New Document









เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 21 มี.ค. 2008, 23:02

เคยมีคำถามถามนายกสภาฯเมื่อวันที่ 13 กพ. ว่าทำไมสภาฯไม่ทำประชาพิจารณ์ คำตอบที่ได้คือ ที่มาเดินสายอยู่นี้ คือ กำลังทำประชาพิจารณ์อยู่

จึงอยากเชิญชวนสมาชิกลองอ่านเรื่องข้างล่างเล่นๆให้พอเห็นนิทานสอนใจเรื่องผู้ใหญ่หลอกเด็ก

สืบวงค์  กาฬวงค์. (2546). [color=green]
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08







Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 22 มี.ค. 2008, 13:07

เหตุผลเชิงกลยุทธ์ที่ต้องทบทวนนโยบายหลักสูตรเภสัชศาสตร์ 6 ปี ทั่วประเทศ?

โดย นศภ.สุจินต์  พาลุกา

ในประวัติศาสตร์จีนที่ยาวนานมากกว่า 3,000 ปี มีการสู้รบกันตลอดเวลา ยิ่งในยุคสมัยของจีน 7 แผ่นดิน (จ้านกั๋ว) ยิ่งเห็นได้ชัด ยุดนี้เป็นยุค 7  อาณาจักรก่อนที่จิ๋นซีฮ่องเต้จะรวมแผ่นดินได้สำเร็จ แต่ละอาณาจักรล้วนใช้กลยุทธิ์ที่เหมาะสมเพื่อความอยู่รอด การช่วงชิงความได้เปรียบของอาณาจักร ในสมัยนี้เป็นรากฐานที่ทำให้เกิดภูมิปัญญาต่างๆมากมายของจีนที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
หนึ่งในกลยุทธิ์ที่สำคัญคือ การซ่องสุมกำลังพลภายในอาณาจักรที่มั่นคงเมื่อถึงเวลาจึงยกทัพออกไปทำสงครามบางส่วน แบ่งกองทัพเล็กๆ ออกไปยึดเมืองเล็กเมืองน้อยรวบรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร โดยที่กำลังหลักยังคงอยู่ดูแลอาณาจักรให้มั่นคง

ซึ่งกลยุทธิ์นี้จะทำให้อาณาจักรยังคงได้เปรียบไม่ว่า จะชนะสงครามครั้งนั้นหรือไม่ก็ตาม เพราหากชนะสงครามก็ได้พื้นที่เพิ่ม
เมื่อนานวันเข้าก็พร้อมที่จะต่อกรกับอาณาจักรที่ใหญ่เท่าเทียมกัน ในทางกลับกัน หากไม่สามารถเอาชนะเมืองนั้นได้ ก็สามารถกลับมาตั้งหลักได้ในอาณาจักรตัวเอง
เมื่อพร้อมก็ค่อยออกไปทำสงครามอีกครั้ง ซึ่งความเสียหายครั้งนั้นๆย่อมไม่รุนแรงถึงขั้นสิ้นชาติบ้านเมือง

ย้อนกลับมาที่เรื่องเดิม เรื่องของการทบทวนนโยบายให้เรียนปริญญาตรีเภสัชศาสตร์บัณฑิต 6 ปีทั่วประเทศ
ผมเข้าใจเอาเองว่า การที่ใครบางคนนำหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิต บริบาลเภสัชกรรมเข้ามาในประเทศไทย
อาจเพราะเขาเล็งเห็นว่า เภสัชกรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยานั้นยังมีช่องโหว่ของการดูแลผู้ป่วยบนหอผู้ป่วย
จึงพยายามที่จะส่งเภสัชกรให้ขึ้นไปดูแลการใช้ยาบนหอผู้ป่วยเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยอย่างที่สุด
เป็นการส่งกองทัพย่อยๆออกไปยึดพื้นที่เพิ่มเพื่อความสมบูรณืของอาณาจักร

