PharmaCafe.com

อุตส่าห์เรียนมาตั้งห้าปี ทำไมมาตัดกันตรงสอบใบประกอบแค่สามวันคะ ดูไม่ยุติธรรมเลย entrance + เรียนจบ ก้อน่าจะพอที่ให้ใบประกอบได้แล้วนะ

ใช่แล้วเห็นด้วย สภาฯบอกคนที่สอบไม่ผ่าน OSPE คนนั้นไม่สามารถปฏิบัติงานเภสัชกรรมได้ ไม่สามารถจ่ายยาดูแลคนไข้ได้ เท่ากับว่าเรียนจบทำงานไม่ได้เลยเพราะสภาฯตัดแขนและตัดขา ตัดปากคนนั้นห้ามทำงานห้ามพูดไม่มีสิทธิ์ใดๆรวมทั้งห้ามประกอบอาชีพบริบาลเภสัชกรรม คิดได้ไงทำไมถึงทำร้ายบัณฑิตเภสัชกรรมได้ เอา สาม วันมาตัดสินเรียนมาตั้ง ห้าปี หก ปี ผ่านการฝึกงาน ผ่านการเรียน ผ่านการสอบจนเรียนจบ MCQ ไม่ผ่านเข้าใจนะ แต่ OSPE มาวัดกันที่สามนาที กับสถานการณ์ปัจจุบัน ท่านสามารถให้ความช่วยเหลือหรือให้จ่ายยาพร้อมคำแนะนำเสร็จสับเรียบร้อยนี่คือมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมเหรอครับที่ต้องทำให้เสร็จภายในสามนาที

ถามอีกข้อว่า ข้อสอบที่นำมาสอบ อาจารย์ที่ออกข้อสอบได้ทำการทดสอบกับตัวท่านเองหรือไม่ว่ายี่สิบห้าฐานท่านจะผ่านหรือไม่ ช่วยตอบที

หมอเค้าก็สอบกัน หลังวิชาชีพเค้าก็สอบกันหมดแหละคะ แม้เเต่ครูยังต้องสอบ
จริงอยู่ที่การสอบอาจจะดูไม่ยุติธรรม สำหรับคนที่พลาดไป 1-2 คะแนน แต่ก็นะ เลิกบ่นแล้วไปอ่านหนังสือดีกว่า สอบ OSPE สติสำคัญที่สุด ส่วนมากจะตื่นเต้นทำให้พลาด อีกกรณีต้องบอกว่าสะเพร่าด้วยส่วนนึง เพราะเวลาจำกัด ถ้ารอบรอบมีสติ ยังไงก็ผ่าน (ดูจากข้อสอบต้องบอกว่าพอออกมานอกห้องสอบทุกคน ตอบได้หมด รู้หมด ไม่ใช่ไม่รู้ ... ถามตัวเองดีกว่าว่าทำไมถึงพลาด)

อ้อ ขอแทนตัวว่าพี่ละกัน เพราะสอบรุ่นแรก ขอบอกว่าสอบ 3 นาที ทันค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้เรียนเก่งมากมาย จบมาก็เกรดต้อยต่ำ 2.5 ไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่สอบผ่านหมดครั้งเดียว

sukanya_rx19 เขียน:หมอเค้าก็สอบกัน หลังวิชาชีพเค้าก็สอบกันหมดแหละคะ แม้เเต่ครูยังต้องสอบ
จริงอยู่ที่การสอบอาจจะดูไม่ยุติธรรม สำหรับคนที่พลาดไป 1-2 คะแนน แต่ก็นะ เลิกบ่นแล้วไปอ่านหนังสือดีกว่า สอบ OSPE สติสำคัญที่สุด ส่วนมากจะตื่นเต้นทำให้พลาด อีกกรณีต้องบอกว่าสะเพร่าด้วยส่วนนึง เพราะเวลาจำกัด ถ้ารอบรอบมีสติ ยังไงก็ผ่าน (ดูจากข้อสอบต้องบอกว่าพอออกมานอกห้องสอบทุกคน ตอบได้หมด รู้หมด ไม่ใช่ไม่รู้ ... ถามตัวเองดีกว่าว่าทำไมถึงพลาด)

อ้อ ขอแทนตัวว่าพี่ละกัน เพราะสอบรุ่นแรก ขอบอกว่าสอบ 3 นาที ทันค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้เรียนเก่งมากมาย จบมาก็เกรดต้อยต่ำ 2.5 ไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่สอบผ่านหมดครั้งเดียว

