New Document









ผมตื่นมาตอนเช้า อ่านข่าวนี้แล้วตกใจ

Sport / Technology / Entertainment / Miscellaneous

ผมตื่นมาตอนเช้า อ่านข่าวนี้แล้วตกใจ

โพสต์โดย blacksmithday » 13 ส.ค. 2010, 08:38

หอการค้าประเมิน "จีดีพี" ใหม่ปีนี้โต 7-8% โฆษกปชป.ตีปี๊ป รบ.เจ๋งมาก ไม่เหลือคนว่างงานแม้แต่คนเดียว

หอ การค้าประเมินจีดีพีใหม่ปีนี้โต 7-8% ได้ส่งออกหนุน จี้รัฐเร่งแก้ปัญหามาบตาพุดเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน หวั่นกระทบถึงเศรษฐกิจปีหน้า มองไตรมาสสุดท้ายส่งออกอาจแผ่วลงจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป เผยผู้บริโภคความเชื่อมั่นดีขึ้น ดัชนีปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน โฆษกปชป.โม้รบ.แก้เศรษฐกิจเจ๋งมาก ไม่เหลือคนว่างงานแม้แต่คนเดียว

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หลังปัญหาการเมืองเริ่มคลี่คลาย ขณะที่การส่งออกที่ขยายตัวอย่างมาก รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2553 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 7-8 สูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5-6 โดย 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยเติบโตจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอก แต่ไตรมาสที่ 4 จะเติบโตจากปัจจัยภายใน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหามาบตาพุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน หากไม่เร่งแก้ปัญหา อาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2554 ขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 4

นายะนวรรธน์กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4-5 เป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก เป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐและสหภาพยุโรป(อียู) ส่งสัญญาณซึมตัว และอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้ชะลอตัวเหลือ ร้อยละ 15 แต่สถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพ และราคาน้ำมันที่น่าจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 85-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้การจับจ่ายในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้น

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ส่วนผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม 2553 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 69.1 เป็น 71.4 เป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 3 และสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2553 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกด้านปรับตัวดีขึ้นหมด

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถึงเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวดีขึ้นจาก 75.8 เป็น 78.7 เป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 54 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2549 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลในปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก สถานการณ์การเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของ ดัชนีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ทุกรายการ สะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

"ผลสำรวจยังพบว่าความเชื่อมั่นด้านท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอย การซื้อรถยนต์ ปรับตัวดีขึ้น จึงคาดว่ายอดขายสินค้าต่างๆ จะดีขึ้นในไตรมาส 3 และตลาดสินค้าทั่วไปจะกลับมาสู่ระดับปกติในไตรมาส 4 " นายธนวรรธน์กล่าว วัน เดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า พรรค ปชป.ได้วิเคราะห์ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 ดีกว่าที่เคยคิดกันไว้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัวกว่าร้อยละ 10 เป็นผลมาจาก 1.ภาคส่งออกที่ขยายตัวถึงร้อยละ 30 2.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงถึง 79.3 สูงที่สุดในรอบ 5 ปี 3.การลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของโครงการไทยเข้มแข็ง สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชน จนดัชนีการลงทุนพลิกกลับมาเป็นบวก เห็นได้จากยอดการของบส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ อาจจะสูงถึง 5 แสนล้านบาทภายในปีนี้ และ 4.นโยบายประกันรายได้เกษตรกรทำให้ระดับราคาพืชผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ลมฟ้าอากาศในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะไม่ค่อยดีนัก

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างสำเร็จ ไม่มีคนว่างงานอีกต่อไป ส่วนค่าครองชีพอื่นๆ ทั้งราคาน้ำมันที่ลดลง 40-60 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่สัดส่วนหนี้สุทธิของภาครัฐต่อจีดีพี จากที่เคยประมาณไว้ว่าจะสูงถึงร้อยละ 60-70 เหลือเพียงร้อยละ 48 เท่านั้น เวลาเดียวกันตัวเลขการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก็เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัวถึงร้อยละ 16.5 สูงที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชีย รองจากตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งพิสูจน์ว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง 3 ปัจจัย 1.การเมือง 2.เงินเฟ้อ และ 3.ค่าเงินบาทและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 74445.html
เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง 3 ปัจจัย 1.การเมือง 2.เงินเฟ้อ และ 3.ค่าเงินบาทและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ผมว่าความเสี่ยงอีกอย่างนึง คือ เรามีนักการเมืองที่มีสมองหมาปัญญาควาย เอาแต่ประชานิยม ประเทศนี้จึงเจริญลงแบบฮวบๆ ขอตัวไปนอนก่อน เผื่อไอ้ที่อ่านจะกลายเป็นแค่ฝันไป
blacksmithday
 
โพสต์: 192
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2007, 19:21







ย้อนกลับไปยัง ไอริชคอฟฟี่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document