New Document









ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย InfectiousDisease » 08 พ.ย. 2008, 00:54

อันนี้เป็นมุมเดียวที่สะท้อนออกมานะครับหากไม่ถูกใจใครหรือกระทบใครเข้าก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ

ทุกคนมองเรื่องการแขวนป้ายว่าเป็นปัญหา และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ที่สมควรปลูกฝังให้รักในวิชาชีพนั่นคือมหาวิทยาลัยแต่ทำไม บางครั้งเรื่องเหล่านี้ก็ยังคงเกิดขึ้น เคยสงสัยบ้างไหมครับ เพราะอะไร.............................

ผมเป็นคนหนึ่งครับที่ทำงานในมหาวิทยาลัย และอยากมีอุดมการณ์สร้างเภสัชที่ดีๆสู่สังคม ตอบแทนภาษีของประเทศชาติที่อุตส่าผลิตเภสัชกรขึ้นมาเป็นผู้รับใช้สังคม ตอบแทนให้สมกับภาษีประชาชนที่สร้างเรามา และไม่เคยคิดที่จะอยากแขวนป้าย

มีอยู่หลายครั้งมีเพื่อนเภสัชมาถามว่าเงินเดือนน้อยไม่แขวนป้ายหรอ ผมตอบอย่างภูมิใจว่าไม่อยากทำร้ายวิชาชีพ แต่สายตาที่มอง ประหลาดใจอย่างมาก มองเหมือนเป็นของแปลก ผมยังแทบเหลือเชื่อครับ แล้วเขาก็พูดว่าเป็นคนดีแล้วมันทำให้อิ่มหรือไง จะว่าไปเงินเดือนผมมันก็ไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ เท่ากับเงินเดือนของเภสัชจบใหม่ทั้งเดือน บวกค่าใบประกอบ และ พตส.ทั้งหมดนี่แหละครับ เอามาหารด้วยสอง ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้จะหาข้ออ้างเอาไปแขวนป้ายหรอกนะครับ เพราะผมไม่คิดที่จะทำมันอยู่แล้ว แต่ผมก็แค่น้อยใจเฉยๆว่าผมเป็นเภสัชกรของรัฐคนหนึ่ง ที่คิดอยากจะทำงานเพื่อประชาชน รับใช้สังคม ไม่อยากแขวนป้ายเพราะทำลายวิชาชีพ แต่ใบประกอบที่สอบมาได้ก็เป็นความภูมิใจเอาห้อยไว้ข้างฝาบ้าน ไม่ได้ค่าใบประกอบเหมือนเภสัชกรของรัฐ หรือเภสัชกรภาคเอกชนทั่วไป ซึ่งทำหน้าที่ในฐานนะของผู้ดูแลและให้ความปลอดภัยในด้านการใช้ยาของประชาชนทั้งๆที่ผมก็ทำงานเหมือนเภสัชกรคนอื่น มีความเสี่ยงไม่ได้น้อยกว่า หรือเพราะผมมาสังกัดภาคการศึกษา ผมเลยเป็นเหมือนอีกวิชาชีพ คือเป็นครู ไม่ใช่เภสัชกร

ทุกวันนี้บอกได้เลยอย่างเต็มอก ว่าผมได้ดูแลคนไข้ตลอด ทำงานทั้งบน ward และ สอนนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ผมทำงาน เสี่ยงไม่ได้ได้น้อยกว่าเภสัชกรโรงพยาบาล ทั่วไป บนwardผมเต็มไปด้วย คนไข้วัณโรคระยะactive ไม่ได้เข้าห้องแยกเพราะห้องไม่พอ คนไข้HIV ที่ตามเตียงเลอะไปด้วยคราบเลือด เราต้องเดินเข้าไปซักประวัติ แพ้ยา การใช้ยา เพราะมันคือหน้าที่ แต่เชื่อไหมครับ ผมยังไม่ได้ พตส ผมไม่ได้ค่าใบประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ผมมาพูด เป็นเพราะผมเห็นแก่เงิน ถ้าผมเห็นแก่เงินผมคงไม่มาเลือกทำ แต่แค่มีคำถามว่าเมื่อเราทำงานเป็นเภสัชกรคนหนึ่งทำไม ผมถึงไม่ได้รับในสิ่งที่เภสัชกรทั่วๆไปได้รับ เพราะเหมือนกับรัฐพยายามจะบีบให้ผมอยู่ไม่ได้ เพราะเงินเดือนไม่ได้ตั้งบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง แถมค่าใบประกอบ และ พตส ทั้งที่ทำงานเป็นเภสัชก็ยังไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตอบแทนให้ กับคนที่อยากทำงานเพื่อประชาชนใช่ไหม นี่คือสิ่งที่ตอบแทนให้กับ เภสัชกรของรัฐ ที่ทำหน้าที่เพื่อคนไข้ และสอนนักศึกษาใช่ไหม บีบจนอยู่ไม่ได้

