New Document









เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 29 มิ.ย. 2008, 22:21

ขออนุญาตบันทึกสถิติไว้หน่อยนะคะ :D

ตั้งแต่วันที่ 29 พค. ที่ได้ส่งไฟล์ผลสำรวจความคิดเห็นเรื่องหลักสูตร 5/6 ปี วันนี้ 1 เดือนพอดี
มีการ d/l จำนวน 544 ครั้ง เฉลี่ยวันละ 18 ครั้ง

ขอบคุณผู้ดูแลมากๆเลยค่ะ :lol: :lol: :lol:
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08







Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย zartingtong » 29 มิ.ย. 2008, 23:00

ผมเข้าสู่วงการวิชาชีพเภสัชกรรมมา 56 ปีแล้ว การเรียนการสอนกำลังจะเปลี่ยนไปให้ทุกคณะเรียน 6 ปี ได้รับปริญญา Doctor of Pharmacy ผมเองคิดว่าจะมีประโยชน์สำหรับเภสัชกรที่เข้ารับราชการเท่านั้น เงินเดือนจะสูงขึ้น แต่ถ้าประกอบวิชาชีพอื่นเรียน 5 ปีก็พอ แล้วมาศึกษาต่อในสาขาที่ตัวเองจะใช้ในการประกอบวิชาชีพเพื่อรับวุฒิบัตร การเรียน 5 ปีก็ลดเนื้อหา ลดหน่วยกิตลง เหมือนแพทย์เมื่อออกไปปฏิบัติงานแล้วเลือกมาเรียนแพทย์เฉพาะทางตามที่ตัวเองต้องการ เช่น สูติ ศัลย์ อายุรกรรม ผิวหนัง กระดูกและข้อ เรียนให้ลึกไปในวิชาชีพที่จะต้องนำไปประกอบวิชาชีพ

พี่แป๊ะช่วยไปสีซอให้ฝักถั่วฟังหน่อยซีครับ
:lol: :lol: :lol:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Satapat » 29 มิ.ย. 2008, 23:27

ข้าพเจ้ามาเรียนเภสัชเพื่อปรุงยา ไม่ใช่เพื่อไปอยู่โรงพยาบาล
ผมไม่ชอบโรงพยาบาลครับ  :?
Satapat
 
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2007, 20:31

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 14 ก.ค. 2008, 21:13

บทความของท่าน ว.วชิรเมธี

น่าอ่านมากๆค่ะสำหรับเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้ รวมถึงเหตุการณ์ในวิชาชีพเราด้วย

ถึงเวลาแล้วค่ะ
เชิญอ่านได้เลยค่ะ

จาก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000082472

[b]
แนบไฟล์
551000008924601.jpg
551000008924601.jpg (3.74 KiB) เปิดดู 9956 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย wannee เมื่อ 14 ก.ค. 2008, 21:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย pharjung » 17 ก.ค. 2008, 20:18

:bigcry: :bigcry: :bigcry: :bigcry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharjung
 
โพสต์: 125
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2006, 10:19
ที่อยู่: ปทุมธานี

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 17 ก.ค. 2008, 20:51

อย่าร้องเลยจ้า โอ๋ โอ๋นะน้อง :D

admin คะ พี่สงสัยว่าเจ้าผลการสำรวจที่เดิมปะไว้ข้างบนน่ะค่ะ ตอนนี้มันยังอยู่ป่าว เนื่องจากไม่เห็นน่ะค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 27 ก.ค. 2008, 23:59

บทความนักศึกษาค่ะ

เรียนเภสัชเพิ่มอีก 1 ปี จะทำให้เภสัชกรทำงานได้ดีขึ้นจริงเหรอ?

คนเราโดยส่วนใหญ่มักเชื่อถือในคำพูดของบุคคลที่เชื่อกันว่า คือผู้เชี่ยวชาญดังจะเห็นได้จากการโฆษณา ยาสีฟัน ที่มักมีภาพของคนที่มีหน้าตาน่าเชื่อถือแต่งกายคล้ายผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และบอกแก่ผู้ชมว่า คนๆนี้ คือผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม และมาทำการสาธิตข้อดี หรือ อาจจะมาพูดในทำนองที่ว่า สินค้าตัวนี้ดีกว่าของคู่แข่งอย่างไร โดยที่เราเองก็เผลอเชื่อว่าสินค้าตัวนั้นดีจริงๆ ก็ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกอย่างนั้นนี่นา อาจเป็นเพราะเราเองเชื่อว่าสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญพูดนั้นเป็นความจริง และเชื่อว่า ผู้เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญเรื่องนั้นจริงๆโดยลืมฉุกคิดว่า คนที่กล่าวอ้างนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงหรือเปล่า หรือต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงข้อมูล ที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวอ้างนั้นได้มาอย่างไร เป็นข้อมูลที่ได้จากการศึกษาที่เป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่หรือได้จากการคาดเดา ว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น หรือเพราะการได้ผลประโยชน์จากเจ้าของผลิตภัณฑ์

