New Document









ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

เภสัชกรร้านยา

ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย bannakan » 07 ธ.ค. 2007, 20:47

เป็นเคสที่ผมนึกไม่ออกว่าจะช่วยเขายังไงดี
พี่ๆช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ
ขอบตุณครับ

/*/* หลังจากการตรวจเพิ่มเติมเรื่อง เกิดอาการปวดปัสาวะ ตลอดเวลาปวดรุนแรง แต่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ /*/* /*/* /*/* /*


ช่วยด้วยครับ จู่ๆ ก็เกิดอาการปวดปัสาวะ ตลอดเวลาปวดรุนแรงทั้งที่มีปัสาวะเพียงเล็กน้อยครับ และก็มีอาการปัสาวะติดขัดเข้าร่วมด้วยครับ แต่เดิมเมื่อหลายเดือนก่อนเคยมีปัญหาปัสาวะติดขัด ปัสาวะลำบากและมีอารปวดปัสาวะบ่อยผิดปกติ ( แต่อาการปวดปัสาวะบ่อยผิดปกตินั้นช่วงก่อนเป็นไม่มากมีอาการเพียงเล็กน้อย) คุณหมอ สรุปอาการปัญหาปัสาวะติดขัดว่า เกิดจาก ยา คลายเครียด ที่กระผมทานดังนี้ rivotril วันละ 7 mg xanax 0.25 mg 1 เม็ด anafranil 25 mg 2 เม็ด ต่อมาคุณหมอจึงให้หยุดยา xanax anafranil ทั้งสองตัว และลดยา rivotril เหลือเพียง วันละ 0.5 mg แล้วไปใช้ยา lorazepam วันละ 2-3 mg แทน จากนั้นอาการปัสาวะติด ขัดก็ดีขึ้นจนเรียกได้ว่า ปกติ และอาการ ปวดป้สาวะบ่อยก็หายไป จู่ๆ มีปัญหาความดันโลหิตสูง คุณหมอให้ยา coaprovel 150+12.5 mg มาทานได้ 2 วัน ก็ หยุดไปเนื่องจากมีปัญหาปัสาวะบ่อยมากเกินไป จึงหันมาทาน aprovel 150 mg อย่างเดียวแทน จากนั้น ประมาณวันที่ 4 ของการทานยา aprovel 150 mg ก็เกิดอาการปวดปัสาวะบ่อยมาก มีอาการปัสาวะติดขัด รุนแรง อาการเป็นหนักขึ้นๆ อาการรุนแรงมากขึ้นๆ ทุกวันๆ อาการเลวลง จนเรียกได้ว่า ปวดปัสาวะตลอดเวลาปวดรุนแรงทั้งที่เพิ่งปัสาวะเสร็จไปก็เกิดอาการปวดปัสาวะต ่อเลยทันทีและก็มีอาการมาก จนทำให้นอนไม่หลับเพราะมันปวดตลอดเวลา เวลา เพิ่งปัสาวะเสร็จแล้วออกจากบ้านนั่งรถออกไปแค่ 3 นาทีก็เริ่มปวดปัสาวะและเป็นรุนแรงมากจนทนไม่ไหว เรียกว่าปวดปัสาวะรุนแรงอย่างกับว่าเราว่าทานน้ำเยอะๆ และ กลั้นปัสาวะมาสักเกิน 30 ชั่วโมงขึ้นไป คือปวดปัสาวะจนแทบดิ้น ปวดปัสาวะจนเห็นดาวเห็นเดือนต้อง เข้าปั๊มเพื่อปัสาวะออก พอไปปัสาวะออกพบว่าปัสาวะออกมาเพียงไม่มากพอปัสาวะเสร็จก็ดีขึ้นบ้างสักเดี๋ยวไม่เกิ
น 3 นาทีก็เริ่มปวดปัสสาวะอีกและปวดรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วปวดจนทนไม่ได้ จนตอนนี้ออกจากบ้านไปไหนไม่ได้เลยเพราะมันปวดปัสาวะรุนแรงต้องคอยเข้าห้องน้ ำตลอด และในการปัสวาะแต่ละครั้งก็ลำบากมากด้วยเพราะมีอาการปัสาวะติดขัดเข้าแทรกรุ นแรง ขนาดลองทานน้ำน้อยลงลองอดน้ำแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น ยังคงมีอาการปวดปัสาวะรุนแรงตลอดเวลาทั้งที่มีปัสาวะในกระเพาะปัสาวะเพียงเล ็กน้อย ก็ทำให้ปวดปัสาวะได้รุนแรงราวกับยิ่งกว่าการกลั้นปัสาวะสัก 20 ชั่วโมงเสียอีก ทั้งที่ เพิ่งปัสาวะไปได้เพียง 3 นาทีก็ปวดรุนแรงอีกทันที