คุยแท้

ใครอ่อนแอ ตายไปครับ

niwat เขียน:

sukanya_rx19 เขียน:หมอเค้าก็สอบกัน หลังวิชาชีพเค้าก็สอบกันหมดแหละคะ แม้เเต่ครูยังต้องสอบ
จริงอยู่ที่การสอบอาจจะดูไม่ยุติธรรม สำหรับคนที่พลาดไป 1-2 คะแนน แต่ก็นะ เลิกบ่นแล้วไปอ่านหนังสือดีกว่า สอบ OSPE สติสำคัญที่สุด ส่วนมากจะตื่นเต้นทำให้พลาด อีกกรณีต้องบอกว่าสะเพร่าด้วยส่วนนึง เพราะเวลาจำกัด ถ้ารอบรอบมีสติ ยังไงก็ผ่าน (ดูจากข้อสอบต้องบอกว่าพอออกมานอกห้องสอบทุกคน ตอบได้หมด รู้หมด ไม่ใช่ไม่รู้ ... ถามตัวเองดีกว่าว่าทำไมถึงพลาด)

อ้อ ขอแทนตัวว่าพี่ละกัน เพราะสอบรุ่นแรก ขอบอกว่าสอบ 3 นาที ทันค่ะ ส่วนตัวก็ไม่ได้เรียนเก่งมากมาย จบมาก็เกรดต้อยต่ำ 2.5 ไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่สอบผ่านหมดครั้งเดียว

คุยแท้

5555555555+ นึกว่าให้กำลังใจน้องเค้านะเนี่ย

ถ้า K.SUKUNYA_RX19 สอบไม่ผ่านหรือขาดคะแนนไปสัก 1-2 คะแนน คงจะไม่พูดและไม่ชูมือยิ้มทำท่ากระต่ายร่าเริงแบบนี้มั้งแน่
ยังไงมีมืด ก็มีสว่าง มีกลางวันและกลางคืนเน้อ

pharm เขียน:ถ้า K.SUKUNYA_RX19 สอบไม่ผ่านหรือขาดคะแนนไปสัก 1-2 คะแนน คงจะไม่พูดและไม่ชูมือยิ้มทำท่ากระต่ายร่าเริงแบบนี้มั้งแน่ ยังไงมีมืด ก็มีสว่าง มีกลางวันและกลางคืนเน้อ

ส่วนตัว อาจจะเศร้าบ้างถ้าสอบไม่ผ่าน แต่มั่นใจว่าคงจะไม่มาพร่ำบ่นแบบนี้ ผลออกมาเเบบนี้ ยอมรับให้ได้ว่าเราพลาด แล้วก็ตั้งใจแก้ตัวใหม่ ดีกว่า เรื่องการสอบเนี่ยอยู่ที่เราทั้งนั้น ทุกอย่างเรียนมาหมดเเล้ว
ถ้าจะบอกว่ามีผลต่อการสมัครงาน อย่างแรกก็ต้องทำใจก่อนเเหละ หางานที่เค้าไม่ดูใบประกอบ ละทำก่อน เอาประสบการณ์ สอบให้ได้ก็หางานใหม่อีกที ส่วนมากจะเจอแบบที่เลือกงาน อันนั้นก็ไม่เอา อันนี้ก็ไม่ดี นั่นก็เงินน้อย ทุกอย่างอยู่ที่ทัศนคติของเรามากกว่า

สอบเอนทรานซ์ 1-2 คะแนนไม่ติดคณะเภสัชก็คือไม่ติด แบบนี้เด็กที่สอบไม่ต้องออกมาบ่น อีกคะแนนเดียวเค้าจะได้เป็นเภสัช
สอบเข้าทำงานตามโรงบาล ขาด 1-2 คะแนน ต้องมาพร่ำบ่นว่า ทำไมโรงพยาบาลไม่ปรับเกณฑ์รับ แค่พลาดไปนิดเดียว
สอบสัมภาษณ์ทำงาน พูดผิดไปนิดหน่อย เค้าไม่รับ จะมาบอกว่า ขอสัมภาษณ์อีกรอบได้มั้ย เมื่อกี้เตรียมมาผิด

สังคมเรามีกฏเกณฑ์ ทำใจแล้วยอมรับซะ ไม่งั้นกฏเกณฑ์ทุกอย่างที่สร้างมาก็ไม่มีความหมาย จะมีไว้ทำไม