ถ้าอย่างนั้น ยิ่งมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องบังคับให้เภสัชกรทั่วประเทศให้ต้องเรียน 6 ปี
เพราะสิ่งต่างๆที่เภสัชกรตั้งแต่รุ่นบุกเบิกจนถึงรุ่นปัจจุบันได้ร่วมกันสร้างรากฐานเอาไว้เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว
เรามีเภสัชกรที่ดูแลเรื่องการผลิต ในโรงงาน ซึ่ง ไม่ต้องการความรู้เรื่อง บริบาลเภสัชกรรม เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ความรู้เท่าที่ควร
เรามีเภสัชกรที่ทำงานด้านการวิจัย ที่การเรียนเพิ่มขึ้นในระดับปริญญาตรี รังแต่จะขัดขวางโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไปกว่านั้น
เรามีเภสัชกรที่ทำงานในองค์การอาหารและยา ควบคุมมาตรฐานตั้งแต่การขึ้นทะเบียนยาไปจนถึงติดตามความปลอดภัยในการใช้หลังออกสู่ตลาด
เรามีเภสัชกรที่ทำงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่คอยตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้ยาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในส่วนท้องถิ่น
เรามีเภสัชกรที่ทำงานด้านการตลาดเพื่อกระจายยาออกไปยังส่วนต่างๆที่ต้องการใช้ยา
เรามีเภสัชกรที่ต้องการทำงานพื้นฐานในการให้บริการผู้ป่วยในห้องจ่ายยาแค่การส่งมอบยาให้ผู้ป่วยได้ใช้ยาอย่างปลอดภัยก็ไม่เหลือเวลาให้หายใจแล้ว
เรามีเภสัชกรที่ทำงานดูแลคลังยาเพื่อให้มียาใช้อย่างเพียงพอโดยไม่เกิดต้นทุนมากเกินไป
เรามีเภสัชกรที่ทำงานเป็นอาจารย์ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้แก่ลูกศิษย์จากรุ่นสู่รุ่นเพื่อผลิตเภสัชกรที่ดีให้แก่สังคม
...
เหล่านี้ล้วนเป็นการดูแลการใช้ยาอย่างทั่วถึงเกือบทุกระบบ

และเภสัชกรเหล่านี้ล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาตลอดโดยที่ไม่ต้องเรียน 6 ปี ตามมาตรฐานการบริบาลเภสัชกรรม

เหตุผลที่ดูมีน้ำหนักที่สุดที่สภายกมาอ้างในการปรับเปลี่ยนการศึกษาเภสัชศาสตร์เป็นบริบาลเภสัชกรรม 6 ปี คือ สภาต้องการให้เภสัชกรมีมาตรฐานเดียวกันหมดทั้งประเทศ
แต่เมื่อลองพิจารณาลงไปในรายละเอียดกลับพบว่าเป็นเหตุผลที่ไม่ได้พิจารณาถึงความเป็นจริงของการปฏิบัติงานของเภสัชกรที่หลากหลายข้างต้น
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะก้าวหน้า เป็นสายเลือดใหม่ของเภสัชกรไทยนั้น แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการทำร้ายวิชาชีพ เป็นการทำลายความพยายามของเภสัชกรรุ่นก่อนๆทั้งหมด
ที่ต้องการให้เภสัชกรควบคุมดูแลการใช้ยาให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยการส่งกำลังพลเข้าไปยึดครองในทุกจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญดังตัวอย่างข้างต้น

ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับกลยุทธิ์ทางการทหาร การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ต่างอะไรจากการยกพลทั้งหมดออกไปยึดเมืองอีกเมืองหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรอคอยเราอยู่
และเมืองนั้นใหญ่โตพอที่จะเป็นที่พึ่งของคนทั้งอาณาจักรหรือไม่ ซึ่งระหว่างนั้น อาณาจักรที่เคยเป็นของเราย่อมขาดคนดูแล คนอื่นที่ฉลาดก็ย่อมมองเห็นโอกาสที่จะส่งกำลังพลมายึดเมืองของเราไปโดยง่าย แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ลำบากเสียแล้วที่จะกลับมาชิงพื้นที่คืน

