New Document









ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อ

ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อ

โพสต์โดย Phytoblue » 13 พ.ค. 2010, 12:17

ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อไม่ให้มี Double Standard
เพราะ2หลักสูตรนี้มีความแตกต่างกันไม่มากโดยเฉพาะเรื่อง Clerk Ship สภาเภ น่าจะเอาระบบModule มาช่วยปรับสำหรับ ผู้ที่จบ 5ปี เพราะจะได้เป็นหลักสูตรเดียวกันทั้งหมดเหมือนสภาพยาบาลทำอยู่โดยการปรับพยาบาลให้เป็นวิชาชีพให้หมดเพื่อลดความแตกต่างและในขณะนี้ หลักสูตรเทียบเคียงพยาบาล เช่น ทันตาภิบาล สาสุข 2 ปี ก็จะปรับเป็นระดับปริญญาตรีกันหมดแล้วเพื่อความก้าวหน้าและไม่มีช่องว่างระหว่าง เภสัช5กับ6ปี ควรปรับ5ปีโดยใช้ระบบโมดูลมาช่วยจะได้เป็นUnity และไม่แตกต่างกันเกินไป
ด้วยเคารพและความหวัง....อย่างยิ่งที่จะเห็นเภสัชพัฒนามากกว่านี้[/b]
[/color]
Phytoblue
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 12:07







Re: ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อ

โพสต์โดย Pharma_Name » 14 พ.ค. 2010, 13:04

ไม่ได้เป็นตัวแทนของสภาเภสัชกรรมนะครับ แต่มาให้ข้อเท็จจริง

ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อไม่ให้มี Double Standard เพราะ2หลักสูตรนี้มีความแตกต่างกันไม่มากโดยเฉพาะเรื่อง Clerk Ship สภาเภสัช น่าจะเอาระบบModule มาช่วยปรับสำหรับ ผู้ที่จบ 5ปี เพราะจะได้เป็นหลักสูตรเดียวกันทั้งหมด

เห็นด้วยในการที่จะมีช่องทางสำหรับผู้ที่จบแบบ 5 ปี ไปเรียนต่อยอดเพื่อปรับเป็นหลักสูตร 6 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีอยู่ 2 แห่ง ที่เปิดหลักสูตรให้ต่อยอด คือ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร วิทยาเขตพิษณุโลก แต่เนื่องจากระยะเวลาการต่อยอดเป็นเวลา 2 ปี เท่ากับปริญญาโท ดังนั้นเภสัชที่จบ 5 ปี มามักจะไปต่อปริญญาโทกันส่วนมากนะครับ

เหมือนสภาพยาบาลทำอยู่โดยการปรับพยาบาลให้เป็นวิชาชีพให้หมดเพื่อลดความแตกต่าง

สำหรับหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ยกเลิกหลักสูตร 2 ปี ไปตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 แต่ของเภสัชพึ่งยกเลิกหลักสูตร 5 ปี ไปเมื่อ 2553 คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะทำได้ทัน

และในขณะนี้ หลักสูตรเทียบเคียงพยาบาล เช่น ทันตาภิบาล สาสุข 2 ปี ก็จะปรับเป็นระดับปริญญาตรีกันหมดแล้วเพื่อความก้าวหน้าและไม่มีช่องว่างระหว่าง เภสัช5กับ6ปี ควรปรับ5ปีโดยใช้ระบบโมดูลมาช่วยจะได้เป็นUnity และไม่แตกต่างกันเกินไป
ด้วยเคารพและความหวัง....อย่างยิ่งที่จะเห็นเภสัชพัฒนามากกว่านี้


ของทันตาภิบาล ก็มีให้คนที่จบทันตาภิบาล 2 ปี ไปต่อยอดอีก 2 ปี แห่งเดียวคือวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ชลบุรี ส่วนที่อื่นก็ยังไม่มีรับแบบต่อยอด อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนเช่นกัน ส่วนของสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต ยกเลิกแบบ 2 ปี มาตั้งแต่ ปี 2542 พร้อมพยาบาล และก็รับไปต่อยอดมาตั้งแต่ ปี 2543

ดังนั้นก็ต้องรอสภาทำการปรับปรุงต่อไป
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อ