ทำไมอาจารย์แพทย์ได้เงินค่าประกอบ ค่าทำเวชกรรม แต่อาจารย์เภสัชที่ทำงานบน ward ไม่ได้ แต่หากท่านทั้งหลายเห็นว่า งานที่ผมทำอยู่มันไม่เหมาะที่จะได้สิ่งเหล่านี้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ก็คิดเสียว่าผมแค่เอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ ผมเล่าเรื่องเหล่านี้ให้เพื่อนบางคนฟัง แต่เขาก็ตอบมาว่า ผมเลือกเอง มันเป็นสิ่งที่ทำอะไรไม่ได้ แล้วต่อไปจะมีคนดีๆที่มีทุนทรัพย์น้อย ที่ไหนอยากเข้ามาทำ เพราะสิ่งที่ตอบแทน มันเป็นเช่นนี้ แต่ทุกวันนี้ผมได้เห็นรอยยิ้มคนไข้ ดวงตาที่เปิดขึ้นพร้อมแสดงความตื่นเต้นเวลาอธิบายเรื่องยาในสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ผมก็มีความสุขแล้ว แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าอีกต่อไปในอนาคต ชีวิตจะเป็นอย่างไร สิทธิที่ได้ก็ประกันสังคม เบิกอะไรกับเขาก็ไม่ได้ ถ้าหากป่วยเป็นโรคเรื้อรังเช่นไต ก็คงจะรอแต่วันตาย เพราะผมคงไม่มีเงินพอที่จะไปฟอกโลหิตกับเขาหรอกครับ ผมทราบดีว่ามันกระทบหลายฝ่ายและไม่ควรพูด แต่มันคือความจริง หากเป็นอาจารย์มันก็คงไม่น่าพูดเรื่องนี้ แต่หากความเสียสละแล้วอยู่ไม่ได้ใครจะอยากมาเป็น

ใครจะอยากมาสอนลูกศิษย์ว่าอย่าห้อยป้าย ผมว่าอาจารย์เภสัช ไม่มีใครอยากแขวนหรอกครับ หากได้เงินค่าใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานเหมือนกับเภสัชกรอื่นๆทั่วไป หากแจ้งสภา สภาก็จะโยนเข้ามหาวิทยาลัย ต้องใช้เงินมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยก็จะโยนเข้ากระทรวงสาธารณสุข เพราะทำงานให้กระทรวง โยนไปโยนมา เรื่องก็หายเงียบต่อไป

หากท่านผู้อ่านทราบว่าผมคือใครก็กรุณาอย่าpost ชื่อเลยนะครับ อย่าพยามidentifyเลยครับว่าผมคือใคร ผมแค่อยากแสดงความคิดเห็นในมุมมองของผมเท่านั้นเอง และอย่าเอาไปอ้างอิงกับอาจารย์ท่านอื่นด้วยนะครับ เพราะนี่มันเป็นแค่มุมเดียว

[color=#0000FF]ด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง จะเทิดธงวิชาชีพนี้ เพื่อศักดิ์ศรีของเรา...เภสัชกร. ...[/color]
InfectiousDisease
 







Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย NJ » 08 พ.ย. 2008, 13:10

ชื่นชมพี่ครับ

ขอให้ยึดมั่นต่อไปนะครับ ซักวันต้องมีคนเห้นความดีและความตั้งใจที่เราทำแหละครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
NJ
 
โพสต์: 70
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2008, 21:30

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย PatientSafety_RPh » 09 พ.ย. 2008, 20:24