หากมองถึงความเหมาะสม ทำไมสภาวิชาชีพไม่ลองมองถึงการทำให้วิชาชีพมีมาตรฐานโดยการ ยกเลิกการเรียนปริญญาตรี เภสัชศาสตร์บัณฑิต 6 ปีให้เหลือเวลาในการศึกษาเพียง 5 ปี เหมือนเดิม แต่ใครที่ต้องการเรียน 6 ปีก็ให้ลงทะเบียนเรียนเพิ่มและได้รับใบประกาศเกียรติคุณความเชี่ยวชาญพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 1 ใบ สำหรับเป็นใบอนุญาติให้เภสัชกรขึ้นไปทำงานบนหอผู้ป่วย ส่วนสิ่งใดที่เภสัชกรเคยทำเคยปฏิบัติ ก็ให้คงเดิม
แบบนี้น่าจะทำให้เภสัชกรสามารถดูแลการใช้ยาได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องละทิ้งงานด้านอื่นๆที่เคยทำ ก็หวังว่าความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆคงทำให้เรามองเห็นอนาคตของวิชาชีพว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ขอบคุณครับ
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย weerapong_rx » 22 มี.ค. 2008, 18:37

ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนหลักสูตรทั้งหมดให้กลายเป็น PharmD เพราะประเทศที่ใช้ระบบนี้ก็ไม่ได้แสดงถึงความมีประสิทธิภาพมากกว่าประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช้ และยังมีหลายประเทศที่ไม่ใช้ระบบนี้ เช่น สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ก็ยังคงอยู่รอดและทำได้ดี และใช้เวลาเพียง 4 ปี เท่านั้น
ผมรู้สึกว่าระบบของสหราชอาณาจักรเป็นระบบที่ยืดหยุ่น กล่าวคือ ทุกคนจบปริญญาตรีเป็น pharm sci ก่อน เรียนทุกอย่างเหมือนหลักสูตรไทยแบบ 5 ปี ถ้าผู้ใดอยากจะเป็นเภสัชกรด้านคลินิกที่ต้องสอบขึ้นทะเบียนก็ไปลงทะเบียนฝึกงานและสอบเพิ่มเติมอีกหนึ่งปี (เนื้อหาหลักสูตรแบบละเอียดขออนุญาตให้ติดตามเพิ่มเติม)

ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบนที่เป็นห่วงว่าถ้ามีเฉพาะหลักสูตรนี้จะเกิดการแตกแยกและโยงไปถึงข้อคิดที่เคยมีบางท่านนำมาโพสในที่นี้คือเรื่อง ที่ยืนของเภสัชกรในอนาคต เพราะถ้ามีแต่สาขาการบริบาลเภสัช งานด้านอื่นๆ ที่เคยทำได้ก็จะกลายเป็นหน้าที่ของผู้อื่นที่จบมาในสาขาโดยตรง เช่น BSc Pharmacology, BSc nanomedicine BSc Pharmacoeconomics BSc Pharm Biotechnology เป็นต้น แล้วเราจะยอมรับให้คนอื่นทำหน้าที่แทนเภสัชกรหรือไม่ เพราะถ้าแก้กฏหมายแล้วผมคิดว่าคงยากที่จะแก้คืนถ้าเผื่อลองแล้วมันแย่กว่าเดิมและ ประชาชนบางส่วนอาจหมดความศรัทธาต่อวิชาชีพก็เป็นได้

ที่อยากให้สภาเภสัชกรรมเน้นเพิ่มเติมคืองานวิจัยทางเภสัชศาสตร์ชีวภาพและศาสตร์แขนงใหม่ๆ ที่หลักสูตรการเรียนการสอนยังปรับตามไม่ทัน เพราะยาและการรักษาโรคทุกวันนี้มันพัฒนาไปมาก โลกของยาที่เกี่ยวข้องกับยีน  Si RNA แอนติบอดี  bioproducts หรือเซลล์บำบัด มันกำลังค่อยๆ ทวีความสำคัญ ดังนั้นเภสัชกรสายวิจัยและพัฒนาควรจะได้รับการฟื้นฟูให้เป็นหน้าเป็นตาของคณะเภสัชศาสตร์ เพราะบ่อยครั้งที่เห็นข่าวคราวทางสื่อมวลชนก็จะพบว่านักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นที่ทำงานด้านการค้นคว้ายาใหม่รวมทั้งวิศวกรรมระบบนำส่งยา เป็นต้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
weerapong_rx
 
