ทำไม ทำไม ทำไม สภาเภสัชฯ ถึงไม่กำจัดปัญหาเภสัชแขวนป้าย ให้ความกระจ่างหน่อย>>>>>

[naproxen]

--------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอเพื่อการพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรมของ naproxen 

1.สภาเภสัชกรรมดำเนินการเกี่ยวกับความผิดกรณีเภสัชกรแขวนป้ายร้านยาอย่างเด็ดขาด  ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน

2.ลดจำนวนการผลิตนักเรียนเภสัชกร(ภาคสมทบ)

3.ส่งเสริมบทบาทการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข โดยเภสัชกรทุกภาคส่วน มี อย. สภาเภสัช กลุ่มงานคุ้มครองของแต่ละจังหวัดเป็นแกนนำ

4.จัดทำทะเบียนทำเนียบเภสัชกรไทย ที่มีข้อมูลสถานที่ทำงาน ที่พัก โดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน
(อย่างน้อยเลือกตั้งคราวหน้า เภสัชกรทุกท่านจะได้ไม่เสียสิทธิการเลือกตั้ง)

5.พัฒนาคุณภาพร้านยาอย่างแท้จริง โครงการร้านยาคุณภาพ ขอให้เป็นร้านยาคุณภาพอย่างแท้จริง ไม่ต้องเน้นปริมาณก็ได้
ผู้ที่มาประเมินก็ควรมีประสบการณ์เกี่ยวกับร้านยา มิใช่นักวิชาการที่ไม่เคยทำร้านยาหรือเปิดร้านยาแล้วก็เจ๊งมาก่อน

6.พัฒนาระบบinformation และการสื่อสารระหว่างสภาเภสัชกับสมาชิก  ให้เข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพ

7.พัฒนาระบบเภสัชสนเทศ สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและเป็นมืออาชีพ อาจเป็น web site หรือทางโทรศัพท์ โดยเป็นศูนย์รวมของเภสัชกรไทย (ที่เดียวก็พอ แต่ขอให้เป็นมืออาชีพ)

[kohboy]

วันนี้เป็นวันหนึ่ง ที่ตื่นเช้ามาแล้วเข้ามาคาเฟ่แล้วได้อ่านบทความที่"โดนใจ" จากซือแป๋แห่งอันดามัน
(ที่พูดถึงแนวคิด และแนวทางของร้านตัวเอง)

ขอบคุณครับ,เซี่ยๆหนี่
"ขอพลังจงสถิตกับท่านตลอดไป นะครับ"

[sting19]

คุณnaproxen ทัศนคติสุดยอดครับ
เมื่อก่อนผมไปเรียนที่ภูเก็ตด้วยนะ ป 5 ป 6 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ม1  ม 2 ที่ภูเก็ตวิทยาลัย
ก่อนที่จะอพยพมาเรียนต่อภาคเหนือ
ขอให้คุณnaproxen ประสบความสำเร็จดังที่ต้องการ
และผมเชื่อว่าคุณnaproxenสามารถทำได้ทุกอย่าง

[mmm]

ขอน้อมคาราวะท่าน Naproxen กี่จอกก็ได้

[asinus]

มาคืนชีพกระทู้ครับ

จริงๆ เรื่อง "เภสัชกรแขวนป้าาย" นี่มันน่าจะจัดการให้หมดๆ ไป
บทลงโทษ >>> เป็นสิทธิที่สภาฯ สามารถกระทำได้โดยชอบธรรม นั่นก็คือบทบาทและหน้าที่ของสภาฯ โดยตรงอยู่แล้ว

การมีบทลงโทษที่ชัดเจน รุนแรงพอที่จะทำให้คนที่ทำผิดขยาด และเกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมาย
(ที่ต้องอาศัยตรงนี้เนื่องมาจากว่า "หิริ โอตตัปปะ" คงไม่ได้อยู่ในใจของเค้าเหล่านั้นเท่าใดนัก .... ก็สภาพสังคมปัจจุบันเงินมันล่อตาล่อใจนี่เนอะ)

ยิ่งเรื่องจรรยาบรรณแล้วล่ะก็ การเอาเรื่องนี้มาพูดกับคนเหล่านี้คงไม่ค่อยมีผลหรอกมั้งครับ