ก่อนอื่นขอสวัสดีอาจารย์ท่านนี้ด้วยนะครับ ขอแสดงความนับถือที่ท่านก็เป็นเภสัชกรที่ไม่ทำร้ายวิชาชีพเภสัชกรรม เพราะคนที่เป็นอาจารย์นั้น ไม่ใช่แค่ว่ามีความรู้ (คุณวุฒิ) เท่านั้น แต่ว่าต้องมีสิ่งที่สำคัญคือการเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ถูกต้องให้ลูกศิษย์ด้วย
ผมเองขอแสดงความคิดเห็นในมุมมองของผม ซึ่งเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลที่ทำงานด้าน pharm care เป็นหลัก นะครับ
1. ผมเข้าใจว่าอาจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่สอนด้านบริบาลเภสัชกรรม ซึ่งต้องขึ้น ward เป็นประจำเพื่อนำนักศึกษาขึ้น ward หรือต้องเปิดงานทางด้านคลินิกที่โรงพยาบาล จึงต้องมี 2 บทบาทในคนคนเดียว คือ เป็นทั้งอาจารย์ และเป็น pharmacist ward ด้วย เพื่อใช้ ward เป็นแหล่งฝึกให้กับนิสิต-นักศึกษาเภสัชศาสตร์ ซึ่งคาดว่าคณะเภสัชศาสตร์ก็จะเลือก ward med เป็น setting สำหรับฝึกนิสิต-นักศึกษาด้าน acute care ซึ่ง ward med นั้น ก็จะได้เจอผู้ป่วย TB และ HIV ด้วย ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ก็ไม่ได้รับเงิน พตส. และเงินค่าใบประกอบวิชาชีพ ประเด็นนี้ผมว่าน่าสนใจเหมือนกันว่า อาจารย์ที่มา practice ที่รพ. หรือ practice กับผู้ป่วย ก็ควรได้รับเงินพตส. เหมือนเภสัชกรโรงพยาบาลใช่หรือไม่ ซึ่งผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับนะครับ
2. หากมีการให้ค่าใบประกอบวิชาชีพกับอาจารย์เภสัชกร จะช่วยลดปัญหาอาจารย์เภสัชกรเอาป้ายไปแขวน ได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่แขวนกันไปแล้วเนี่ย มีการจัดการกันแล้วบ้างหรือไม่ เท่าที่จำได้จากที่เคยเรียน Pharmacy Law หากอาจารย์ทำผิดโทษจะหนักกว่าเภสัชกรทั่วไปด้วย อยากให้จัดการอย่างจริงจัง
3. ปัญหาขาดแคลนอาจารย์ ซึ่งเห็นมีเปิดรับสมัครแล้วก็ต้องขยายเวลารับสมัครกันไปเรื่อยๆ เนื่องจากแทบจะไม่มีคนสมัคร อะไรคือสาเหตุ ลองทบทวนดูไหม และจะมีวิธีการอะไรที่ช่วยดึงดูดคนเข้ามาทำงานด้านการศึกษา ซึ่งถือเป็นด้านที่สำคัญมากเช่นกัน
หวังว่าสภาจะรับฟังเสียงจากท่านครับ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ท่านยึดมั่นในอุดมการณ์ ที่จะทำหน้าที่สร้างเภสัชกร โดยใช้ตัวของท่านเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนิสิตและนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ต่อไป :lol: :lol: :mrgreen:
PatientSafety_RPh
 
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2008, 18:16

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย apotheker » 10 พ.ย. 2008, 08:20

สู้ๆครับ
อย่าปล่อยให้พลังด้านมืดเข้าครอบงำ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย NJ » 20 ธ.ค. 2008, 10:29

อาจารย์ที่แขวนป้ายอยู่(ให้เมียขาย) เค้าบอกว่า ต้อง compromise กับสสจ.
ภาพประจำตัวสมาชิก
NJ
 
โพสต์: 70
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2008, 21:30

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย inflammation » 13 ม.ค. 2009, 12:49

ยอมรับว่า จขกท.เขียนยาวมากค่ะ งง...

เรื่องค่าตอบแทนบนวอร์ด พูดกันมาหลายปีแล้ว ส่วนตัวไม่คิดว่าจะได้หรอกค่ะ เลิกหวังไปนานแล้ว ทำอยู่ดีๆ ก็มีคนมาสร้างกระแสให้ดีใจเล่น แล้วก็จากไป....