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2006, 17:04
ที่อยู่: London, UK

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 24 มี.ค. 2008, 20:54

แบบสำรวจความเห็น เรื่อง
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรมฯ ๒๕๕๑ ที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาการศึกษาหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต

เรียน เภสัชกรทุกท่าน
เนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ สภาเภสัชกรรมได้มีมติให้ออกข้อบังคับว่าด้วยการรับรองปริญญาฯ  ซึ่งกำหนดว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 สภาฯ จะรับรองเฉพาะปริญญาที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของหลักสูตร 6 ปีเท่านั้น

ผลของข้อบังคับฯนี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมาก เพื่อรวบรวมความเห็นของเพื่อนร่วมวิชาชีพในประเด็นนี้  และเป็นโอกาสให้มีการหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพและประเทศชาติให้มากที่สุด  ใคร่ขอความกรุณาท่านร่วมแสดงความเห็นโดยอิสระ คณะทำงานฯจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านเป็นความลับ โดยจะทำการ สรุป และนำเสนอความเห็นทั้งหมดในภาพรวมต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของเภสัชกรรมสมาคมฯในวันที่ 25 ? 26 เมษายน เพื่อประกอบการประชุมในเรื่องนี้ต่อไป


ขอความกรุณาทำแบบสำรวจนี้ด้วยค่ะ
เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถส่งกลับได้ 2 ทาง อย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ คือ
ส่งไปรษณีย์มาตามชื่อที่อยู่ที่ทำไว้แล้ว
หรือ ตอบในไฟล์แล้ว save ส่งมาที่ wannee@hotmail.com

ได้แนบไฟล์แบบสำรวจมาด้วยแล้วนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ ช่วยกันออกเสียงหน่อยนะคะ และ ขอความกรุณาส่งต่อๆกันด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

:P :D :singer: :singer: :gossip:
แนบไฟล์
pharmacy_education_survey.doc
(52.5 KiB) ดาวน์โหลด 580 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย นิวัช เมื่อ 27 พ.ค. 2008, 18:02, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 25 มี.ค. 2008, 17:54

ติดใจคำพูดของคุณ Adriamycin เมื่อ 05 มีนาคม 2551 ว่า ...อ่านประกาศฉบับนี้รวมไปถึงฉบับอื่นๆเห็นว่าสภามีอำนาจเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ ประเมิน แต่งตั้ง เพิกถอน "คนอื่น" ตั้งมากมาย แต่ไม่เห็นมีประกาศฉบับไหนเปิดช่องให้ "คนอื่น" ได้ตรวจสอบการทำงานสภามั่งเลย หรือว่ามีแต่เค้าไม่ได้เอาขึ้นเวป...
..กรรมการสภาเภสัชกรรมได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงเพียงคนละพันกว่าคะแนนแม้แต่นายกสภาฯเองก็ยังได้คะแนนเพียง 1500 คะแนนเศษ(มากสุดแล้ว) ..ไม่รู้ว่าถึงวันนี้ 1500 คนที่ลงคะแนนให้รู้สึกเสียใจอย่างไรหรือไม่ที่ท่านได้ทำให้สมาชิกสภาเภสัชกรรมต้องเดือดร้อนวุ่นวายเสียเวลาทำมาหากินกันถึงเพียงนี้ และไม่แน่ว่าอาจก่อความเสียหายยาวนานชั่วลูกชั่วหลาน.....เพราะเขาอ้างความชอบธรรมจาก 1500 คะแนนนั่นแหละที่ทำให้มีสิทธิ์ขาดที่จะทำสิ่งเหล่านี้ไ ด้ แม้สมาชิกจะออกมาแสดงความเห็นคัดค้านอย่างไรก็ไม่ฟัง.........อยากรู้ว่าถ้าเรารวบรวมเสียงได้มากกว่า 2000 คะแนน จะปลดกรรมการชุดนี้ออกได้หรือไม่...เพราะดูจะเป็นงานง่ายกว่าการตามแก้ไขปัญหามากมายที่เขาทำให้เราเดือดร้อนในเวลานี้  และไม่รู้จะต้องมีเรื่องเดือดร้อนอะไรตามมาอีกแค่ไหน เพราะถ้าเรื่องนี้ทำได้สำเร็จ  (โดยไม่ต้องฟังเสียงสมาชิก)  น่าจะทำให้เขามั่นใจในอำนาจและสิทธิ์ขาดนี้มากขึ้นไปอีก    เอ...ชักงง..สภาเภสัชกรรม ตาม พรบ.วิชาชีพ พศ.2537 ระบุไว้ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ [color=green][color=red]เพื่อ..ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก[/color][/color]...การกระทำที่ไม่เป็นไปตามนี้..จะมีความผิดสถานไหนนะ...
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย sukanya_rx19 » 25 มี.ค. 2008, 19:34

