New Document









สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

โพสต์โดย jross » 05 เม.ย. 2009, 17:32

กรรมการสภามาจากพวกเราเภสัชกรทั้งหลาย
ผลการเลือกตั้งเกิดจากพวกเราเภสัชกรทั้งหลาย
ผลงานของสภาก็เกิดจากพวกเราเภสัชกรทั้งหลาย
อยากให้อนาคตของสภาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ...
พวกเราเภสัชกรทั้งหลาย

แล้วพวกเราเภสัชกรทั้งหลายวางแผนอนาคตนั้นกันหรือยัง
เรามามองหาแนวร่วมวางแผนเพื่ออนาคตที่ดีกันมั้ย...
พวกเราเภสัชกรทั้งหลาย
jross
 
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 23:41







Re: สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

โพสต์โดย Se7olution » 05 เม.ย. 2009, 23:29

แล้วมันก็คงเหมือนกับ สส สสจ สว ที่ประเทศไทยเลือกไป แล้วมีผลงานน้อยมาก หรือทำไม่ได้อย่างที่พูด
Se7olution
 
โพสต์: 54
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 01:20

Re: สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

โพสต์โดย wannee » 07 เม.ย. 2009, 23:46

สิ่งที่อยากให้มีในการเลือกตั้งกรรมการสภาวาระถัดไปคือ :biggrin: :mrgreen:

มีเภสัชกรจากหลากหลายสายสมัครมากขึ้น แต่ละสายอาจจะมีการจัดกลุ่มและคุยกันมาก่อนก็ได้ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะถ้ามีเภสัชกรใช้สิทธิให้มากขึ้น ความน่าจะเป็นที่จะได้กรรมการสภาที่ไม่กระจุกตัวเฉพาะบางสายน่าจะมากขึ้นด้วย ...ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคิดผิดหรือเปล่า แต่ยังไงก็ตาม ไม่อยากได้ยินคำว่า ได้เสียงไม่กี่ร้อยก็ได้เป็นกรรมการสภาแล้ว มันบอกอะไรบางอย่าง

ตอนนี้ตัวเลขเภสัชกรเราทั่วประเทศถึงสองหมื่นแล้วนะคะ (ไม่รู้จำนวนผู้เสียชีวิต และ คนที่ออกไปทำงานด้านอื่นว่ามีสักเท่าไร)
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

โพสต์โดย cowboyman » 24 เม.ย. 2009, 00:37

คุณสมบัติผู้ที่จะลงสมัคนี่เป็นยังไงอ่ะครับ
อยากรู้จิงๆ

เพราะไม่เห็นจะมีใครถูกใจกับสภาสักเท่าไหร่เลย
cowboyman
 
โพสต์: 126
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2009, 03:05

Re: สภาฯ จะหมดอายุแล้ว

โพสต์โดย coolturtle » 24 มิ.ย. 2009, 08:07

ท่านคิดอย่างไรหาก?กรรมการสภาเภสัชกรรมชุดใหม่จะมีนโยบายจัดการให้มีการลงประชามติสมาชิกสภาเภสัชกรรมทั่วประเทศว่าประสงค์ให้กรรมการสภาฯพิจารณาทบทวนระบบการจัดการหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิตใหม่หรือไม่?
ทั้งนี้สืบเนื่องจากความเห็นขัดแย้งเรื่องการออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมฯ พ.ศ.2551 ที่บังคับให้หลักสูตรเภสัชศาสตร์ต้องเรียน 6 ปีทั้งหมด โดยไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ ไม่เปิดรับฟังความคิดเห็นฯ และเมื่อมีการส่งเรื่องฟ้องศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552 ว่า ?....เมื่อข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับกับสถาบันการศึกษาที่ขอรับรองและผู้ที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เป็นต้นไปโดยไม่ใช้บังคับกับผู้สำเร็จการศึกษาก่อนปีการศึกษา พ.ศ.2557 แต่อย่างใด เมื่อปรากฏว่าผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ซึ่งสำเร็จการศึกษาและได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอยู่ก่อนแล้วตามกฎหมาย โดยยังคงเป็นสมาชิกของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอยู่เช่นเดิมแม้จะมีการใช้ข้อบังคับสภาเภสัชกรรมดังกล่าวก็ตาม ดังนั้น การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามในการออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมดังกล่าวจึงไม่ได้มีผลกระทบต่อสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบแต่อย่างใด ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบจึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายที่จะมีสิทธิฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามต่อศาลได้ตามมาตร 42 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง....?
ด้วยเหตุนี้ ปัญหาการออกข้อบังคับสภาฯ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวของผู้ฟ้องคดีจึงยังหาทางออกไม่ได้ เพราะโอกาสที่จะให้ผู้ได้รับผลกระทบซึ่งหมายถึงเด็กที่จะเข้าเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป มาเป็นผู้ฟ้อง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะโอกาสได้เรียน ได้ใบประกอบวิชาชีพหรือได้งานเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของผู้ถูกฟ้องคดี จึงไม่มีใครรับประกันได้ว่าสิทธิการฟ้องจะเป็นเรื่องที่แยกพิจารณาได้เด็ดขาดจากสิทธิการได้เรียน ได้ใบประกอบ ได้ทำงานฯ ด้วยเหตุนี้การออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรม หรือวิชาชีพใดๆที่ไม่เหมาะสม จึงไม่มีโอกาสมีโจทย์ที่มีสิทธิฟ้องได้เลย
ดังนั้น เพื่อให้ปัญหานี้ไม่ถูกละเลยในระดับชาติ จึงน่าที่จะเสนอให้กรรมการสภาฯชุดใหม่จัดทำประชาพิจารณ์ว่า?สมควรให้กรรมการสภาฯชุดใหม่พิจารณาระบบการจัดการหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิตใหม่หรือไม่?
หรือท่านคิดเห็นอย่างไร
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44


ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document