/*/* หลังจากไปตรวจเพิ่มเติมเรื่อง เกิดอาการปวดปัสาวะ ตลอดเวลาปวดรุนแรงปวดระบมไปหมดทั้ง กระเพาะปัสาวะ และท่อทางเดินปัสาวะ ไปตรวจ ตาม รพ ต่างๆ หลังมา ลองไปตรวจปัสาวะ หลายครั้ง แล้ว ก็ไม่พบอาการติดเชื้อใดๆ ไม่พบนิ่ว ไตปกติ กระเพาะปัสาวะไม่อักเสบ ต่อมลูกหมากไม่โต ไม่ทราบว่าอาการที่ผมเป็นนี้เกิดจากการระคายเคือง หรืออักเสบ ของ กระเพาะปัสาวะ และท่อปัสาวะ โดยไม่มีเชื้อได้หรือไม่ สังเกตุ ถ้าได้นอน ตื่นเช้ามาอาการจะทุเลาลงบ้างเล็กน้อย แต่พอตก กลางวัน เย็นอาการจะหนักมากขึ้นๆ อาการจะเริ่มจะแย่ลงๆ ตอนบ่ายๆเย็นๆอาการจะหนักขึ้นมาก อาการจะรุนแรงขึ้นกว่าตอนเช้าหลายเท่าตัว ทรมารมากๆไปไหนไม่ได้เลยต้องคอย อยู่ แต่ในห้องน้ำ เพราะมันปวดรุนแรงมากๆและมีอาการปัสาวะติดขัดรุนแรงมาก ครับ ปัสาวะแต่ละครั้งกว่าจะออกนานมากๆ
อาการปัสาวะติดขัดเป็นรุนแรงมากขึ้นๆ อาการปัสาวะ ติดขัดเป็นมากขึ้นๆ จนแทบจะปัสาวะ เองไม่ได้ แล้วละครับ จึงยิ่งทรมารมากขึ้นเพราะ
มันปวดปัสาวะบ่อยแต่เดิมดื่มน้ำบ่อย และ ยังปัสาวะออกได้ ถึงจะปัสาวะบ่อย 10-15 นาทีแต่ก็ช่วยลดอาการปวดรุนแรงลงได้ พอมาตอนนี้ปัสาวะติดขัดมากด้วย พอปัสาวะออกได้ยาก ยืดเวลาออกไปนานมากๆ มันยิ่งเพิ่มความทรมาร ปวด ปัสาวะ รุนแรงมากยิ่งถ้าปัสาวะออกไม่ได้ ต้องทิ้งช่วงเวลานาน
ด้วยยิ่งเพิ่มความทรมารมากเข้าไปอีกหลายเท่าทวีคุณ จนแทบดิ้น ไปไหนมาไหนหรือลุกเดินก็ไม่ได้ต้องนอนนิ่งๆ อย่างเดียว
ไปพบหมอมาหลาย รพ แล้วเขายังหาสาเหตุไม่เจอ
อาการก็แย่ลงๆ


อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีครับ ช่วยด้วยครับทรมารมากๆ
ช่วย แนะนำคุณ หมอ ที่เชี่ยวชาญ หรือ รพ ที่ เก่งด้าน ระบบ ทางเดินปัสาวะด้วยเถอะครับ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bannakan
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2007, 23:09







Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 08 ธ.ค. 2007, 02:56

ผู้ตอบ ภก.พงศธร เหล่าสกุล เภสัชกรเจ้าของร้านยาสีฟ้าเภสัช จ.ภูเก็ต
เป็นร้านยาที่รักษาโรคโดยอาศัยวิชาการทางการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลัก ร่วมกับการแพทย์ทางเลือกแนวธรรมชาติบำบัด โดยเน้นไปทางการแพทย์แผนจีน