อ้อ แล้วที่บอกว่ามันตัดสินสำหรับวิชาชีพ การแสดงออกถึงวิชาชีพ บางอย่างก็ไม่ต้องใช้ใบประกอบหรอก ทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณที่ร่ำเรียนมาได้ ก็เป็นความภูมิใจในตัวเองแล้ว ถ้าตั้งใจอยากทำวิชาชีพจริงๆก็อย่าลืม บางคนได้ใบประกอบไปทำวิชาชีพแบบผิดๆก็เยอะแยะไป

สังคมเรามีกฏเกณฑ์ ทำใจแล้วยอมรับซะ ไม่งั้นกฏเกณฑ์ทุกอย่างที่สร้างมาก็ไม่มีความหมาย จะมีไว้ทำไม

อยากกด like หลายๆครั้ง ทุกวันนี้ที่เรายังเป็นแบบนี้อยู่เพราะเราไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ พยายามใช้ระบบศักดินา ระบบอุปภัมภ์ หรือไม่ก็พยายามที่จะแหวกช่องโหว่ของกฎเกณฑ์ ปัญหาการแขวนป้ายของเภสัชกร การเปิดคณะเภสัชศาสตร์ใหม่ การสอบใบประกอบวิชาชีพ หรือปัญหาอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถควบคุมได้ หากเภสัชกรทุกคนปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ กฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ ทั้งคนที่คุมกฎและคนที่อยู่ใต้กฏ


สำหรับมุมมองในเรื่องการสอบใบประกอบ โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าไม่ได้ง่ายและยากเกินไป เพียงเพราะมันเป็นพื้นฐานความเป็นเภสัชกร ซึ่งต้องประกอบไปด้วยความรู้ทั้งสามสาขา (Clinic,Product,Social) การสอบใบประกอบเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเภสัชกรที่มีใบประกอบจะเป็นเภสัชกรที่ดีที่สุด แต่สิ่งเหล่านั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆส่วน ดังนั้นอยากให้มองตัวเราก่อนว่า เราเตรียมตัวพร้อมหรือยัง ก่อนที่เราจะมองว่ามันเป็นความผิดพลาดของ External factor อื่น

KonTuaLek เขียน:

สังคมเรามีกฏเกณฑ์ ทำใจแล้วยอมรับซะ ไม่งั้นกฏเกณฑ์ทุกอย่างที่สร้างมาก็ไม่มีความหมาย จะมีไว้ทำไม

อยากกด like หลายๆครั้ง ทุกวันนี้ที่เรายังเป็นแบบนี้อยู่เพราะเราไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ พยายามใช้ระบบศักดินา ระบบอุปภัมภ์ หรือไม่ก็พยายามที่จะแหวกช่องโหว่ของกฎเกณฑ์ ปัญหาการแขวนป้ายของเภสัชกร การเปิดคณะเภสัชศาสตร์ใหม่ การสอบใบประกอบวิชาชีพ หรือปัญหาอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถควบคุมได้ หากเภสัชกรทุกคนปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ กฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ ทั้งคนที่คุมกฎและคนที่อยู่ใต้กฏ


สำหรับมุมมองในเรื่องการสอบใบประกอบ โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าไม่ได้ง่ายและยากเกินไป เพียงเพราะมันเป็นพื้นฐานความเป็นเภสัชกร ซึ่งต้องประกอบไปด้วยความรู้ทั้งสามสาขา (Clinic,Product,Social) การสอบใบประกอบเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเภสัชกรที่มีใบประกอบจะเป็นเภสัชกรที่ดีที่สุด แต่สิ่งเหล่านั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆส่วน ดังนั้นอยากให้มองตัวเราก่อนว่า เราเตรียมตัวพร้อมหรือยัง ก่อนที่เราจะมองว่ามันเป็นความผิดพลาดของ External factor อื่น

+1 คร๊าบ
สงสัยจะคิดว่ากฏระเบียบมีไว้ฝ่าฝืน
กระทู้พลีชีพชัดๆ
ปล วิชาชีพอื่นๆก็ต้องสอบกันนะคร๊าบ

sukanya_rx19 เขียน:

pharm เขียน:ถ้า K.SUKUNYA_RX19 สอบไม่ผ่านหรือขาดคะแนนไปสัก 1-2 คะแนน คงจะไม่พูดและไม่ชูมือยิ้มทำท่ากระต่ายร่าเริงแบบนี้มั้งแน่ ยังไงมีมืด ก็มีสว่าง มีกลางวันและกลางคืนเน้อ