ฝากด้วยนะครับคุณๆ กรรมการสภาฯ (ที่จับต้องไม่ได้)

[rinko]

ในซอยเดียวกะที่ร้านตั้งอยู่มีร้านยาอีก 4 ร้านค่ะ ไม่รวมร้านตัวเอง ทุกร้าน ไม่มีเภสัชกรอยู่เลยค่ะ เคยมีคนไข้เข้ารพ.เพราะกิน CPM 1 กระปุก ในวันเดียว ซื้อจาก 1 ใน 4 ร้านนี้ คนไข้พูดไม่ได้ ลูกชายจึงมาหาที่ร้าน และพยายามโวยวายว่าซื้อที่ร้าน บังเอิญร้านติด sticker สีตามปีที่หมดอายุ แต่ขวดที่เขาถือมา มีแต่ sticker ราคา ซึ่งที่ร้านไม่มี จึงอธิบายให้เขาฟัง และบอกเขาว่า ถ้าคุณแม่ซื้อในเวลาที่ไม่ใช่เวลาปฏิบัติการของเภสัชกร สามารถแจ้งอย.ได้เลยค่ะ เพราะ CPM เป็นยาอันตราย ต้องจ่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น หากอยากให้เราช่วยแจ้ง อย. ให้ ก็ได้ค่ะ เขากลับตอบว่า ไม่เป็นไร ยังไงแม่ก็เข้ารพ.ไปแล้ว แล้วก็ออกไปด้วยท่าทีโมโห+หน้าแตก ไอ้เราก็โมโหค่ะ แต่ไม่ได้โมโหลูกชายเขานะ โมโหร้านที่จ่ายมากกว่า หลังจากนั้นจึงแจ้งอย.เองค่ะ เมื่อ อย. มาตรวจ เขากลับบอกเราว่า ไม่ต้องแจ้งหรอก เภสัชกรไม่อยู่ร้านเป็นเรื่องปกติ เราร้านใหญ่ อย่าไปกลั่นแกล้งพวกร้านเล็กๆ ไอ้เราก็ อ้าว แปลว่าฉันผิดปกติ อึ้งอย่างเดียว ไม่ได้เถียง ตั้งตัวไม่ทัน เฮ้อ ถ้ามีมาตรฐานการตรวจร้านอย่างนี้ อย่ามีเลยดีกว่า

หลังจากนั้นก็เลยมีกระบวนการทำกันเองในร้าน เพื่อพยายามจะเป็นคนหนึ่งที่ทำให้การแขวนป้ายลดลง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรแต่ทำไปบ้างแล้วค่ะ ได้แก่

1. ออกใบปลิว เพื่อให้คนไข้สังเกตด้วยตนเอง ว่าร้านยาไหนมีเภสัชกรจริงบ้าง ซึ่งก็เป็นขั้นตอนง่ายๆค่ะ เช่น ให้สังเกตใบประกอบ คำนำหน้าชื่อเภสัชกรว่าเป็นเพศไหน ความสามารถในการซักประวัติการใช้ยา etc. ซึ่งคนไข้ก็ชอบหยิบใบปลิวนี้ไปอ่านกันเองค่ะ แจกเองด้วยบ้าง ก็หวังว่าคนไข้จะเข้าใจเภสัชกรมากขึ้น โดยในใบปลิวจะมีเบอร์โทรศัพท์เพื่อร้องเรียนอย.ด้วยค่ะ

2. จัดทำป้ายคำประกาศสิทธิผู้ป่วยให้เห็นชัดๆ และมีรายละเอียด คนไข้ที่ร้านชอบอ่านค่ะ แล้วเขาจะบอกเองว่ามีด้วยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย

3. จัดทำป้ายแสดงความเป็นเภสัชกร เช่น คุณจะเลือกให้ใครดูแลสุขภาพของคุณ พ่อแม่เภสัชกร ญาติเภสัชกร หรือเภสัชกร อะไรทำนองนี้ค่ะ ทำไว้หลายๆอัน ลูกค้าก็ชอบอ่านค่ะ