วิชาชีพเภสัชกรรม กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงจากการบังคับให้เภสัชกรต้องเรียน 6 ปี โดยการผลักดันจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อความคิดในแวดวงวิชาชีพ ว่า การเปลี่ยนหลักสูตรให้เรียน 6 ปี จะทำให้การทำงานเภสัชกรรมดีขึ้น โดยยกเหตุผลมากมายสนับสนุน แต่ก็ได้รับการทักท้วงจากอีกกลุ่มที่เห็นว่าการบังคับให้เรียน 6 ปีนั้นอาจมีผลเสียต่อสังคมโดยรวม วิชาชีพ และตัวเภสัชกร มากกว่าผลดีที่จะได้รับ และเสนอทางเลือกอื่นๆ เช่น การแยกใบประกอบวิชาชีพ หรือให้มีการเรียน 6 ปี และ 5 ปี หรือการปรับให้เรียน 5 ปีทั้งหมด และให้การบริบาลเภสัชกรรม เป็นทางเลือกสำหรับการศึกษาต่อเนื่องเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะบุคคล แต่สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญก็ยังยืนยันว่า การเรียนเภสัชกรรม 6 ปี ดีกว่า 5 ปีแน่นอน แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามันดีกว่าตรงไหนในเมื่อ

1 งานของเภสัชกรมีมากมายหลายด้านแต่การศึกษาเภสัชศาสตร์จะเน้นที่การบริบาลเภสัชกรรมด้านเดียว อีกไม่นาน งานที่เคยเป็นของเภสัชกรก็จะถูกแทนที่ด้วยนักศึกษาจากสาขาอื่น ถ้าตำแหน่งงานในโรงพยาบาลเต็ม เภสัชกรจบใหม่จะไปทำงานที่ไหน การจะกลับไปทวงงานที่เคยทำมันจะทำได้ไหม ในเมื่อนายจ้างสามารถจ้างคนอื่นมาทำงานแทนเภสัชกรได้ในราคาที่ถูกกว่า

2 แหล่งฝึกงานที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับการศึกษาด้านการบริบาลเภสัชกรรมรองรับนักศึกษาได้มากแค่ไหนกัน แน่ใจได้อย่างไรว่า นักศึกษาเภสัชศาสตร์ ปีละประมาณ 1,200 คนที่จบมาใหม่จากหลักสูตร 6 ปี จะมีคุณภาพดีกว่า หลักสูตร 5 ปี แบบที่เคยใช้มาอย่างยาวนาน ทำไมไม่ปล่อยให้เอาเวลา 1 ปีที่ต้องเรียนในสถานศึกษา ไปเริ่มต้นทำงานในที่ทำงานของตัวเอง ไปปรับปรุงอะไรๆให้ดีขึ้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานให้เกิดความเชี่ยวชาญในงานของตน โดยที่ระหว่างนั้นก็มีรายได้เลี้ยงตัวเอง และครอบครัว

3 สืบเนื่องจากข้อที่ 2 ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คนอายุ 23 ปี 2 คน คนหนึ่งเป็นเภสัชกรจบใหม่ 5 ปี รายได้เดือนละประมาณ 17,000 บาท อีกคนเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ปี 6 ฝึกงาน ค่าใช้จ่าย ส่วนตัว เดือนละ 5,000 บาทค่าลงทะเบียนเรียน ปีละ 30,000 บาท สมมติที่พักฟรีในโรงพยาบาล ไม่เสียตังค์ คิดว่า 2 คนนี้ใครมีความสุขกว่ากัน และจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจากการเป็นเภสัชกร 6 ปี นั้น ต้องใช้เวลากี่ปีจึงจะชดเชยค่าเสียโอกาสตรงนี้ ถ้าคุณเป็นผู้ปกครองที่มีลูกกำลังเรียน เภสัชศาสตร์ อายุเท่ากันกับบุคคลสมมติข้างต้น [b]คุณอยากให้ลูกอยู่ในสถานภาพใด[/b]