เรื่องที่เพื่อนมาถามว่าทำไมไม่แขวนป้าย อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์เลยค่ะ แต่ละคนถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบ หล่อหลอมมาจากคนละเบ้า ย่อมคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เวลาแค่ห้าหกปีในมหาวิทยาลัยไม่ได้นานพอจะทำให้องคุลิมาลเปลี่ยนจากโจรเป็นพระหรอกค่ะ มันมีปัจจัยมากกว่านั้น ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ดีแล้ว เหมาะสมแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจค่ะ ตอนทำงานใหม่ๆ ก็โดนแบบนี้เหมือนกัน จะเก็บใบประกอบใส่กล่องไว้ใต้เตียงนอน มันก็เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัวของเรา พอแก่ตัวมาจะรู้สึกว่าดีใจที่ตัดสินใจทำแบบนั้นเพราะเรายังพูดได้เต็มปากว่าเรารับผิดชอบสังคมได้อย่างเต็มที่ ...จะนอนหลับเหรอคะ....ให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องยาเลยมาขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องยาเลยเช่นกัน มีอะไรผิดพลาดขึ้นมาไม่ใช่แค่อนาคตทางวิชาชีพของเราหรอกค่ะ ไม่ใช่แค่ชีวิตคนซื้อยาคนนั้นด้วย มันกระทบครอบครัวของเขา กระทบงบประมาณประเทศที่ต้องมาเสียไปกับการรักษาผลเสียจากการจ่ายยาผิดให้คนๆนั้น....ผลกระทบมหาศาลค่ะ

เรื่องโรคติดเชื้อบนวอร์ด เข้าใจว่าน่าจะป้องกันได้นะคะ TB ปกติก็เขียนไว้อยู่แล้วว่า AFB ระดับไหน ไม่ทราบว่าราวด์ที่รพ.ไหน ปกติจะแยกถ้า AFB ค่าบวก สูงๆ แต่หากคนไข้เยอะ ไม่มีห้องเฉพาะ แยกไม่ได้ พยาบาลจะเขียนติดไว้ที่บอร์ดหัวเตียงหรือที่ชาร์ท คงต้องหลีกเลี่ยงไม่เดินไปบริเวณนั้นค่ะ อีกอย่างนะคะ เชื่อว่าในร่างกายคนที่ทำงานบนวอร์ดสะสม TB ไว้กันถ้วนหน้า รักษาสุขภาพตัวเองให้ดี มีเวลาออกกำลังกายนะคะ เชื้อจะได้ไม่ถูก activate ที่พูดแบบนี้ได้เพราะเคยทำงานบนวอร์ดด้านนี้มาก่อน (และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยด้วยค่ะ) ทำไม่นานหรอกค่ะ ประมาณ 5-6 ปี เองมั้ง ก็ expose ทุกโรคนั่นแหละ ย้ำว่าต้องรักษาสุขภาพให้ดีค่ะ เรายังสามารถเดินออกมาจากวอร์ดได้นะคะ แต่พยาบาล แพทย์ อยู่ในนั้นแทบจะตลอดเวลา ความเสี่ยงของเราน้อยกว่าค่ะ

สำหรับอาจารย์บางท่านที่เลือกจะแขวนป้าย...เราคงไปตำหนิกันตรงๆ ไม่ได้ เพราะของแบบนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกด้วยค่ะ ยอมรับเลยว่าเงินเดือนอาจารย์มหาวิทยาลัยนี่น้อยจริงๆ ทำงานใหม่ๆ เซ็งมาก เห็นเพื่อนที่ทำงาน รพ.ขึ้นเวรกันสนุกสนาน มีเงินตอบแทนนานาประเภท เรารับเฉพาะเงินเดือนเน็ตๆ ที่พักก็ไม่มีอีก แต่ก็อย่างที่ จขกท.บอกนะคะ ถ้าคุณมีความสุขจากงานที่ทำก็ทำให้มันมีความสุขมากขึ้นไปอีกสิคะ มองระยะยาวค่ะ เงินสำคัญกับชีวิตมากแต่สำหรับคุณไม่น่าจะใช่สิ่งแรกในชีวิตใช่ไหมคะ ไม่งั้นคงไม่เลือกมาเป็นอาจารย์

เอาใจช่วยค่ะ....ดีขึ้นเร็ว ๆนะคะ
inflammation
 
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 12:23

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย Satapat » 13 ม.ค. 2009, 19:10

เจอมากับตัวแล้วครับ :cry:
Satapat
 
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2007, 20:31

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย InfectiousDisease » 13 พ.ค. 2009, 23:53

ไอ้เรื่อง TB ธรรมดาผมคงไม่ได้ซีเรียสกับมันนักหรอกครับ แต่ที่ผมซีเรียสคือ MDR กับ XDR-TB นี่ซิครับน่ากลัวมากกว่า ที่สำคัญ

