อ่านหลายๆกระทู้เกี่ยวกับสอบใบประกอบ รุ้สึกเหมือนผู้ใหญ่(บางคนในสภา)ไม่ได้เรียนการควบคุมคุณภาพเลยแฮะ กะแต่จะมาคัดทิ้งตอนผลิตเสร็จแล้ว ไม่มีการดูกระบวนการผลิตดีๆเลย ยาเราทิ้งได้ แต่เภสัชกรทั้งคนเรียนมาตั้ง 5 ปี คุณทิ้งไม่ได้นะ งบประมาณประเทศที่เค้าลงมาให้เรียนนะเสียมิ้งได้ไง ชีวิตคนทั้งชีวิตคุณจะทิ้งได้ไง น่าจะมีช่องให้คนเรียนมาแล้วสอบไม่ผ่านเค้าได้ใช้ความรุ้ที่เค้าเรียนมาบ้างนะ แล้วก็ค่าสอบอีกอย่างนึงขูดไปไหม กว่าจะเรียนจบก็แบมือมาเยอะแล้ว แถมมีธรรมเนียมฝึกงานอีก จบแล้วต้องมาแบมือขอค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าสอบอีกตั้ง 3000 ถ้าไม่ผ่านก็บาน แล้วค่าขึ้นทะเบียนใบประกอบอีก กว่าจะมาเป็นเภสัชกรได้แต่ละคนเสียตังเยอะเนอะ มันก็เหมือนการลงทุนนะมีการลงทุนไปต้องได้กลับมา จรรญาบรรณก็จะมาหลังเงินละทีนี้ ผมจะไม่สงสัยเลยถ้าต่อไปคำว่าจรรญาบรรณจะเป็นเพียงเสือกระดาษเพราะการกระทำของสภาที่บีบเภสัชกรขึ้นเรื่อยๆแบบนี้
อันนี้มุมมองผมในรุ่นที่ต้องสอบใบประกอบ แต่ถ้าพี่ๆคนไหนไม่เห็นด้วย กรุณาใจเค้าใจเราด้วยนะครับ พี่บางคนได้แบบไม่ต้องสอบก็อาจมองว่าพวกผมเอะอะ แต่ก็คิดถึงจิตใจน้องๆที่เค้าจบแล้วก็อยากทำงานบ้าง อยากใช้ความรุ้ความสามารถที่ได้เรียนมารับใช้สังคมในฐานะเภสัชกรคนนึงบ้าง อยากได้รับการยอมรับว่าเภสัชกรเต็มตัวเหมือนพี่ๆบาง ไม่อยากถูกจำกัดสิทธิยังงี้ ไม่อยากเสียเงินครั้งละ 3000 ทิ้งนะครับ เงินพ่อแม่หามาทุกบาททุกสตางค์ด้วยความลำบากพวกผมเสกไม่ได้นะครับ
สภาน่ะ แทนทีจะมาคุมแต่คุณภาพผลิตภัณฑ์ มองดูดีๆดีกว่าไหม ทำไมเค้ามองเราไร้มาตรฐาน เพราะคุณไม่คุมจรรญาบรรณให้ดีพอไง แขวนป้ายปล่อยไว้ทำไม ร้านยาต้องมีเภสัชกรประจำร้านตลอดเวลาทำการซิไม่ใช้อยุ่แค่เวลาตามป้าย คุณไปดูพวกนั้นดีกว่าไหม ไปหาทางส่งเสริมอุตสาหกรรมยาในประเทศดีกว่าไหม ไปดูว่าจะเอาการวิจัยต่างๆมาทำด้านอุตสาหกรรมดีกว่าไหม โรงงานของรัฐก็มีไปส่งเสริมก็ได้ถ้าไม่อยากช่วยเอกชนนะ ทำอะไรที่มีสาระมากกว่ามาจำกัดกันเองยังงี้ดีกว่าไหม
สุดท้าย ผมอยากฝากบอกทางสภาที่สนับสนุนหลักสูตรบริบาล 6 ปี only ว่า เภสัชกร คือ ผู้ผลิตยานะครับ ไม่ใช่ผู้ใช้ยา ถ้าเราเก่งแต่ใช้ ผลิตไม่เป็นใช้แต่ของนอก เมื่อนั้นแหละวิชาชีพเราแย่แน่ๆ ฝากให้คิดเฉยๆนะครับ