อายุเท่าไหร่ครับ
เป็นมานานแค่ไหน
มีโรคประจำตัวอะไรมั๊ย
ความดันและอัตราการเต้นของหัวใจเท่าไหร่
ค่า Lab ทางปัสสาวะเป็นอย่างไรบ้าง
ค่าlab hormone ต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง
ความรู้สึกทางเพศเป็นอย่างไรบ้าง
อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้เองหรือไม่
ปัสสาวะให้เรียบร้อยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวตลอดเวลาจับเวลาเวลาว่านานเท่าไหร่จึงเกิดความรู้สึกอยากปัสสาวะ
โปรดให้ข้อมูล แล้วผมจะช่วย ถ้าช่วยได้

วินิจฉัยเบื้องต้น  (จากข้อมูลที่จำกัด)
เป็นโรคปัสสาวะบ่อยจากกระเพาะปัสสาวะไวต่อการกระตุ้นให้ขับปัสสาวะ
สาเหตุทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัด
มักโยนไปให้ anxiety or stress or  ฮอร์โมนบางตัวอาจมีปริมาณผิดปกติ
แต่ส่วนตัวผมมักโยนไปให้ศาสตร์แพทย์แผนจีน

การรักษาเบื้องต้นด้วยยาแผนปัจจุบัน
flavoxate HCl 100 mg 2*3
หรือ ยาสูตรผสม Pitofenone HCl 5 mg + Fenpiverinium Br 0.1 mg  2*3
หรือ Hyoscine 10 mg 2*3

วินิจฉัยตามแพทย์แผนจีน
เส้นลมปราณ เท้าเซ่าอินไต และ เส้นลมปราณเท้าไท่หยางกระเพาะปัสสาวะ ผิดปกติร่วมกันทั้งคู่

ไตกับกระเพาะปัสสาวะทำงานร่วมกันในการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย  ลมปราณของไตควบคุมการขับปัสสาวะลงมาเก็บสะสมในกระเพาะปัสสาวะ  และควบคุมการเปิดปิดของกระเพาะปัสสาวะเพื่อขับปัสสาวะออกนอกร่างกาย  ถ้าลมปราณไตพร่องจะทำให้กระเพาะปัสสาวะเปิดปิดผิดปกติไป มีอาการปัสสาวะขัด  ปัสสาวะบ่อย  กลั้นปัสสาวะไม่ได้  ปัสสาวะรดที่นอน

แนวทางการรักษาตามแพทย์แผนจีน 
ฝังเข็ม + ใช้ยาสมุนไพร
อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่าที่เห็น  โรคนี้ถ้ารักษาตามแพทย์แผนจีน จะช่วยได้มาก แต่ก็ไม่หายขาด แต่บรรเทาไปได้มาก
และต้องฝังเข็มอยู่เรื่อยๆ บางช่วงที่อาการกำเริบก็ต้องกินสมุนไพร

ให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่ผมถาม แล้วจะช่วย ถ้าช่วยได้
:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย bannakan » 08 ธ.ค. 2007, 09:06

ขอบคุณมากครับ :D
ผมทำลิ้งหน้านี้ไปกระทู้ที่ผมอยู่แล้วครับ
แต่ยากจริงๆเคสนี้
อ่านไปมึนไป
จากที่นี่ครับ

http://www.dvdgameonline.com/forums/ind ... 70761&st=0
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bannakan
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2007, 23:09

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย ballistic » 08 ธ.ค. 2007, 13:49

อาการล่าสุด




ตอนนี้ทดลองถอนยา ที่กิน ออกทุกอย่างแล้ว
ไม่ได้ทานยาอะไรเลย อาการก็ไม่ดีขึ้นมีแต่เลวลงๆ