4 ถ้าเภสัชกรต้องทำงานในร้านยา มีอะไรรับประกันว่า เภสัชกรที่เรียน 6 ปีจะได้เปรียบกว่าเภสัชกรที่เรียน 5 ปี ในเมื่อสภาพความเป็นจริงทุกวันนี้ ร้านยาที่มีเภสัชกรประจำยังแทบจะเอาตัวไม่รอดจากกลยุทธ์ทางการตลาดสารพัดที่พ่อค้าซึ่งไม่ต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ การบริบาลเภสัชกรรมในร้านยาโดยเภสัชกร 6 ปี ให้ประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่าเมื่อเทียบกับเภสัชกร 5 ปีจริงหรือไม่ และร้านยาที่มีเภสัชกร 6 ปี มีโอกาสอยู่รอดมากกว่าร้านยาที่มีเภสัชกร 5 ปี ในทางตรงข้าม ถ้าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการศึกษาเภสัชศาสตร์ต่อปี อยู่ที่คนละ 100,000 - 250,000 (ขึ้นกับหลักสูตร และค่าครองชีพในแต่ละมหาวิทยาลัย) เภสัชกรที่เรียนหลักสูตร 5 ปีจะสามารถนำเงินที่ประหยัดได้ตรงนี้เป็นทุนในการเปิดร้านยาได้เปรียบกว่าเภสัชกรที่เรียน 6 ปีชัดเจน ซึ่งสภาพเช่นนี้ ถ้าเภสัชกรจบใหม่หลักสูตร 5 ปี กับ 6 ปี 2 คนเปิดร้านในทำเลเดียวกัน ร้านยามีขนาดใกล้เคียงกัน และความสามารถในการบริหารธุรกิจใกล้เคียงกัน คิดว่านักศึกษาเภสัชศสตร์อยากอยู่ในสภาพใด

5 ว่ากันว่า การเรียน 6 ปีจะทำให้เกียรติศักดิ์ของวิชาชีพเทียบเท่าแพทย์ ทันตแพทย์ แล้วถ้ามองในสายตาเป็นธรรม มันเป็นเรื่องจริงแน่เหรอ ในเมื่อความรู้สึกภาคภูมิในในตัวเอง ในงานที่ตัวเองทำ หรือคุณค่าของวิชาชีพ เป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนบุคคล คนเราจะไม่มีวันรู้สึกต่ำต้อย ถ้าไม่คิดว่าตัวเองต่ำต้อย ถ้าตรรกะที่ว่า ระยะเวลาการเรียนเท่าแพทย์ หรือทันตแพทย์จะทำให้การยอมรับ เกียรติศักดิ์ของวิชาชีพ หรือแม้กระทั่งรายได้เทียบเท่าวิชาชีพดังกล่าว ถ้าเช่นนั้น การเรียน เภสัชศาสตร์ 7 ปีจะทำให้เภสัชกรได้รับการยอมรับมากกว่าแพทย์ ทันตแพทย์จริงเหรอ

6 สืบเนื่องจากข้อ 5 บางที การที่มีนักศึกษา หรือเภสัชกรส่วนหนึ่งรู้สึกว่าเภสัชเรียนน้อยกว่าแพทย์และทันตแพทย์เลยมีเกียรติน้อยกว่าจนรู้สึกเป็นปมด้อยนั้น ความจริงคนที่คิดเช่นนั้นอาจเป็นเพราะเคยพลาดหวังจากการสอบเข้าเรียนในคณะดังกล่าวจนรู้สึกฝังใจว่า ตัวเองดีไม่พอ จึงเข้าเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ที่มีคะแนนน้อยลงมา พาลทำให้คิดว่า เภสัชกรมีคุณค่าน้อยกว่า 2 วิชาชีพข้างต้น และคิดต่อไปว่า บางทีการเรียนเท่ากับ 2 วิชาชีพนั้นจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นมาได้ โดยลืมมองสภาพความจำเป็นของการทำงานของเภสัชกรว่า จำเป็นต้องเรียน 6 ปีจริงหรือไม่ หากสมมติฐานข้อนี้เป็นจริง ผมก็อยากเชิญชวนเภสัชกรรุ่นพี่ และนักศึกษาเภสัชศาสตร์ทุกคนให้กลับมานับถือคุณค่าของตัวเอง คุณค่าของงานที่ทำและมีความสุขกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันมากกว่าที่จะมามัวน้อยใจและโทษบทบาทการทำงานของวิชาชีพ และหันมาเอาใจใส่ผู้ป่วยดุจญาติมิตร แล้วจะเกิดความสุขใจตามมาเอง อย่างน้อยๆ เภสัชกร ก็มีชีวิตที่มีความสุข ไม่ต้องถูกตามตัวไปหอผู้ป่วยตอนดึกๆ ไม่ต้องกดดันกับการช่วยชีวิตผู้ป่วย และไม่ต้องเจอกับความหดหู่เวลาที่คนไข้เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา หรือการต้องทำงานช่องปากวันแล้ววันเล่า ซึ่งความเสียสละส่วนนี้ของเพื่อนต่างวิชาชีพ โดยส่วนตัวผมยินดีให้พวกเขาเหล่านั้น มีเกียรติมากกว่า และมีรายได้มากกว่า จากประสบการณ์ที่แม้จะยังห่างชั้นกับระดับผู้เชี่ยวชาญอีกเยอะ แต่ผมเชื่อว่า แม้เภสัชกรจะเรียน 5 ปีแต่เกียรติศักดิ์ และการยอมรับนับถือจากสังคมไม่ได้ต่างจากแพทย์และทันตแพทย์เลยสักนิด และเชื่อว่า 2 วิชาชีพนั้น ก็คงไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเภสัชกรอย่างที่คิดกันไปเอง เพราะทุกวิชาชีพต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อสุขภาพของประชาชน และพระบิดาแห่งวงการแพทย์ก็ไม่ได้สอนให้ บุคลากรทางการแพทย์ดูถูกซึ่งกันและกัน ดังนั้นแทนที่จะเอาเวลามารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ก็ควรเอาเวลามาสร้างสรรค์งานที่ทำ ดูแลเอาใจใส่ลูกน้อง สร้างระบบการให้บริการทางเภสัชกรรมที่ดีแก่ผู้ป่วย หรือทำให้งานของตัวเองมีคุณค่า เดี๋ยวความสุขทางใจก็ตามมาเอง ไม่เห็นจะต้องบังคับให้เภสัชกรต้องเรียนเพิ่มอีก 1 ปี เพราะสิ่งที่สร้างขึ้นจากความรู้สึกภายในใจนั้น หลักสูตรใดๆก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้จนกว่า คนๆนั้นจะเปลี่ยนเอง

