และนี่ก็อีกหนึ่ง
จวก"สปสช."เละเสนอยุบ สำนักงบฯชี้ทิ้งเงินลงเหว
สัมมนา 8 ปีระบบหลักประกันสุขภาพ นักกฎหมายเสนอยุบ สปสช. เหลือแค่กรมสังกัด สธ. เหตุเป็นองค์กรเหมือนเนื้องอก ทำหน้าที่เหมือนสำนักงบประมาณแห่งที่ 2 ครม.คุมไม่ได้ ขณะที่หมอรุมจวกเป็นตัวสร้างปัญหา เพิ่มงานทำ รพ.ขาดทุน สำนักงบฯ ระบุหลังมีบัตรทองงบสาธารณสุขพุ่งเกือบ 3 เท่า ห่วงอนาคตหาเงินอุดไม่พอแน่ ทำประเทศล่มจม
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. แพทยสภาจัดสัมมนา "8 ปี ภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปัญหา อุปสรรค สิ่งท้าทายในการพัฒนา ความสำเร็จและความเสี่ยง" นายสุกฤษฎิ์ กิติศรีวรพันธุ์ ประธานชมรมนักกฎหมายเพื่อความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับการมี พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเหมือนเนื้องอก ไม่มีประเทศเสรีประชาธิปไตยที่ไหน ที่ ครม.ไม่สามารถควบคุม หรือสั่งการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ วันนี้ สปสช.เป็นเหมือนสำนักงบประมาณแห่งที่ 2 ขณะเดียวกันค่าตอบแทนของ สปสช.ก็ไม่สมเหตุสมผล ถ้าฝ่ายการเมืองมีความพร้อม ตนคิดว่าวันนี้การเมืองคงไม่เอา สปสช.ไว้ ตนเห็นว่า สถานะของ สปสช.ควรเท่ากับกรมหนึ่งในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คือ ต้องสามารถตอบสนองรัฐมนตรีและกระทรวงได้
นายสุกฤษฎ์กล่าวต่อว่า คนที่เป็นบอร์ด สปสช.ไม่ได้รับผิดชอบโดยตรงต่อประชาชน ในสายตาของตนคิดว่า ไม่ควรมีองค์กรแบบ สปสช. ควรทำให้หายไป ดังนั้นในการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีช่องทางตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ทางการเมืองไม่ควรปล่อยให้องค์กรแบบนี้อยู่ เพราะดูแลงบฯ ของ สธ.แต่ไม่มีจุดเกาะเกี่ยวกับสภาฯ รัฐมนตรีใช้ดุลพินิจก็ไม่ได้ ไม่มีอำนาจในการบังคับบัญชา หากเห็นใครใน สปสช.ทำไม่ถูกจะตั้งกรรมการสอบก็ไม่ได้
นพ.ศิริชัย ศิลปอาชา ที่ปรึกษาแพทย์สมาคม รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.รัฐบาลกำลังจะล่ม เพราะบุคลากร รพ.ลาออกจำนวนมาก งบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอ วิธีไม่ให้ล่มคือ คนรวยต้องจ่ายเงิน ต้องมีการร่วมจ่าย แต่วันนี้ทุกคนมาแย่งกินโรงเจ เหตุแห่งทุกข์ คือ สปสช. เพราะต้นทุนค่ารักษา 10,000 บาท แต่จ่ายให้ รพ.ต่างๆ แค่ 5,000 บาท ทำให้ รพ.ขาดทุน
"หนทางดับทุกข์ คือ ขอให้มีการร่วมจ่าย 30-50 บาท การยกเลิกเก็บเงิน 30 บาท เพราะรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารทำให้การบริการเพิ่มจาก 110 ล้านครั้ง เป็น 130 ล้านครั้ง การไม่เก็บเงินทำให้เขื่อนแตก"
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า 8 ปี เป็นระยะเวลาที่สั้น ภาพรวมระดับประเทศพร้อมโชว์ผลงาน สปสช.ว่าในปี 2545 ความพึงพอใจของประชาชนก็มากขึ้นจาก 45.6% เพิ่มเป็น 60.3% ดังนั้น 8 ปีจึงมีผู้เข้าถึงบริการมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ได้ดีขึ้น อัตราการตายค่อยๆ ลดลง
นพ.สมชัย นิจพานิช ผู้ตรวจราชการ สธ. กล่าวว่า ปัจจุบัน รพ.สังกัด สธ.ขาดสภาพคล่องการเงินรุนแรง ปัญหาใหญ่คือ ขาดทุน 1,346 ล้านบาท ทั้งนี้ รพ.ในสังกัด สธ. 807 แห่ง พบว่า 302 แห่งมีกำไร มีเงินเป็นบวก รายรับรายจ่ายสภาพคล่องดี แต่อีก 330 แห่งสภาพคล่องมีปัญหา ส่วนที่ขาดทุนจนรายได้ติดลบ มีสภาพคล่องน้อยมีจำนวนถึง 168 แห่ง และมี รพ.ที่อยู่บริเวณชายแดนอีก 7 แห่งที่มีภาระในการดูแลคนไร้สัญชาติ
นางชุมศรี พจนปรีชา รอง ผอ.สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ก่อนมีระบบ สปสช. งบฯ ด้านสาธารณสุขปี 2541 เราใส่เงินลงไปประมาณ 6.1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ที่ 1.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2.89 เท่า แนวโน้มภาระงบประมาณในอนาคตไม่กล้าทำกราฟมาให้ดูเดี๋ยวจะตกใจ สาเหตุสำคัญคือ คนไทยมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้นและคาดหวังบริการที่มีคุณภาพและครอบคลุมมากขึ้น ถ้ารัฐบาลยังเป็นผู้จ่ายฝ่ายเดียว ระบบร่วมจ่ายไม่มี จะทำให้การรับบริการสูงเกินจริง ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ อัตราการเพิ่มงบฯ ด้านสาธารณสุขสูงกว่าด้านอื่นๆ ถ้าจะให้ระบบ สปสช.ยั่งยืน อาศัยการจัดเก็บภาษีคงไม่พอ ต้องปรับปรุงระบบการจัดเก็บรายได้ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรของสถานบริการ และส่งเสริมให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพของตนเองมากขึ้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องทบทวนนโยบาย เพราะถ้างบฯ เพิ่มขึ้นทุกปีโดยไม่มีขีดจำกัด ด้านอื่นๆ คงพัฒนาไม่ได้ ประเทศก็อยู่ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัมมนาในครั้งนี้แพทย์ที่เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นโจมตีการ ทำงานของ สปสช. บางคนก็มองว่า สปสช.เหมือนปีศาจ นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องจัดประชุมยังมีการติดป้ายข้อความว่า "ร่วมปลดแอก จาก สปสช."
http://www.thaipost.net/news/130310/19254