/*/* หลังจากไปตรวจเพิ่มเติมเรื่อง เกิดอาการปวดปัสาวะ ตลอดเวลาปวดรุนแรงปวดระบมไปหมดทั้ง กระเพาะปัสาวะ และท่อทางเดินปัสาวะ ไปตรวจ ตาม รพ ต่างๆ หลังมา ลองไปตรวจปัสาวะ หลายครั้ง แล้ว ก็ไม่พบอาการติดเชื้อโรคใดๆ ไม่พบนิ่ว ไตปกติ กระเพาะปัสาวะไม่อักเสบ ต่อมลูกหมากไม่โต ไม่ทราบว่าอาการที่ผมเป็นนี้เกิดจากการระคายเคือง หรืออักเสบ ของ กระเพาะปัสาวะ และท่อปัสาวะ โดยไม่มีเชื้อได้หรือไม่ สังเกตุ ถ้าได้นอน ตื่นเช้ามาอาการจะทุเลาลงบ้างเล็กน้อย แต่พอตก กลางวัน เย็นอาการจะหนักมากขึ้นๆ อาการจะเริ่มจะแย่ลงๆ ตอนบ่ายๆเย็นๆอาการจะหนักขึ้นมาก อาการจะรุนแรงขึ้นกว่าตอนเช้าหลายเท่าตัว ทรมารมากๆไปไหนไม่ได้เลยต้องคอย อยู่ แต่ในห้องน้ำ เพราะมันปวดรุนแรงมากๆและมีอาการปัสาวะติดขัดรุนแรงมาก ครับ ปัสาวะแต่ละครั้งกว่าจะออกนานมากๆ
อาการปัสาวะติดขัดเป็นรุนแรงมากขึ้นๆ อาการปัสาวะ ติดขัดเป็นมากขึ้นๆ จนแทบจะปัสาวะ เองไม่ได้ แล้วละครับ จึงยิ่งทรมารมากขึ้นเพราะ
มันปวดปัสาวะบ่อยแต่เดิมดื่มน้ำบ่อย และ ยังปัสาวะออกได้ ถึงจะปัสาวะบ่อย 10-15 นาที
ปัสาวะ ออกประมาณ 100 cc
แต่ก็ช่วยลดอาการปวดรุนแรงลงได้ พอมาตอนนี้ปัสาวะติดขัดปัสาวะลำบาก มากด้วย พอปัสาวะออกได้ยาก ต้องทนให้มีปัสาวะมาก
คั่งในกระเพาะปัสาวะ ถึง 550 cc ถึงจะปัสาวะออกได้แต่ออกลำบากมากๆ
เพราะ เดิมมีปัสาวะแค่ 100 cc ก็ปวดมากแล้วนี่ต้องทนไปถึงระดับ 550 cc อาการก็ปวดมากขึ้น หลายสิบเท่า เท่ากับ
ยืดเวลาออกไปนานมากๆ มันยิ่งเพิ่มความทรมาร ปวด ปัสาวะ รุนแรงมากยิ่งถ้าปัสาวะออกไม่ได้ ต้องทิ้งช่วงเวลานาน
ด้วยยิ่งเพิ่มความทรมารมากเข้าไปอีกหลายเท่าทวีคุณ จนแทบดิ้น หน้าเขียวหน้าเหลือง ปวดจนเห็น ดาวเดือน นรกมาลอย จะหน้ามืดเอา
ไปไหนมาไหน ไม่ได้ นั่งรถ( รถวิ้งแล้วสะเทือนยิ่งทำให้ปวดมากขึ้นรุนแรงจนจะเป็นลมเอา ) ออกจากบ้าน หรือลุกเดินก็ไม่ได้ต้อง นอน ตะแคง นิ่งๆ อย่างเดียว



อายุเท่าไหร่ครับ
อายุ 30 ครับ

เป็นมานานแค่ไหน
4-5 อาทิตย์ อาการเป็นมากขึ้นๆ โดยเฉพาะอาการปัสาวะ ออกยากลำบาก และอาการปวด ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น

มีโรคประจำตัวอะไรมั๊ย

มีไขมันค่อนข้างเยอะ

ความดันและอัตราการเต้นของหัวใจเท่าไหร่
ความดัน ไม่สูงมาก หัวใจเร็วกว่าคนปกติ แต่ไม่มาก 85-120
ค่า Lab ทางปัสสาวะเป็นอย่างไรบ้าง

ไม่พบเชื้อใดๆ

ค่าlab hormone ต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง

ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ครับ

ความรู้สึกทางเพศเป็นอย่างไรบ้าง

ความรู้สึกทางเพศ ยังปกติ

อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้เองหรือไม่

ได้ครับ


ปัสสาวะให้เรียบร้อยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวตลอดเวลาจับเวลาเวลาว่านานเท่าไหร่จึงเกิด
ความรู้สึกอยากปัสสาวะ