ส่วนตัว อาจจะเศร้าบ้างถ้าสอบไม่ผ่าน แต่มั่นใจว่าคงจะไม่มาพร่ำบ่นแบบนี้ ผลออกมาเเบบนี้ ยอมรับให้ได้ว่าเราพลาด แล้วก็ตั้งใจแก้ตัวใหม่ ดีกว่า เรื่องการสอบเนี่ยอยู่ที่เราทั้งนั้น ทุกอย่างเรียนมาหมดเเล้ว
ถ้าจะบอกว่ามีผลต่อการสมัครงาน อย่างแรกก็ต้องทำใจก่อนเเหละ หางานที่เค้าไม่ดูใบประกอบ ละทำก่อน เอาประสบการณ์ สอบให้ได้ก็หางานใหม่อีกที ส่วนมากจะเจอแบบที่เลือกงาน อันนั้นก็ไม่เอา อันนี้ก็ไม่ดี นั่นก็เงินน้อย ทุกอย่างอยู่ที่ทัศนคติของเรามากกว่า

สอบเอนทรานซ์ 1-2 คะแนนไม่ติดคณะเภสัชก็คือไม่ติด แบบนี้เด็กที่สอบไม่ต้องออกมาบ่น อีกคะแนนเดียวเค้าจะได้เป็นเภสัช
สอบเข้าทำงานตามโรงบาล ขาด 1-2 คะแนน ต้องมาพร่ำบ่นว่า ทำไมโรงพยาบาลไม่ปรับเกณฑ์รับ แค่พลาดไปนิดเดียว
สอบสัมภาษณ์ทำงาน พูดผิดไปนิดหน่อย เค้าไม่รับ จะมาบอกว่า ขอสัมภาษณ์อีกรอบได้มั้ย เมื่อกี้เตรียมมาผิด

สังคมเรามีกฏเกณฑ์ ทำใจแล้วยอมรับซะ ไม่งั้นกฏเกณฑ์ทุกอย่างที่สร้างมาก็ไม่มีความหมาย จะมีไว้ทำไม

อ้อ แล้วที่บอกว่ามันตัดสินสำหรับวิชาชีพ การแสดงออกถึงวิชาชีพ บางอย่างก็ไม่ต้องใช้ใบประกอบหรอก ทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณที่ร่ำเรียนมาได้ ก็เป็นความภูมิใจในตัวเองแล้ว ถ้าตั้งใจอยากทำวิชาชีพจริงๆก็อย่าลืม บางคนได้ใบประกอบไปทำวิชาชีพแบบผิดๆก็เยอะแยะไป

+1 ชอบใจมากๆ
มันมีแค่ผ่านกับไม่ผ่านนะครับ ลองคิดดู

เห็นใจน้องที่สอบไม่ผ่านคับเรียนมาตั้งนานกว่าจะจบ เคยมีร่นฟี่ถามผมว่าเคยฝันร้ายฝันว่าเรียนไม่จบไหม ผมกับฟี่ไม่ต้องสอบใบยังเคยน้องที่ผมเคยคุยเรืองงานดูน้องบ้างคนที่สอบใบไม่ผ่านเหมือนน้องฝันร้ายอยู่เลย เอาเป็นว่า สู้สู้นะ

สอบน่ะดีแล้วคับเพราะผมเคยคุมสอบเด็กที่มาสอบOSPEแล้วโคตรเศร้าใจ นี่นะหรือเภสัชกรไทย พระเจ้าช่วยเอ็งอยู่ปี 5 แล้วนะแค่ใช้กระดาษลิตมัสtest acid base แค่เนี้ยยังทำไม่เป็นแล้วจะไปทำอะไร ยังมาอ้างอีกนะคับว่าหนูเรียนคลีนิก แล้วไง ผมสายmenuยังขึ้นwardเลยค้าบ ทำADR warfarin คลีนิกเบาหวาน ทำme ผมจะกล้าพูดกับหัวหน้าไหมคับว่าผมจบmenuมาอย่างอื่นทำไม่เป็น คนไข้มาถามเรื่องยาแล้วจะกล้าตอบไหมว่าผมเรียนทำยาไม่ได้เรียนใช้ยา

สอบน่ะดีแล้วครับ

ผมสอนเด็กฝึกงานมาหลายปี อยากจะบอกว่า ถ้าประเมินจากเด็กที่ผ่านจากผมเป็นค่าขั้นต่ำหละก็

คาดว่าเด็กเภสัชไทยมีปัญหาแน่ๆ ครับ รับรอง