทำอย่างอื่นซะ น้องผมเป็นแพทย์แต่ผมเองก็ยังเข้าข้างเภสัชกรอยู่ เพราะเรามีประสิทธิภาพสูง แต่ทำการตลาดไม่เก่งเหมือนแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขลองให้โอกาสเราสิ เลขาธิการ อย. ก็กำหนด spect เป็นพวกตัวเองหมด จะให้เราเจริญก้าวหน้าไม่ได้เลยหรือ ถ้าน้องๆไม่ต่อสู้แล้ว ต่อไปแพทย์มันคงเขี่ยเราไม่มีชิ้นดี และพวกพี่เภสัชกรอายุมากๆที่ไม่มีประสิทธิภาพ คอยแต่เลียแพทย์ กลัวตำแหน่งหลุด ก็ Early retire ไปเลย รกโลกเปล่าๆ
อีกอย่างกระทู้นั้นก็เป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ตัวเจ้าของประโยคก็ไม่ได้กลับมาแสดงความเห็นอะไรอีก หลังจากกระทู้โดนล๊อค
ในความเห็นของผม เภสัชโรงพยาบาล กับเภสัชร้านยา โดยทั่วไป ก็รักไคร่กันดี บางคนก็นอนเตียงเดียวกันทุกคืน
เปรียบเสมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งปลา หมาพึ่งวัด อย่ามาทำให้น้ำผึ้งหยดเดียวที่หมดอายุไปแล้ว เป็นประเด็นขัดแย้งกันอีกเลย