ใช้เวลาไม่นานแต่ขึ้นกับ ปริมาณน้ำ ในกระเพาะปัสาวะ จะเริ่ม ปวดรุนแรงตั่งแต่มีปัสาวะค้างแค่ในกระเพาะปัสาวะ แค่ 150cc แต่ต้องรอ
เพราะ ตอนนี้ฉี่ไม่ออก ต้องรอให้ปัสาวะคั่งค้าง  มากถึง 550 cc จึงปวดรุนแรงหลายเท่าตัวมากๆ
ถึงจะปัสาวะออกได้ ใช้เวลากว่าจะปัสาวะออกนานเป็นสิบนาที




เวลา ตอนนอน
จะต้องตื่นทุก 40 นาทีมานั่งรอฉี่แต่ ยัง ฉี่ ไม่ยอมออก ก็ยิ่งทำให้ปวดมากไม่ต้องหลับต้องนอนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย ballistic เมื่อ 08 ธ.ค. 2007, 13:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ballistic
 

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 08 ธ.ค. 2007, 21:49

โทรไปถามที่ รพ.หัวเฉียว
0-2223-1351
นัดขอตรวจกับหมอการแพทย์แผนจีนที่เก่งที่สุดของ รพ.หัวเฉียว
คงต้องฝังเข็ม และกินยาจีน

ขอออกตัวว่า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ รพ.หัวเฉียว
แล้วอาจารย์ทางการแพทย์แผนจีนของผม ซึ่งมีทั้งที่เป็นคนจีนคือเป็นคนจีนที่เรียนมาทางการแพทย์แผนจีนเลย  และคนไทยและแพทย์ไทย ทุกท่านก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ รพ.หัวเฉียว แต่ที่ผมแนะนำที่นี่เพราะ เข้าใจว่าผู้ป่วย ท่านน่าจะอยู่กรุงเทพ
และคิดว่า ที่หัวเฉียวน่าจะมีหมอจีนเก่งๆอยู่

ผมวินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มอาการ ไท่หยางฝู่เจิ้ง ประเภท ไท่หยางเลือดคั่ง
       เป็นการดำเนินโรคต่อเนื่องจากกลุ่มอาการเส้นลมปราณไท่หยาง คือสาเหตุก่อโรคที่เข้าสู่เส้นลมปราณ  จะรุกรานเข้าภายใน 
เข้าสู่อวัยวะกลวงไท่หยาง คือ กระเพาะปัสสาวะ แบ่งตามกลไกพยาธิกำเนิดของโรค  เป็นกลุ่มอาการไท่หยางน้ำคั่ง อันนี้จะไม่กล่าวถึง เพราะเท่าที่ดูคุณไม่ได้เป็นกลุ่มนี้  อีกกลุ่มคือ กลุ่มอาการไท่หยางเลือดคั่ง

กลุ่มอาการไท่หยางเลือดคั่ง (ไท่หยางซู่เซวี่ยเจิ้ง)
       คือ สาเหตุก่อโรคในเส้นลมปราณไท่หยาง  รุกรานเข้ารวมตัวกับเลือดในท้องน้อย

อาการ
       ปวดหรือแน่นท้องน้อย อยากปัสสาวะบ่อย  ปัสสาวะไหลออกมาเอง  กระวนกระวายเหมือนบ้า หรือคุ้มคลั่ง ความจำเสื่อมลง
อุจจาระเหลวสีดำเหมือนดินน้ำมัน ชีพจรจมฝืดหรือจมสะดุด  (ถ้าคุณมีภาวะถ่ายอุจจาระเหลวสีดำเกิดขึ้นบ้าง ขอฟันธงว่าเป็นกลุ่มอาการนี้แน่นักแลและจัดว่าเป็นหนักมากแล้วด้วย)

สาเหตุ
       สาเหตุก่อโรคในเส้นลมปราณไท่หยาง  เปลี่ยนเป็นความร้อนเข้าสู่ภายในรวมตัวกับเลือดคั่งในท้องน้อย  ทำให้ปวดท้องน้อย  หรือท้องน้อยแข็ง  ความร้อนคั่งลอยขึ้นไปรบกวนหัวใจทำให้ลุกลนกระวนกระวาย  หรือเสียสติ คลุ้มคลั่ง ความจำเสื่อมลง ความร้อนในเลือดกระทบลมปราณของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ บางทีถึงกับปัสสาวะไหลออกมาเอง เลือดคั่งไหลไปกับอุจจาระทำให้อุจจาระเหลวสีดำ  ความร้อนและเลือดคั่งทำให้ชีพจรจมฝืดหรือจมสะดุด