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวคิดที่ทำให้เกิดข้อสงสัยที่ว่า เรียนเภสัชเพิ่มอีก 1 ปี จะทำให้เภสัชกรทำงานได้ดีขึ้นจริงเหรอ? เพราะสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญบอกเราว่า เปลี่ยนแล้วดีแน่ๆนั้น หลายเรื่องยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องจริง ในขณะที่ผลกระทบอันเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นก็มีความเป็นไปได้พอๆกัน ปกติผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีนะครับ แต่บังเอิญว่า สภาพสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ค่าใช้จ่าย 1 ปีที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ และยิ่ง ในอนาคต อีก 5 ปี เงินเฟ้อในอัตรา ปีละ 7 - 8 เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่ารุ่นน้องที่ขึ้นปี 6 ในตอนนั้นต้องลงทุนกับการศึกษาคนละเท่าไหร่ต่อปี สงสารน้องรุ่นหลังๆและผู้ปกครองครับ แทนที่จะเรียนจบพร้อมอนาคตที่สดใส กลับกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่อยู่บนบ่าแทน ความคิดพื้นฐานง่ายๆนี้ ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็มองออกครับ มีวิธีอื่นอีกเยอะแยะครับ ในการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของเภสัชกร ถ้าเภสัชกรช่วยกันคิดเดี๋ยวก็คิดออกเองครับ

ด้วยความเชื่อมั่นในเหล่าเม็ดทราย ที่กร่นกรายมีหลายหลากทั้งนาคร ที่จะร่วมกันเป็นพลังสร้างเกียรติกำจร แล้วเภสัชกรจะไว้ชื่อชั่วดินฟ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:10

หายกันไปเลยนะครับ พี่พี่ น้องน้องเภสัชกร
ที่มหิดลได้ข่าวค่อนข้างดีมากๆ เลยครับ ทาง อธิการบดี ได้มีจดหมายจากกองกฎหมาย สำนักงานอธิการบดี ถึงนายกสภาเภสัชกรรม เรื่องการรับรองปริญญาทางเภสัชศาสตร์เฉพาะหลักสูตร 6 ปี ลว. 25 กค. 51
ตอนท้ายจดหมาย ให้ทางสภาเภสัชกรรมพิจารณาทบทวน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:21

เนื้อหาจดหมายมีว่า
ตามที่ สภาเภสัชกรรมได้ออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรม ว่าด้วยการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตรในวิชาเภสัชศาตร์ หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพเภสัชกรรมของสถาบันต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการสมัครสมาชิก พ.ศ. 2551 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา 3 เมย. 51 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวได้กำหนดความหมายของหลักสูตร 6 ปี และเนื้อหาตามข้อ 11 ที่ระบุว่า หลักสูตรที่สถาบันการศึกษาเสนอเพื่อขอรับความเห็นชอบ เมื่อข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ.... ต้องมีมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ของหลักสูตร 6 ปี

