สองกรณีหลัง หมอเค้าให้เภสัชเลือกยาให้เองค่ะ ถึงบอกว่าแปลก เพราะเหมือนกับเค้ายกคนไข้มาให้เราเลย
คือ คนไข้เค้าไปหาหมอฟันคนนี้ประจำ คลีนิคหมอฟันอยู่อีกตำบลนึง หมอตรวจแล้วเป็นรากฟันอักเสบ เป็นหนัก บอกว่าต้องมาเอายาร้านนี้ถึงจะหาย
สะท้อนภาพได้อย่างหนึ่งครับว่า ระบบการดูแลรักษาคนไข้ไม่ดี ที่เรียนมาตำราบอกไว้ว่า ต้องทำงานเป็นทีม แต่ว่าจบออกมา แต่ละวิชาชีพ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แต่ละคนในทีมต้องทำอะไรกันหว่า
เคยคุยกับหมออยู่คนหนึ่งที่เพิ่งจบ บอกว่าคุยกับหมอฟันเข้าใจว่าจะรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองคุย ปรากฎว่าทำไมเรื่องนั้นเรื่องนี้ หมอฟันไม่รู้หว่า (บางเรื่องเภสัชกรก็ไม่รู้ บางเรื่องหมอก็ไม่รู้)
ที่แน่ๆ เภสัชกรมักจะเข้าใจว่า หมอ,หมอฟัน และคนที่ตามระบบที่ร่ำเรียนมาให้เป็นผู้เขียนใบสั่งยา (รวมทั้งที่กฎหมายยกตำแหน่งให้เป็นผู้เขียนใบสั่งยา) จะรู้ไปเสียทั้งหมด โดยเขียนใบสั่งยา ให้เภสัชกรหยิบยาตามใบสั่งยา ซึ่งเภสัชกรก็ดันเรียนมาแต่ทำตามใบสั่งแพทย์ ไม่เคยรู้เรื่องระบบยาในประเทศไทย เวลาถามทีไร ก็รู้แต่ อเมริกา ,อังกฤษ ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ห้ามถามว่าประเทศไทยทำอย่างไร เพราะตอบไม่ได้
จึงมีทั้ง case ที่ว่า
1. ซื้อยากินเองทำไม ทำไมไม่ไปหาหมอ
2. ไปหาซื้อยาที่ร้านยาก็ได้ ไม่ต้องไปหาหมอ
3. หมอบางคนก็มอบหมายหน้าที่ให้เภสัชกร ทำทุกอย่าง โดยที่ไม่บอกข้อมูลอะไรมาเลย (รวมทั้งหมอฟันที่พูดถึง) เนื่องจากเข้าใจว่าเภสัชกรเป็นผู้รู้ไปหมด
ระบบการศึกษาที่ล้มเหลวครับ เป็นสิ่งที่สะท้อนได้ดีว่า ทำไมถึงเกิดความไม่รู้กันในทีมของวิชาชีพ
อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งเคยบอกไว้เมื่อเจอกับทีม HA ว่า "โรงเรียนแพทย์ สอนแพทย์ผิดไปหรือเปล่า เพราะปลูกฝังให้แพทย์เข้าใจว่าหน้าที่ในการรักษาเป็นของแพทย์เท่านั้น เวลาเรียนจึงไม่เคยทำงานร่วมกับพยาบาล ไม่ต้องพูดถึงเภสัชกรหรือสาขาวิชาชีพอื่น เวลาจบมาแพทย์มาเจอ การทำงานแบบสหวิชาชีพ เลยงงว่าทำไมไม่เหมือนกับที่เรียนมา"