สรุป ผมแนะนำให้ไปพบหมอจีนที่เก่งที่สุด ที่ รพ.หัวเฉียว  เล่าอาการ แล้วให้เค้าตรวจ เค้าแมะ เค้าซักประวัติ
แล้วถามหมอจีน  ว่าเราเป็นอะไร   
และถามไปด้วยเลยว่าผมเป็นโรคในกลุ่มไท่หยางเลือดคั่ง (ไท่หยางซู่เซวี่ยเจิ้ง) หรือปล่าว

โชคดีครับ ขอให้หายไวๆ รีบไปรักษานะ อาการที่คุณเป็นอยู่นี่ผมวินิจฉัยว่าเส้นลมปราณเท้าไท่หยางผิดปกติเป็นหนักเอาการอยู่
แล้วคืบหน้า  หรือผลเป็นอย่างไร  ก็ช่วยแจ้งข่าวใน webboard แห่งนี้ด้วยนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย naproxen เมื่อ 08 ธ.ค. 2007, 21:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 14 ธ.ค. 2007, 01:11

อยากทราบข่าวของผู้ป่วย ครับ
ยังไงก็ช่วย ส่งข่าวหน่อยนะ

เอาละผมจะเขียนถึงขั้นตอนในการขับปัสสาวะตามการศึกษาทางสรีระวิทยาอย่างคร่าวๆนะ

1.เมื่อปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะมีประมาณ 250 มิลลิลิตร จะทำให้กระเพาะปัสสาวะขยายใหญ่  เกิดการตึงตัวของผนังกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ประสาทที่อยู่รอบๆ ส่งกระแสความรู้สึกไปยังไขสันหลัง  แล้วไปสู่สมองส่วนบน  ทำให้เกิดความรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะ

2.ถ้าเราต้องการจะถ่ายปัสสาวะ  กล้ามเนื้อเรียบของท่อปัสสาวะจะคลายตัวเนื่องจากปฏิกิริยาสะท้อน ( reflex ) ที่ไขสันหลัง

3.กล้ามเนื้อหูรูดส่วนนอกคลายความตึง  การทำงานอยู่ใต้อำนาจจิตใจ  จึงควบคุมการปัสสาวะได้ ปัสสาวะได้

4.กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหดตัว  พร้อมด้วยกล้ามเนื้อหูรูดตอนในคลายตัว  ปฏิกิริยาสะท้อนนี้อยู่ที่พอนส์  ทำงานอยู่นอกอำนาจจิตใจ
สมองส่วนก้านสมอง จะควบคุมกระเพาะปัสสาวะหดตัวจนกระทั่งปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะหมด

ในเด็กทารก  การขับปัสสาวะควบคุมโดยปฏิกิริยาสะท้อน  เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป ก็สามารถควบคุมการปัสสาวะได้   ในวัยผู้ใหญ่การขับถ่ายปัสสาวะอาจไม่อยู่ในการควบคุมของสมองได้เหมือนกัน  ถ้าเกิดประสาทไขสันหลังเสีย  หรือเกิดอารมณ์ผิดปกติจนเกินไป

ถ้าจะรักษาตามแนวทางของแพทย์แผนปัจจุบันก็ไปใช้ computer scan สมองและไขสันหลัง ซะให้รู้แล้วรู้รอดไป

ถ้าผิดปกติจะได้แก้ไขโดยศัลยแพทย์สมองและไขสันหลังที่เชี่ยวชาญ  แต่ผมเดาให้ว่าปกตินะ

ทีนี้จะลองอธิบายเรื่องทฤษฎีเส้นลมปราณให้ฟังคร่าวๆ
แก้ไขล่าสุดโดย naproxen เมื่อ 14 ธ.ค. 2007, 02:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 14 ธ.ค. 2007, 02:16

หนังสือคัมภีร์แพทย์แผนจีน ชื่อ หวงตี้เน่ยจิง  เขียนขึ้นสมัยชุนชิว (770-476 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
เนื้อหาของคัมภีร์นี้แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ตำรา ซู่เวิ่น และตำรา หลิงซู