โรงพยาบาลผมเจอเยอะด้วยสิครับ อีกอย่างอาจารย์เคย Round Ward น่าจะรู้ดีว่าเลี่ยงไม่ค่อยได้หรอกครับ หมอเดินไป Round ที่เตียง

ถามว่าเภสัชเดินหลบได้ไหมครับ หรือเตียงนี้เราไม่ต้อง Round ข้ามไป ถ้าจะแยกคนไข้ไว้ในห้องแยกแต่คนไข้ออกมาเดินว่อนทั่ว

ward เลยพยาบาลห้ามก็ไม่ฟัง เรามัดเขาไว้ก็คงไม่ได้เพราะเขายังรู้ตัวดีที่สำคัญคนนี้เป็น MDR-TB ครับ อีกอย่างที่ward ถ้าคนไข้ TB BP

drop ไม่ถูกส่งเข้า ICU เพราะเขาไม่รับ ต้องนอนward สามัญเพราะห้องแยกเต็ม อย่างนี้หลีกเลี่ยงได้หรอครับ หรือรอให้มันติดก่อนแล้ว

culture ขึ้นว่าดื้อทุกตัวยกเว้นยาแพงๆเช่น Moxifloxacin Linezolid ผมคงไม่มีปัญญากินมันหรอกครับ เพราะผมใช้สิทธิประกันสังคม

Hospital outbreak of multidrug-resistant Mycobacterium tuberculosis infections. Factors in transmission to staff and HIV-infected patients (JAMA. 1992 Sep 9;268(10):1280-6.)

Nosocomial transmission of multidrug-resistant Mycobacterium tuberculosis. A risk to patients and health care
workers.( Ann Intern Med. 1992 Aug 1;117(3):191-6.)

Linezolid for the treatment of multidrug-resistant tuberculosis (Journal of Antimicrobial Chemotherapy 2005 56(1):180-185)
InfectiousDisease
 
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 22:57

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย sting19 » 14 พ.ค. 2009, 13:51

เข้มข้นมากๆ
:roll: :roll: :roll:
sting19
 
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2005, 14:53

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย cowboyman » 14 พ.ค. 2009, 15:14

อย่าคิดมากๆ นี่คือกระทรวงหมอ อยู่แล้วนี่ :evil:
cowboyman
 
โพสต์: 126
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2009, 03:05

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย Augmentin » 17 พ.ค. 2009, 00:20

