หน้า 4 จากทั้งหมด 7
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
08 ส.ค. 2007, 14:08
โดย YOUNGMAN
kohboy เขียน:ไม่เชื่อ..
..จนกว่าจะได้ลิ้มลอง
ครับ
เอย.
สักวันหนึ่งกลางป่าใหญ่ได้พิสูจน์
คงจะอยากขอชิมให้อิ่มอก
คงอยากยกกระดกแก้วแล้วยิ้มหวาน
เหล้าเก่าๆเขาว่าจะเมานาน
ต้องสำราญในวงกลางดงไพร
สักวันหนึ่งคงพบประสบก๊ง
บอกตรงตรงคงเปรีย้วปากอยากชงให้
แต่เสียดายที่ต่างอยู่ห่างไกล
ไม่เป็นไร หลับตาเห็น ก็เช่นกัน
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
14 ส.ค. 2007, 08:24
โดย kohboy
เช่นกันครับ
ผมก็หลับตาเห็นเภสัชกรเด็กๆ(รวมผมด้วย)ซัก๒๐_๓๐คน นั่งล้อมวงเหล้า บนแพที่กาญจนบุรี ฟังเภสัชกรรุ่นใหญ่เล่าประสปการณ์ให้ฟัง
ในงาน..มีตติ้งฟาร์มาคาเฟ่๒๕๕๑
อิอิอิ
"ขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า"
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
14 ส.ค. 2007, 09:53
โดย YOUNGMAN
kohboy เขียน:เช่นกันครับ
ผมก็หลับตาเห็นเภสัชกรเด็กๆ(รวมผมด้วย)ซัก๒๐_๓๐คน นั่งล้อมวงเหล้า บนแพที่กาญจนบุรี ฟังเภสัชกรรุ่นใหญ่เล่าประสปการณ์ให้ฟัง
ในงาน..มีตติ้งฟาร์มาคาเฟ่๒๕๕๑
อิอิอิ
"ขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า"
หากเราใฝ่ถึงอะไรในความคิด
มันจะติดตามเราดั่งเงาฝัน
โลกอยู่ได้ต่างฝันสวยด้วยผูกพัน
ถึงวันนั้นคงเป็นจริงทุกสิ่งมี
ด้วยคิดถึงทุกคนที่บ่นถาม
คนึงนาม งามPHARMA ที่ว่านี้
สวรรค์คงประทานที่กาญจนบุรี
จากวันนี้จะรอรับนับคืนวัน
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
24 ส.ค. 2007, 11:04
โดย YOUNGMAN
เย็นนี้เพื่อนนัดกันในวันชื่น
ต่างกลับมาพลิกฟื้นคืนสมัย
ริมแม่น้ำเจ้าพระยาชลาลัย
ด้วยแก่วัยเลี้ยงร่ำลาหน้าที่งาน
เพื่อนต่างรุ่นยังมีต่างหน้าที่
ความหลังมีมากมายให้สืบสาน
ไปร่วมก๊งกลางวงสุราบาน
ชลประทานสโมสรตอนสนธยา
บอกเป็นนัยว่าสุราดื่มแก้วแรก
ของที่แบกทิ้งไปหายจากบ่า
ดื่มแก้วสองต้องนั่งนิ่งยิ่งจินตนา
แก้วสามหนาบอกว่าหน้าตาแดง
พอแก้วสี่ประเดิมเริ่มติดเครื่อง
ดื่มต่อเนื่องแก้วที่ห้าเหมือนว่าแกล้ง
เริ่มขุดคุ้ยความหลังหามาแสดง
แก้วหกแย่งกันรินให้กินกัน
พอถึงแก้วที่เจ็ดสะเด็ดยาด
บ้างต้องฟาดกับแกล้มอยู่ดูขบขัน
แก้วที่แปดต่างจ้องร้องเพลงกัน
เหล้าโรมรันแก้วที่เก้าเล่าให้ฟัง
แก้วที่สิบอั้นอุราน้ำตาไหล
นึกเรื่อยไปในอดีตที่ขีดฝัง
แก้วต่อไปนับไม่ไหวแหมอายจัง
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง...เมื่อตั้งวง
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
24 ส.ค. 2007, 22:50
โดย kohboy
ซู้ดยอด ครับ
อ่านแล้วนึกถึงปรมาจารย์กลอนแห่งบ้านกล่ำเมืองแกลง
text
โพสต์แล้ว:
24 ส.ค. 2007, 23:17
โดย azzuri
พี่น้องครับ
จะมีร้านเหล้าในประเทศนี้
ซักกี่ร้านที่จเปิดเพลง "smell like teen spririt"
ร้าน mountain bike
แยกดินแดง-อนุสวรีย์
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
26 ส.ค. 2007, 14:33
โดย Psu_rx
อ่านๆไปเหมือนเมาเหล้าไปด้วย
text
โพสต์แล้ว:
28 ส.ค. 2007, 22:28
โดย azzuri
เว้า!!! ร้านfull moon อุดรธานี