ตำรา หลิงซู มีเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเส้นลมปราณต้งแต่ทฤษฎี  เส้นทางเดิน  จุดฝังเข็ม  การตรวจวินิจฉัย  และการรักษาโรค
เส้นลมปราณในทางแพทย์แผนจีนจึงมีแนวทางเดินที่แน่นอน

เส้นลมปราณในความหมายที่แท้จริงเป็นอย่างไร สำหรับวิทยาศาสตร์ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

ในแพทย์แผนจีนบอกว่าเส้นลมปราณ มีหน้าที่ลำเลียง ขนส่งเลือด พลังลมปราณ พลังชีวิต(ชี่) ไปยังอวัยวะภายใน และส่วนต่างๆของร่างกาย และไม่ได้แยกว่าเป็นส่วนกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ หรืออวัยวะใดๆ แต่หมายรวมถึงทุกส่วนซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นลมปราณผ่าน
ทั้งนี้ในทางปฏิบัติไม่ว่าจุดผิดปกติในทางเดินลมปราณจะเกิดที่ใดก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายหรืออวัยวะต่างๆได้

การฝังเข็มหรือกระตุ้นเส้นลมปราณโดยผ่านจุดฝังเข็มที่เหมาะสมสามารถมีผลกระทบต่อจุดที่อยู่ไกลออกไป    หรืออวัยวะภายในได้  เช่น โรคปวดศีรษะหรือปวดฟันอาจใช้วิธีกระตุ้นจุดฝังเข็มที่บริเวณมือหรือเท้า  ก็สามารถทำให้ศีรษะและฟันหายปวดได้เช่นกัน

การฝังเข็มไม่ได้ฝังที่เส้นประสาท  มีหลายท่านเข้าใจผิดว่าเส้นลมปราณคือเส้นประสาท ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น อาจมีเส้นลมปราณที่ผ่านเส้นประสาทบ้าง  แต่จุดฝังเข็มหลักๆไม่ได้อยู่ที่เส้นประสาทเลยและก็ไม่ได้อยู่ที่เส้นเลือดแดงหรือเส้นเลือดดำเส้นใหญ่หรือเส้นเลือดขนาดกลางๆด้วย  จุดฝังเข็มหลักอาจเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดฝอยบ้างเท่านั้น

ถ้าพูดออกทำนองหนังจีนกำลังภายใน เส้นลมปราณ ก็คือ ทางเดินของพลังชีวิต ซึ่งก็แล้วแต่จะเรียกว่า ชี่ หรือ ปราณ หรืออะไรก็แล้วแต่
เพียงแต่เส้นลมปราณนี่มันมองไม่เห็นด้วยตา  มันมองเป็น anatomy ไม่ได้

อย่างไรก็ตามเส้นลมปราณก็เป็นทฤษฎี คือ เมื่อมีเหตุผล หรือข้อมูลที่เปลี่ยนไปทางเดินของเส้นลมปราณก็อาจเปลี่ยนไปได้ หรือถึงกับต้องเลิกทฤษฎีเส้นลมปราณเลยก็ได้  แต่ปัจจุบันทฤษฎีเส้นลมปราณยังสามารถอธิบายการเกิดความผิดปกติและสามารถแก้ไขความผิดปกติของร่างกายได้มากมาย  ตั้งหลายอาการหลายโรค  ซึ่งมีโรคบางอย่างที่รักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่อิงวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่รักษาไม่ได้  แต่การรักษาโดยการฝังเข็มโดยอาศัยทฤษฎีเส้นลมปราณกลับรักษาหายและมีความปลอดภัยสูงด้วย

:D :D :D :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย June » 22 ธ.ค. 2007, 17:05

ขอถามพี่ naproxenนะค่ะ พี่เป็นเภสัชที่ไปเรียนการแพทย์แผนจีนเพิ่มหรือค่ะ  พี่เรียนที่ไหนเหรออยากรู้จัง
June
 
โพสต์: 76
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 12:28

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 23 ธ.ค. 2007, 17:58

อยากจะรู้ไปทำไม  :lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย June » 04 ม.ค. 2008, 14:24

ก็ยากไปเรียนเพิ่มเติมบ้างจะได้เก่งเหมือนพี่ไงค่ะ
June
 
โพสต์: 76
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 12:28

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย naproxen » 04 ม.ค. 2008, 16:33