4. ทำแผ่นพับเกี่ยวกับโรคต่างๆ คนไข้ก็ชอบค่ะ เขาก็จะปรึกษาเราเรื่องแผ่นพับเหล่านั้นเอง

จริงๆแล้ว ทำๆไปก็สนุกค่ะ พอคนไข้อ่านเราก็ดีใจ คนไข้หยิบก็ดีใจ แต่ถ้าอันไหนทำออกมาแล้วคนไข้ไม่สนใจก็จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เวลาที่เราอยู่ร้านจริงๆมีเวลาเหลือเยอะนะคะ รอ อย. หรือสภามาตรวจมันคงไม่ทันค่ะ เราคงต้องเป็นฝ่ายรุกกันเองด้วย ลืมบอกไปว่า ที่ร้านยังไม่ใช่ร้านยาคุณภาพค่ะ แต่ก็เอามาตรฐานส่วนหนึ่งมาใช้ เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนไข้ และภาพลักษณ์ของร้านด้วยค่ะ

ที่ร้านเอง เวลามีคนไข้มาบ่นเรื่องยาชุด กินยาไม่หาย คนขายไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็จะสอบถามรายละเอียด บางเรื่องก็ร้องเรียนเองค่ะ เพราะทนไม่ได้จริงๆ บางทีก็ขอตัวอย่างยาชุดไว้เลยค่ะ ไม่รู้จะมีโอกาสได้ร้องเรียนไหม แต่ก็ขอตัวอย่างยาไว้ก่อนเลย

เรื่องแขวนป้ายเป็นปัญหาใหญ่ค่ะ แต่ในฐานะที่เราเป็นเภสัชกร และอยู่ร้านจริงทั้งวัน ปัญหานี้จะกลายเป็นประโยชน์กับเราได้ค่ะ ช่วยกันคิด หากิจกรรมสร้างสรรค์ที่ทำให้คนไข้รู้สึกดีดีกับเภสัชกร และร้านของเรา แล้วทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอค่ะ ที่ร้านเปิดมาเกือบปี คนไข้ก็ยังมีขอยาชุด เอาตัวอย่างยามา จะเอาอย่างที่เคยกิน ต่อราคา ซึ่งปัญหาเหล่านี้คงไม่หายไปหรอกค่ะ เพียงแต่เราต้องตั้งรับ และหัดรุกซะบ้าง อย่ารอแค่นโยบายที่ไม่รู้เมื่อไรจะได้เห็นว่าเป็นธรรมกับตัวเราเอง เพราะถ้ามัวแต่รอ ไฟแห่งความฝันว่าเภสัชกรจะมีเครดิตอะไรต่อมิอะไรดีขึ้น ก็คงดับไป

มองโลกในแง่ดีไว้ค่ะ ปัญหาทุกอย่างคือโอกาสสำหรับเรา

[asinus]

ในซอยเดียวกะที่ร้านตั้งอยู่มีร้านยาอีก 4 ร้านค่ะ ไม่รวมร้านตัวเอง ทุกร้าน ไม่มีเภสัชกรอยู่เลยค่ะ เคยมีคนไข้เข้ารพ.เพราะกิน CPM 1 กระปุก ในวันเดียว ซื้อจาก 1 ใน 4 ร้านนี้ คนไข้พูดไม่ได้ ลูกชายจึงมาหาที่ร้าน และพยายามโวยวายว่าซื้อที่ร้าน บังเอิญร้านติด sticker สีตามปีที่หมดอายุ แต่ขวดที่เขาถือมา มีแต่ sticker ราคา ซึ่งที่ร้านไม่มี จึงอธิบายให้เขาฟัง และบอกเขาว่า ถ้าคุณแม่ซื้อในเวลาที่ไม่ใช่เวลาปฏิบัติการของเภสัชกร สามารถแจ้งอย.ได้เลยค่ะ เพราะ CPM เป็นยาอันตราย ต้องจ่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น หากอยากให้เราช่วยแจ้ง อย. ให้ ก็ได้ค่ะ เขากลับตอบว่า ไม่เป็นไร ยังไงแม่ก็เข้ารพ.ไปแล้ว แล้วก็ออกไปด้วยท่าทีโมโห+หน้าแตก ไอ้เราก็โมโหค่ะ แต่ไม่ได้โมโหลูกชายเขานะ โมโหร้านที่จ่ายมากกว่า หลังจากนั้นจึงแจ้งอย.เองค่ะ เมื่อ อย. มาตรวจ เขากลับบอกเราว่า ไม่ต้องแจ้งหรอก เภสัชกรไม่อยู่ร้านเป็นเรื่องปกติ เราร้านใหญ่ อย่าไปกลั่นแกล้งพวกร้านเล็กๆ ไอ้เราก็ อ้าว แปลว่าฉันผิดปกติ อึ้งอย่างเดียว ไม่ได้เถียง ตั้งตัวไม่ทัน เฮ้อ ถ้ามีมาตรฐานการตรวจร้านอย่างนี้ อย่ามีเลยดีกว่า

