(๓) กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยสมาชิกมีจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการใน (๑) และ (๒) รวมกันในขณะเลือกตั้งแต่ละคราว ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
จาก พรบ.วิชาชีพเภสัชกรรม 2537
เนื่องจาก สภาเภสัชกรรม ไม่ได้ทำอะไรที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในวิชาชีพเท่าที่ควร(ตามความคิดผมครับ) ประกอบกับในสภาพความเป็นจริงมีความหลากหลายของสาขา อาชีพ ที่เภสัชกรไปทำงานอยู่ จึงอยากเสนอสภาเภสัช ดังต่อไปนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปครับ
1.จัดทำฐานข้อมูลเภสัชกร ที่เป็นปัจจุบัน และให้เลือกสังกัดในการเลือกสมาชิกของตนเอง เช่น เภสัชกรชุมชน คือผู้ปฏิบัติงานร้านยา ,เภสัชรพช,เภสัชรพท รพศ,เภสัชสสจ,เภสัชโรงงาน,เภสัชการตลาด,เภสัชส่วนราชการอื่นๆ กสธ,เภสัชกรกลุ่มอื่นๆรวมทั้งหมด 8 กลุ่ม(สมมติครับ) แล้วให้
2.แต่ละกลุ่ม มีการประชุมและเลือกตั้งตัวแทนกันเอง เพื่อเป็นปากเป็นเสียงของกลุ่มวิชาชีพเหล่านั้นจริงๆ และแต่ละกลุ่มก็ไปกำหนดคณะกรรมการในการดำเนินการผลักดัน เรื่องต่างๆ ที่อยากจะผลักดันดดยมีสามาชิกทั่วประเทศ ที่พร้อมเพรียงกัน
3.ประธานแต่ละกลุ่ม ก็ถือว่า เป็นกรรมการที่มาจากการเลือกตั้ง ของเราเหล่าชาวเภสัช ถ้าจำนวนยังไม่พอ อาจเพิ่มเติมได้ภายหลัง
วัตถุประสงค์การเสนอครั้งนี้(ความคิดส่วนตัวล้วนๆครับ โปรดพิจารณา)
1.สภาเภสัชกรรม เป็นสภาอาจารย์เภสัชกรรม ทำให้เรื่องที่ผลักดันก่อนน้านี้ ก็ไม่เกินหลักสูตร และเปิดคณะเภสัชเพิ่มที่โน่น ที่นี่
2.การเลือกตั้งที่เคยเกิดขึ้น จำนวนผู้ลงคะแนนในแต่ละรอบน้อยมาก ทำให้ไม่เป็นตัวแทนที่แท้จริง
3.การมีเฉพาะบางกลุ่ม(อาจารย์)ทำให้การดูแลเภสัชกรที่ทำหน้าที่ในส่วนอื่นๆ ทำได้ไม่ทั่วถึง หรือทัดเทียมก้าวหน้าเหมือนวิชาชีพอื่นๆ
4.จากทั้ง 8 กลุ่ม ที่ผมเสนอมา ก็มีคณะทำงานในกลุ่ม เพื่อพัฒนางานของตนเองอย่างเต็มที่ เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ไฟแรง ได้แสดงความรู้ความสามารถกันได้อย่างแต็มที่ ในมุมมอง หรือส่วนที่ตนเองได้ทำอยู่ ซึ่งประเด็นนี้ผมคิดว่า ไม่มีใครที่จะตอบได้ดีเท่ากับคนที่ทำงานใน งานนั้นๆจริง
วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ เดี๋ยวเพิ่มเติมกันได้ทุกท่านครับ
เพียงคาดหวังว่า สภาเภสัช ท่านอาจารย์ภาวิช จะรับฟังบ้างครับ
พบกันใหม่รอบหน้าครับ โปรดติดตามตอนต่อไป
หมายเหตุ ผมเปิดร้านและเป็นเภสัชรพช. ก็ต้องเลือกครับ จะสังกัดกลุ่มไหน กรณีนี้ เลือก รพช.ครับ
ซึ่ง ระบบฐานข้อมูลสามารถโยกย้ายได้ตามลักษณะการประกอบวิชาชีพ ขณะนั้นๆครับ