ผมขอสนับสนุน วคามคิดเห็นของอาจารย์ครับ ผมเองก็ได้แต่ภาวนาขอให้มีอาจารย์ที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเอาเป็นแบบอย่างมากขึ้นครับ
ผมเองก็ไม่ขอสนับสนุนการแขวนป้าย และ ขอต่อต้านการแขวนป้ายทุกรูปแบบ ผมได้แต่ภาวนาขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆร่วมวิชาชีพ ขอให้พวกเรารักในวิชาชีพมากๆครับ ผมเองฝันไว้ว่า สักวันหนึ่งจะต้องกวาดล้างการแขวนป้ายให้หมดไปจากแผ่นดินไทยครับ
ความจริงเรื่องแขวนป้าย ทางสภาเภสัชกรรมเองก็มีบทกฏหมายลงโทษครับ แต่ว่า เนื่องจากทาง อย.เองก็ผู้ตรวจร้านยามีอยู่แค่ประมาณ 10 กว่าคนเองครับ ดังนั้น การที่จะออกตรวจร้านยาให้ครบถ้วนทั่วกรุงเทพนะครับ (ขอย้ำแค่กรุงเทพนะครับ ซึ่งมีร้านยาประมาณ 2,000 - 3,000 ร้าน ไม่นับรวมร้านยาต่างจังหวัดที่ สสจ. ควบคุมดูแลตรวจสอบ) ดังนั้น การที่้ร้านยามีจำนวนมากและผู้ตรวจสอบมีน้อย ดังนั้น จึงเป็นช่องโหว่ให้เกิดการแขวนป้ายเกิดขึ้นได้ และโอกาสร้านยาที่จะเปิดใหม่อีกก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอีก ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ยิ่งทำให้มีเภสัชกรนอกแถว คิดแขวนป้ายกันมากขึ้น ผมเองก็ขอพูดอย่างไม่อายครับว่า เพื่อนผมเองวึ่งพึ่งสอบได้ใบประกอบมาเหมือนกันพร้อมกับผม มาชวนผมไปแขวนป้ายเหมือนกันแต่ผมไม่เห็นด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เพื่อปากท้อง เพื่อเงิน คนเราก็ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้กระทั่งทำผิดกฏหมาย ทำลายวิชาชีพ
ดังนั้น จึงอยากชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่เข้ามาในกระทู้นี้และเห็นด้วยกับการต่อต้านการแขวนป้าย ขอให้พวกเรารวมพลังเพื่อประชาชนพี่น้องชาวไทยที่เสียภาษีเป็นเงินเดือน เป็นค่าการศึกษาให้พวกเราเล่าเรียน ร่วมพลังกันช่วยกันตามจับร้านยาที่แขวนป้ายและแจ้งตำรวจจับเลยครับ เพราะปัจจุบันนี้มีกฏหมายใหม่ออกมาแล้ว คือ กฏหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค และ กฏหมายความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสามารถจัดการร้านยาที่แขวนป้ายได้ และเพื่อให้มีการเชือดไก่ให้ลิงดูเป็นตัวอย่างให้ร้านยาอื่นดูเป็นตัวอย่างไว้ครับ
ปัจจุบันนี้ ผมเองก็รับปากกับตัวเองไว้แล้วครับว่า ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆใครก็ตามทำผิดกฏหมาย ทำลายวิชาชีพ ผมเองก็ไม่ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพแล้วครับ และเมื่อผมจับได้แล้ว ผมก็จะไม่ช่วยเหลือเด็ดขาด
ผมว่า เราคงถึงเวลาแล้วครับ ที่เราต้องเด็ดขาด เพื่อความอยู่รอดของวิชาชีพ และเพื่อประชาชนตาดำๆ และเพื่อหยุดวงจรอันชั่วร้ายไม่ให้ส่งทอดไปถึงเยาวชนรุ่นหลังได้ครับ
Pharmacy Needs Changes
สมดังเนื้อเพลงเพลงศักดิ์ศรีเภสัชครับ ด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง จะเทิดธงวิชาชีพนี้ เพื่อศักดิ์ศรีของเรา...เภสัชกร
Augmentin
 
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 มี.ค. 2009, 17:01

Re: ความเห็นเรื่องการแขวนป้ายของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

โพสต์โดย amp_sena » 17 พ.ค. 2009, 00:29

สู้ๆนะคับอาจารย์ ดีใจนะคับที่วงการเภสัชมีอ.ดีๆแบบนี้ เข้าใจเลยนะคับอ.ส่วนใหญ่ต้องเรียนถึงป.เอก แต่เงินเดือนกลับได้ไม่มากเท่าไหร่

เคยมีอ.ผมพูดในห้องเรียนเลยแกมน้อยใจนิดๆว่าเงินเดือนอ.ทั้งปีก็ได้แค่เงินเดือนดีเทลเดือนเดียว เห็นใจจิงๆคับ

อ.ที่คณะผมก็หลายๆท่านก็เปิดร้านยาคับ แต่ก็ช่วงที่มาสอนก็ให้คนอื่นขายอยู่ดี เง้อออออ

อ.บางท่านก็ไปขึ้นเวรรพ.เอกชน บางท่านก็ไปเปงอ.พิเศษบ้าง

แต่อ.ที่รักนิสิตจิงๆก็คืออ.ที่ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยคับ ทุ่มเทเวลาให้กับนิสิตกลับบ้านก็เย็นแต่ไม่มีot

สิ่งที่อ.เหล่านี้ได้รับตอบแทนคือรายได้อันน้อยนิด แต่อ.กลับดูมีความสุขที่ได้รับความรักจากนิสิตไปอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว

อยากให้มหาลัยฉุกคิดเรื่องนี้ได้บ้างจังเลยคับ แม้แต่ผู้บริหารมหาลัยผมส่วนใหญ่ยังเป็นแพทย์เลย เช่น ผศ.นพ.....ไรงี้อ่าคับ

ไม่มีอ.เภสัชไปเปงชุดผู้บริหารเลยยยย ถ้าอ.มหาลัยมีค่าใบประกอบก็คงจะดีนะคับ

ปล.ขอให้อ.InfectiousDisease สู้ๆนะคับผมจะส่งกำลังใจไปให้นะคับ ผมเชื่อนะคับว่าผลแห่งคุณงามความดีซักวันนึงต้องส่งผลอย่างแน่นอนคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
amp_sena
 
โพสต์: 56
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 15:51


ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document