หลังจากนั้นก็เลยมีกระบวนการทำกันเองในร้าน เพื่อพยายามจะเป็นคนหนึ่งที่ทำให้การแขวนป้ายลดลง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรแต่ทำไปบ้างแล้วค่ะ ได้แก่

1. ออกใบปลิว เพื่อให้คนไข้สังเกตด้วยตนเอง ว่าร้านยาไหนมีเภสัชกรจริงบ้าง ซึ่งก็เป็นขั้นตอนง่ายๆค่ะ เช่น ให้สังเกตใบประกอบ คำนำหน้าชื่อเภสัชกรว่าเป็นเพศไหน ความสามารถในการซักประวัติการใช้ยา etc. ซึ่งคนไข้ก็ชอบหยิบใบปลิวนี้ไปอ่านกันเองค่ะ แจกเองด้วยบ้าง ก็หวังว่าคนไข้จะเข้าใจเภสัชกรมากขึ้น โดยในใบปลิวจะมีเบอร์โทรศัพท์เพื่อร้องเรียนอย.ด้วยค่ะ

2. จัดทำป้ายคำประกาศสิทธิผู้ป่วยให้เห็นชัดๆ และมีรายละเอียด คนไข้ที่ร้านชอบอ่านค่ะ แล้วเขาจะบอกเองว่ามีด้วยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย

3. จัดทำป้ายแสดงความเป็นเภสัชกร เช่น คุณจะเลือกให้ใครดูแลสุขภาพของคุณ พ่อแม่เภสัชกร ญาติเภสัชกร หรือเภสัชกร อะไรทำนองนี้ค่ะ ทำไว้หลายๆอัน ลูกค้าก็ชอบอ่านค่ะ

4. ทำแผ่นพับเกี่ยวกับโรคต่างๆ คนไข้ก็ชอบค่ะ เขาก็จะปรึกษาเราเรื่องแผ่นพับเหล่านั้นเอง

จริงๆแล้ว ทำๆไปก็สนุกค่ะ พอคนไข้อ่านเราก็ดีใจ คนไข้หยิบก็ดีใจ แต่ถ้าอันไหนทำออกมาแล้วคนไข้ไม่สนใจก็จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เวลาที่เราอยู่ร้านจริงๆมีเวลาเหลือเยอะนะคะ รอ อย. หรือสภามาตรวจมันคงไม่ทันค่ะ เราคงต้องเป็นฝ่ายรุกกันเองด้วย ลืมบอกไปว่า ที่ร้านยังไม่ใช่ร้านยาคุณภาพค่ะ แต่ก็เอามาตรฐานส่วนหนึ่งมาใช้ เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนไข้ และภาพลักษณ์ของร้านด้วยค่ะ

ที่ร้านเอง เวลามีคนไข้มาบ่นเรื่องยาชุด กินยาไม่หาย คนขายไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็จะสอบถามรายละเอียด บางเรื่องก็ร้องเรียนเองค่ะ เพราะทนไม่ได้จริงๆ บางทีก็ขอตัวอย่างยาชุดไว้เลยค่ะ ไม่รู้จะมีโอกาสได้ร้องเรียนไหม แต่ก็ขอตัวอย่างยาไว้ก่อนเลย