อาจารย์ที่ให้ความรู้แก่ผมมากที่สุดในเรื่องแพทย์แผนจีนสำหรับผมจริงๆคือ หนังสือครับ หนังสือหลายเล่มครับมีทั้งที่แต่งโดยแพทย์แผนจีนชาวจีนบ้าง ชาวไทยบ้าง แพทย์แผนปัจจุบันที่ไปเรียนแพทย์แผนจีนบ้าง

ส่วนอาจารย์ที่ทำให้ผมเริ่มสนใจศาสตร์ด้านนี้ เป็น หมอฝังเข็มชาวจีนท่านหนึ่ง ที่รักษาโรคชนิดหนึ่งที่ผมเป็นซึ่งหากรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันคงต้องฝ่าตัดสมอง ในสมองส่วนสำคัญมาก ถ้าพลาดอาจตายหรือเป็นเจ้าชายนิทราหรือพิการได้ และไม่แน่ว่าเมื่อฝ่าตัดสมองแล้วจะหายหรือเปล่า

ผมจึงหันไปพึ่งการแพทย์ทางเลือก ได้ถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมเคารพนับถือ ท่านชี้ทางให้ว่า การฝังเข็มจะช่วยได้ ผมจึงลองไปทำดู
พบว่าช่วยได้จริง ผมหายได้ แม้จะไม่หายขาดแต่ก็หายไปได้พักใหญ่ เมื่อกลับมามีอาการก็ไปฝังเข็มใหม่  เนื่องจากสถานที่ที่ผมไปฝังเข็มนั้นเป็น รพ.เอกชน ค่าใช้จ่ายจึงมีราคาสูง และทำให้ผมต้องเสียเวลาเพราะไม่ใช่ฝังวันเดียวแล้วจบ  ผมมีความรู้สึกว่าผมเองน่าจะฝังเข็มรักษาตัวเองได้จึงขอให้ หมอจีนท่านนั้นสอนหลักการพื้นฐานของการฝังเข็มและพื้นฐานของทฤษฎีเส้นลมปราณให้ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาสอนให้   ต่อมาผมได้ศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือหลายๆเล่ม จนคิดว่าพอจะเข้าใจดีแล้ว  จึงเริ่มฝังเข็มรักษาตัวเอง ซึ่งก็ได้ผลดี จะว่าไปดีกว่าไปฝังเข็มที่รพ.เอกชน เสียอีก

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ฝังเข็มให้กับคนอื่น นอกจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดมากๆจริงๆเท่านั้น
ปกติโรคที่ผมพิจารณาแล้วว่าสามารถรักษาด้วยการฝังเข็มได้ ผมก็จะแนะนำคนไข้ให้ไปหา หมอจีน ที่เป็นอาจารย์ผม ไม่ได้รักษาเอง

ที่รักษาอย่างมากก็แค่กดจุดด้วยนิ้วมือหรือดินสอให้เท่านั้นซึ่งคนไข้มักจะอัศจรรย์ว่าหายได้ไงทั้งที่ยังไม่ได้กินยาอะไรเลยซึ่งก็ทำให้ผมได้ลูกค้าใหม่บ้าง
  :D :D :D :D
แก้ไขล่าสุดโดย naproxen เมื่อ 04 ม.ค. 2008, 16:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ช่วยดูเคสนี้ทีครับ

โพสต์โดย June » 19 ม.ค. 2008, 11:01

ขอบคุณมากค่ะพี่  naproxen พี่เก่งจริงๆๆเลยที่สามารถศึกษาด้วยตัวเองได้พอดีที่สอบถามไปเพราะตั้งใจอยากจะไปเรียนเป็นหมอจีนเพิ่มเติมแต่ว่าเรียนตั้ง 5ปีแหนะ ที่บ้านบอกเสียเวลาและก็ไม่สนับสนุนแหละเพราะว่าอยากให้ไปเรียนสายเภสัชมากกว่า  แต่ในความคิดของตัวเองคิดว่าศาสตรืด้านนี้น่าสนใจเพราะจากการดู สามก๊ก หรือแดจังกึม หมอจีนนี่สามารถตรวจดูคนไข้ตั้งครรภ์ได้โดยการจับเส้น เป็นเรื่องแปลกแต่จริง  ตอนนี้เห็นพี่ศึกษาเองได้ทำให้มีแรงบรรดาลใจที่จะศึกษาเองขอบคุณมากค่ะพี่
June
 
โพสต์: 76
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 12:28


ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document