เล่นเพลง don't cry (original version)
text
โพสต์แล้ว:
28 ส.ค. 2007, 23:02
โดย azzuri
อืมมมมมม
ตามด้วย เดอะวอลล์ ของพิงค์ฟอยด์
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
29 ส.ค. 2007, 12:06
โดย capsicum
ที่อุดรฯ เคยไปโรงเบียร์มา 2 หน (แต่ไปกินเหล้า) ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
29 ส.ค. 2007, 19:32
โดย kohboy
อุดรฯ_เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในเมืองไทยที่เหมาะกับการออกย่ำราตรี
เพราะ
_ที่กินมีเยอะ และเดินทางสะดวก ไปได้หลายที่ ตามแต่ใจปรารถณา
_ซ่อนตัวได้ง่าย ใครตามตัวยาก
_สาวอุดร..มักม่วน
(ว่ากันว่า เป็นพฤติกรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยมีจีไออาศัยอยู่กันเยอะที่ค่ายรามสูร โนนสูง)
พฤติกรรมดังที่กล่าวมา มีบางคนบอกว่า พบเห็นได้อีกที่ คือ อุบลฯ
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
30 ส.ค. 2007, 10:58
โดย YOUNGMAN
kohboy เขียน:อุดรฯ_เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในเมืองไทยที่เหมาะกับการออกย่ำราตรี
เพราะ
_ที่กินมีเยอะ และเดินทางสะดวก ไปได้หลายที่ ตามแต่ใจปรารถณา
_ซ่อนตัวได้ง่าย ใครตามตัวยาก
_สาวอุดร..มักม่วน
(ว่ากันว่า เป็นพฤติกรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยมีจีไออาศัยอยู่กันเยอะที่ค่ายรามสูร โนนสูง)
พฤติกรรมดังที่กล่าวมา มีบางคนบอกว่า พบเห็นได้อีกที่ คือ อุบลฯ
ถ้าได้ร่ำสุราก๊วนคงม่วนซื่น
ในค่ำคืนราตรีที่หมากแข้ง
จากเจริญโฮเต็ลเห็นหน้าแดง
เดินตะแคงเกี่ยวแขนในแดนดิน
ด้วยโรงเบียร์ที่ว่าหาไกลไม่
ต่างเดินไปงุดงุดไม่สุดสิ้น
ฟังคนร้องเสียงเบิร์ดเห็นเป็นอาจิณ
แล้วแย่งรินเหล้าเบียร์คลอเคลียเพลง
.......
ฯลฯ
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
30 ส.ค. 2007, 11:19
โดย kohboy
น้านนนน!
มีจุดๆๆ ให้คิดต่ออีก
แค่คิดก็มันส์แล้ววว
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
30 ส.ค. 2007, 12:15
โดย apotheker
เติมคำลงในช่องว่าง
ข้อใดถูก
ก.น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย ธานินทร์ อินทรเทพ
ข.เพียงคำเดียว สุเทพ วงศ์กำแหง
ค. น้ำตาจ่าโท สุรพล สมบัติเจริญ
แซวเล่นครับ อย่าซีเรียส
Re: ว่าด้วยการกินเหล้า
โพสต์แล้ว:
03 ก.ย. 2007, 15:47
โดย YOUNGMAN
นึกทบทวนหอสวนดอกขอบอกกล่าว
ครั้งเมื่อคราวห้าวหนักนักศึกษา
ตั้งหน้าคอยถึงคืนค่ำร่ำสุรา
นึกหมั่นหาทำกับแกล้มมากินกัน
ขี่รถไปขอฟางเอากับชาวบ้าน
ไปที่ร้านขายของชำเขาขำขัน
ซื้อปีบเปล่าเอามาเจาะรูพลัน
ไปตลาดสมเพชรนั้นซื้อไก่มา
เป็นไก่บ้านเขาชำแหละไม่แหวะอก
เปื้อนสกปรกล้างให้ออกลอกขนขา
ตำกระเทียมพริกไทยเม็ดพริกเผ็ดทา
พร้อมทั้งยาเกลือป่นจนทั่วพอ
หมักไว้สักอึดใจไม่นานนัก
เอาไปปักกลางลานด้านหน้าหอ
เอาปีบครอบโกยฟางเกลื่อนเพื่อนนั่งรอ
แล้วก็ก่อไฟชุดจุดกองฟาง
ไฟก็ลุกสว่างโร่ร้องโห่หิ้ว
เขม่าปลิวไปมามือขาขวาง
วงเหล้าตั้งวงดูอยู่ข้างทาง
ต่างก็ครางฮือฮาว่าน่ากิน
น้ำค้างลงตรงหญ้านุ่มแสนชุมฉ่ำ
ต่างร่ายรำด้วยภิรมย์สมถวิล
นี่แหละหนอหอหมอยาในเมืองอินทร์
เห็นจนชินในราตรี..ไม่มีลืม