มหาวิทยาลัยมหิดล พิจารณาแล้วขอเรียนว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:34

1. พรบ. วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 กำหนดอำนาจหน้าที่สภาเภสัชกรรมไว้ใน ม. 9(3) ว่า รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรในวิชาเภสัชศาตร์ หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพเภสัชกรรมของสถาบันต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก และ ม. 9(4) ว่า รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการในสาขาต่างๆ ของวิชาชีพเภสัชกรรา ของสถาบันที่ทำการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการ ในสาขาต่างๆ ของวิชาชีพเภสัชกรรม นัยตาม ม. 9(3) เป็นการรับรองปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร และนัยตาม ม. 9(4) เป็นการรับรองหลักสูตรภายหลังระดับ ป. ตรี
ดังนั้นการออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมตามข้อ 11 จึงเป็นการออกข้อบังคับเกินกว่าอำนาจกฎหมายกำหนด และขัดต่อวัตถุประสงค์ของสภาเภสัชกรรม ตาม ม. 8 แห่ง พรบ. วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:44

2. กระบวนการพิจารณาหลักสูตร เป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัย แล้วจึงเสนอ สกอ. เพื่อรับรองหลักสูตร แต่ข้อบังคับฯ ดังกล่าว กำหนดให้หลักสูตรต้องผ่านความเห็นชอบของสภาเภสัชกรรม และต้องเป็นหลักสูต 6 ปีเท่านั้น โดยกำหนดว่าหลักสูตร 6 ปี หมายความว่า หลักสูตรเภสัชศาสตร์ ที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของหลักสูตรที่มีจำนวนหน่วยกิจที่ใช้ระยะเวลาศึกษาเทียบเท่า 6 ปี ตามที่ สกอ. กำหนด และตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ รวมทั้งประกาศที่เกี่ยวข้อง
ตามนัยดังกล่าว หลักสูตรเภสัชศาสตร์น่าจะให้ความสำคัญกับเนื้อหาวิชาความรู้และจำนวนหน่วยกิจที่ศึกษา มากกว่าระยะเวลาการศึกษาที่กำหนด 6 ปี ประกอบกับสภาเภสัชกรรมมิได้แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานหรือคุณภาพของบัณฑิตหลักสูตร 6 ปี ดีกว่าหลักสูตร 5 ปี อย่างไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:49

3. การออกข้อบังคับดังกล่าว มิได้มีการสอบถาม หรือรับฟังความคิดเห็นจากสถาบันการศึกษา ประชาชน หรือบุคคลในวิชาชีพเภสัชกรรม ที่จะได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการศึกษาเพิ่มมากขึ้น เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และ พรบ. วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 ใน ม. 13(2) เรื่องสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย Mooma » 02 ก.ย. 2008, 13:52

นั้นเป็นอะไรที่อยากเล่าสู่กันฟังนะครับ
อย่างไรก็ตาม ผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 3 ประการ อันแรก พิมพ์ค่อนข้างช้า 2. พิมพ์ผิดบ่อย และ 3. พิมพ์ยาวๆ ไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooma
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2008, 19:28

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย zartingtong » 02 ก.ย. 2008, 14:40

ถ้าเป็นผม ผมลาออกไปนานแล้ว และให้เลือกตั้งใหม่เพื่อตัดสินว่าที่ทำไปถูกหรือเปล่า ดีกว่าให้เภสัชกรมากกว่าครึ่งมานั่งด่าเสีย...มั๊ย แล้วมานั่งบอกว่าตัวเองทำถูกอยู่คนเดียว เสียความสามัคคีอายวิชาชีพอื่นเพราะนั่นมาจากสำนักงานอธิการแปลว่าวิชาชีพอื่นเค้ารับรู้กันทั่วไป
:redface: :redface: :redface:
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 02 ก.ย. 2008, 21:44

ขอบคุณมากค่ะที่แจ้งข่าวเรื่องหนังสือที่ออกจากมหิดล H42

เรื่อง ลาออก นั้น มีกรณีเปรียบเทียบได้กับเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่นายสมัครดื้อด้าน อ้างแต่ว่าตัวเองได้รับการเลือกตั้งมา เพราะท่านนายกสภาเภสัชกรรมที่รักของเราก็อ้างแบบนี้เหมือนกัน ทั้งๆที่ก็พูดด้วยว่า วิชาชีพไม่ใช้ของผมคนเดียว เฮ้อ...เศร้า
H50
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document