เรื่องแขวนป้ายเป็นปัญหาใหญ่ค่ะ แต่ในฐานะที่เราเป็นเภสัชกร และอยู่ร้านจริงทั้งวัน ปัญหานี้จะกลายเป็นประโยชน์กับเราได้ค่ะ ช่วยกันคิด หากิจกรรมสร้างสรรค์ที่ทำให้คนไข้รู้สึกดีดีกับเภสัชกร และร้านของเรา แล้วทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอค่ะ ที่ร้านเปิดมาเกือบปี คนไข้ก็ยังมีขอยาชุด เอาตัวอย่างยามา จะเอาอย่างที่เคยกิน ต่อราคา ซึ่งปัญหาเหล่านี้คงไม่หายไปหรอกค่ะ เพียงแต่เราต้องตั้งรับ และหัดรุกซะบ้าง อย่ารอแค่นโยบายที่ไม่รู้เมื่อไรจะได้เห็นว่าเป็นธรรมกับตัวเราเอง เพราะถ้ามัวแต่รอ ไฟแห่งความฝันว่าเภสัชกรจะมีเครดิตอะไรต่อมิอะไรดีขึ้น ก็คงดับไป

มองโลกในแง่ดีไว้ค่ะ ปัญหาทุกอย่างคือโอกาสสำหรับเรา

น่ารักมากๆ เลยครับพี่

ร้านพี่อยู่ตรงไหนครับเนี่ย อยากไปเยี่ยมเยียน + พูดคุยเป็นการส่วนตัวจังเลยครับ
แบบว่า "ประทับใจ ... ย้างแรง!!!" ^_^

[asinus]

แขวนป้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


ขอคำชี้แจงคำว่า "แขวนป้าย" หน่อยเถอะครับ

ผมอยากทราบจริงๆ ครับว่า

การ "แขวนป้าย" อย่างถูกจรรยาบรรณวิชาชีพ และที่ผิดจรรยาบรรณนั้น

มันต่างกันอย่างไร

เช่น ถ้าป้ายเราบอกว่า "นาย/นาง/น.ส. ........ ภ.บ./ภ.ม. ปฏิบัติงาน 17.00 - 21.00 น. "

แล้ว 1. เราเข้าปฏิบัติงานตามเวลาที่ระบุ
      2. เราไม่เข้าปฏิบัติงานเลย
      3. เราเข้าปฏิบัติงานตามเวลาที่ระบุ แต่ร้านยาแห่งนั้นเปิดทำการทั้งวัน และทำการขายยาทุกประเภททังวัน โดยไม่มีเภสัชกรประจำร้านเลยนอกช่วงเวลาดังกล่าว
      4. ร้านยาจ้างเภสัชกรคนอื่นที่ไม่ใช่ตามที่ระบุตามป้าย มาปฏิบัติงานแทน ในช่วงเวลาดังกล่าว
      5. ร้านยาจ้างเภสัชกรคนอื่นที่ไม่ใช่ตามที่ระบุตามป้าย มาปฏิบัติงานแทน นอกช่วงเวลาดังกล่าว

แล้วอย่างไรคือสิ่งที่ ถูกต้องตามจรรยาบรรณวิชาชีพครับ

เพราะทั้ง 5 ข้อนั้นคือที่เราเห็นๆ กันอยู่มากมาย

อันนี้อยากทราบจริงๆ ครับ

[wannee]

ที่จริงแล้ว ตามกฎหมาย ต้องมีเภสัชกรตลอดเวลาที่เปิดทำการ ไม่ใช่มีเภสัชกรตลอดเวลาที่ระบุ
ทีนี้ก็คงต้องมาคิดว่า ถ้าระบุเวลาไว้แค่ช่วงหนึ่ง แต่มีการเปิดนอกช่วงนั้นด้วย จะว่าอย่างไรด้วย

สำหรับคำถามของน้อง
รอคนที่ชัดๆมาตอบละกันนิ

[asinus]

ขอบคุณครับอาจารย์

[phinate]

