โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร กรมพลศึกษา เสนอทำวาระแห่งชาติหากต้องการให้บอลไทยไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แนะต้องวางแผนงานชัดเจน อย่างน้อยต้องเป็นแผนระยะกลาง 8 ปี หรือระยะยาว 12 ปีขึ้นไป?
วันที่ 24 มิ.ย.2553 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่กำลังฟาดแข้งกันอยู่ในเวลานี้ ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะทีมใหญ่ ที่ผลงานไม่ดีเท่าไหร่นัก รวมถึงโอกาสความเป็นไปได้ของทีมชาติไทยในศึกเวิลด์คัพ
นายชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร กรมพลศึกษา และอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ทีมเต็งเล่นผิดฟอร์มมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการกรำศึกหนักในฟุตบอลลีก แรงจูงใจของนักเตะที่น้อยลง เพราะเกิดอาการล้า ทีมใหญ่มีข่าวสารต่อเนื่องทำให้คู่ต่อสู้จับทางได้ การประมาทไม่ศึกษาข้อมูลคู่แข่งที่ถูกมองว่าด้อยกว่า ส่วนกรณีประเทศไทยกับฟุตบอลโลก ควรวางเป้าหมายในระดับเอเชียก่อน จากปัจจุบันอยู่อันดับ 16 ให้ก้าวไปติด 1 ใน 5 โดยต้องมีการร่วมกันพัฒนาอย่างเป็นระบบให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการวางแผนงานชัดเจน โดยอย่างน้อย ต้องเป็นแผนระยะกลาง 8 ปี หรือระยะยาว 12 ปีขึ้นไป ในเรื่องนี้ นายชุมพล จึงได้มอบหมายให้ตนร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดทำแผนงานกำหนดรายละเอียดทุกด้านที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติเพื่อนำมาเสนอต่อไป
ขณะที่ นายบรรหาร กล่าวว่า ขอให้ตั้งเป้า 4 ปี ให้ผ่านเข้าไปฟุตบอลโลกให้ได้ โดยให้ถือเป็นนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่ในระดับอื่น ๆ เช่น ซีเกมส์ ที่เคยผิดพลาดตกรอบแรก ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และซีเกมส์ปีหน้า ที่ประเทศอินโดนีเซีย ต้องคว้าแชมป์ให้ได้ โดยเสนอว่าควรเชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อตอบข้อซักถามด้วย หลังการประชุม นายชุมพล กล่าวว่า ส่วนตัว เห็นว่าหาก 4 ปีข้างหน้าไทยติด 1 ใน 10 ของเอเชียได้ก็จะเป็นเรื่องดี จากนั้นอีก 4 ปีจึงตั้งเป้า 1 ใน 5
ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/sport/91870