โพสต์โดย Blue_Rx34 » 28 พ.ค. 2010, 11:38

:neutral: [size=200]ขอบคุณมากๆครับ...จะรอสภาเภสัชกรรม... พัฒนาหลักสูตรสำหรับคนที่จบ เภสัช 5ปีที่ไม่มีเวลาไปเรียนต่อ จุฬา กับ นเรศวร (ใช้เวลาเรียนใหม่เลย 2 ปีเท่า ป โท เลย)น่าจะมีแบบ ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั๊น..เพราะส่วนใหญ่เป็นเพียงฝึกงานซะมากกว่าถ้าลองดูหลักสูตรใหม่ที่เพิ่มเติมมาคือฝึกงาน 1,000 ชั่วโมง...อย่างมากก็ควรมีการลงทะเบียนกับมหาลัยต้นสังกัดที่ ผู้นั้นจบมาเพื่อต่อยอด อาจเป็นแบบระบบโมดูลแทนที่จะเสียเวลาไปเรียนมากมายถึง 2ปี เท่ากับ ป.โท เพราะถ้าเรามัวทำอะไรที่ยากเกินไปหรือซับซ้อนยุ่งยากมากมายบางทีเภสัช เองอาจจะพัฒนาลำบากมากขึ้นเพราะไม่มีอะไรเอื้อเลยต่อคนที่จบมาแล้วควรทำหลักสูรที่เอื้อกับหลักสูตร 5ปี ที่ไม่เวลาบ้าง ...จะได้มีเภสัชที่เป็น miscellaneous เป็น Unity ซะทีครับ[/size]
Blue_Rx34
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2010, 15:53

Re: ทำหลักสูตร6ปีแล้วควรปรับหลักสูตร5ปีให้เทียบเท่าด้วยเพื่อ

โพสต์โดย Blue_Rx34 » 28 พ.ค. 2010, 12:19

ผมคิดว่าตอนนี้พวกเราชาวเภสัชโชคดี ที่มีคนดีเข้าไปทำงานในสภาเภสัชกรรมหลายท่าน และ เป็นยุคที่เราสามารถนำบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิทั้งความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการพัฒนาหลักสูตร...ที่สามารถทำให้เภสัชกรไม่มี Double Stsndard โดย มีบุคคลากร ที่พัฒนาหลักสูตรให้ เภสัช 5ปี สามารถ ปรับมาเป็น 6ปีได้ โดยมีระบบที่ไม่กระทบต่อเวลาในการทำงานมากเกินไป คือระบบ Module System ซึ่งเลียนแบบ ป.โท เภสัชศาสตร์ ระบบ Module โดยการร่วมมือซึ่งมรพันธมิตรอันประกอบด้วย มหาวิทยาลัยต้นสังกัดโดยมีการนำร่องของ มหาวิทยาลัย 5 สถาบันที่พัฒนาหลักสูตร ป.โทชนิด Module System ประกอบด้วย ม.มหิดล ม.สงขลานครินทร์ ม.ขอนแก่น ม.ศิลปากร และ ม.เชียงใหม่ และ สำนักพัฒนาระสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข อีกทั้ง การศึกษาตอเนื่อง CPE ของสภาเภสัชกรรม โดยการศึกษาใช้ระบบ CPE เข้ามาช่วยในเรื่อง Credit และมีการฝึกงานตามที่กำหนดเป็นระยะเพื่อให้ครบเวลา และสามารถเทียบโอนหรือเท่ากับหลักสูตร Doctor of Pharmacy เมื่อปรับ หลักสูตร 5 ปีได้แล้ว ก็นำศักยภาพด้านการศึกษาไป Negotiate ในด้านตำแหน่งต่อไป และตอนนี้เภสัชกรนั้นควรมีเฉพาะทางมากขึ้นเพื่อรองรับงาน Primary Care เพราะตอนนี้ พยาบาลเรียน เวชปฏิบัติกันหมดแล้วซึ่งเป็นเฉพาะทางของพยาบาล โดยมีทั้งหลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรเสาร์-อาทิตย์ และ ลาเรียนเต็มหลักสูตรเป็น ป.โท เวชปฏิบัติ ในขณะที่เภสัชศาสตร์ทำหลักสูตรยากๆอย่าง Ressident ซึ่งใช้เวลานานถึง5ปี และการยอมรับน้อยมากเพราะเขายอมรับแพทย์มากกว่า เราควรหันมาพัฒนาหลักสูตรระยะสั้นๆแต่ได้รับการยอมรับมากกว่านี้คือเน้นการนำไปใช้ทำงาน มากกว่า...ที่กล่าวมาทั้งหมดมันเป็นแค่จินตนาการของเภสัชกร คนหนึ่งที่ไม่มีแรงกำลังอะไรไปช่วยพัฒนาได้ครับได้แต่หวังว่าสิ่งที่กล่าวมาก็เป็นเพียงความคิดที่อยากเห็นเภสัชศาสตร์พัฒนาและคุณค่ากว่าที่ควรจะเป็น เป็นเพียงความหวังเล็กๆของเภสัชกรบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น หวังว่าสักวันหนึ่ง ถ้าผมยังมีลมหายใจมันคงจะเป็นจริงได้ซักวันเพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกใครหลายๆคนเข้าไปเป็นตัวแทนเพื่อทำงานและพัฒนาเภสัชของเราให้รุ่งเรื่องต่อไป...ขออภัยด้วยนะครับถ้าใครได้อ่านแล้วดูว่ามันไร้สาระ[/b][/size][/color][/color]
Blue_Rx34
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2010, 15:53


ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document