เภสัชชอบมาบ่นเรื่องศักดิของตัวเองกันทำไม่ผมไม่เหงหมอแขวนป้ายอ่ะครับ เลิกแขวนป้ายไม่เกี่ยวกับจรรยาบันอะไรทั้งนั้นหละครับ ถ้าไม่เลิกแขวนคุณคงไม่ใช่เภสัช ก็อย่างว่าแหละครับการเรียนส่วนใหญ่ชอบเน้นเงินพออาจารยืพุดถึงเรื่องเงินก็หูบานอ้างไม่มีกินมีเงินน้อยอาชีพอื่นเค้าไม่เหงมีปัญหาแล้วก้มาอ้างอยากมี พรบยาใหม่ อันเก่ายังบังคับใช้ไม่ได้เลยผมว่าก็ปิดไปให้หมดเลยที่ไม่มีเภสัชประจำแล้วก้ไม่ต้องให้ค่าใบประกอบวิชาชีพไปเลยดีกว่า 5000 มาซื้อวิชาชีพไม่คุ้มนะครับแล้วใครแขวนยืดตลอดชีวิตไปเลยดีกว่า คุณเชื่อมะทุกวันนี้ผมไม่ได้ค่าใบประกอบวิชาชีพนะโรงบาลไม่ยอมให้บอกรอตัวจริงออกกอ่นผมยังไม่คิดแขวนเลยอย่าอ้างไม่มีกินเลย  แล้วก้ชอบไปเรียกร้องคนโน้นโกงชาติคนนี้โกงชาติ เค้าระดับนายกโกงยังไม่น่าเกียจเท่ากับคนที่ไม่มีอำนาจยังไปโกงชาติถ้าคนไข้ตายคุณก็คงไม่รับรู้หรอก เฮ่อเดียวนี้ขนาดเด้กจบมายังไม่ถึงครึ่งปียังไม่ทันได้ใบตัวจริงก้แขวนแล้วจะหวังกับใครอ่ะครับ ช่วยกันรณรงค์กันในองค์กรนะครับเหงมีแต่เด็กเข้าใหม่ก้แนะนำให้แขวนกันเลยบางทีเค้าก้ยังไม่คิดจะแขวนก็นั่งยุกันทุกวัน โทษทีนะครับที่แรงไปหน่อยแต่ผมคิดว่าบางทีอาจชีพนี้อาจไม่มีอีกแล้วอาจจะมีแต่คงไม่มีบทบาทอะไรแล้วเพราะขนาดที่มั่นสำคัญคือร้านยายังไม่มีเภสัช อยากให้ทุกร้านเปงเภสัชจริงเลยอิฉาคลีนิคเค้ามีหมอทุกที่แหละ

[Satapat]

คำว่าแขวนป้ายมันก็ไม่ถูกจริยธรรมจรรยาบรรณแล้ว

[navin1966]

ผม ก็อยากให้แก้ปัญหา นี้ อย่าง จริง จัง มันเป็น การ คอรัปชั่น ในทุกส่วน ของเภสัชกร ผู้ ที่รับราชการ ก็ จะมีปัญหา การละเว้น การ ปฎิบัติ หน้าที่ ถ้ามีการ แง ความ เรื่อง นี้ อาจทำให้ เภสัชกร หมด ไป จาก ประเทศ เลย ก็ เป็น ได้ อิอิ

[navin1966]

แก้ ไข จาก แง เป็น แจ้ง ความ คนที่ตั้ง กระทู้ ลอง ไป แจ้ง ความ ซิ ครับ

[annefda]

ที่จังหวัดเข้มงวดมากตอนขออนุญาต เรียกเจ้าของและเภสัชมาพบเพื่อฟังข้อกฎหมาย ตามมาตรการ 3 ขั้น ครั้งที่ 1 ปรับ 2,000 บาท ครั้งที่2 ปรับ 4,000บาท ครั้งที่ 3 ส่งเรื่องให้สภาฯ ผลคือทุกร้านยินดีปฏิบัติตามและได้เปิดร้านทุกคน(มีทั้งเภสัชเป็นเจ้าของเองและแขวนป้าย) ออกตรวจไม่สม่ำเสมอ ตรวจบ้างไม่ตรวจบ้าง นานๆจะออกตรวจ และการออกตรวจร้านยาก็จะทราบล่วงหน้า ..... ผลการตรวจ...พบเภสัชกรอยู่ร้านยาเกือบ 100% ทั้งๆที่ในจังหวัดมีร้านยา ขย.1 เกือบ 500 แห่ง????? และมีเปิดใหม่ทุกสัปดาห์......เซ็ง....