เป็นวิธีที่น่าสนใจ ตามที่คุณ coolturtle ว่ามา
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sukanya_rx19
Global Moderator
 
โพสต์: 2148
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2005, 16:06
ที่อยู่: ยโสธร

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย rinko » 25 มี.ค. 2008, 19:53

สหราชอาณาจักรเรียนอย่างนี้ค่ะ

A-LEVEL= ปี 1 ของเรา

เพราะฉะนั้น การเรียนเภสัชศาสตร์ของเขา 4 ปี + A-LEVEL 1 ปี หมายถึง = เราเรียน 5 ปีค่ะ และได้ปริญญาเป็น MPharm

(ที่โน่นเรียนปริญญาตรี 3 ปี ในคณะทั่วไป เพราะเขาเรียน A-LEVEL ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ)

หลังจากนั้นเขาจะมีการฝึกงาน แต่ได้เงินเหมือนทำงานจริง อาจน้อยกว่าเภสัชกรจริงนิดหน่อย แต่มีเภสัชกรประกบค่ะ

ถ้าจะนับปีฝึกงานเป็นปีที่เรียน ก็ไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะเขามีการฝึกงานตลอดในขณะเรียน ไม่ใช่ฝึกแค่ตอนจบปี 4

ส่วนปี 4 ที่จบ แล้วไปฝึกงาน เขาเรียก Pre-register ค่ะ พอฝึกครบ 1 ปี ก็จะสอบเพื่อ register เป็นเภสัชกรที่โน่น

ไม่ใช่ฝึกขำๆ เพราะเขาได้เงินเดือนด้วย ความรับผิดชอบจึงสูงกว่า ถ้าจะปรับตามปีเรียน ต้องศึกษาของแต่ละประเทศอย่างลึกๆค่ะ

ไม่ใช่แค่ตื้นๆแล้วเอามาอ้างว่าควรจะเรียนเป็น 6 ปี เพราะที่สหราชอาณาจักรเอง เขาได้รับปริญญาตั้งแต่จบ ปี 4 ค่ะ ไม่ใช่ว่า preregister แล้วถึงจะได้ปริญญา
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rinko
 
โพสต์: 662
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 มี.ค. 2008, 14:53

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย kohboy » 25 มี.ค. 2008, 20:26

coolturtle เขียน:ติดใจคำพูดของคุณ Adriamycin เมื่อ 05 มีนาคม 2551 ว่า ...อ่านประกาศฉบับนี้รวมไปถึงฉบับอื่นๆเห็นว่าสภามีอำนาจเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ ประเมิน แต่งตั้ง เพิกถอน "คนอื่น" ตั้งมากมาย แต่ไม่เห็นมีประกาศฉบับไหนเปิดช่องให้ "คนอื่น" ได้ตรวจสอบการทำงานสภามั่งเลย หรือว่ามีแต่เค้าไม่ได้เอาขึ้นเวป...
..กรรมการสภาเภสัชกรรมได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงเพียงคนละพันกว่าคะแนนแม้แต่นายกสภาฯเองก็ยังได้คะแนนเพียง 1500 คะแนนเศษ(มากสุดแล้ว) ..ไม่รู้ว่าถึงวันนี้ 1500 คนที่ลงคะแนนให้รู้สึกเสียใจอย่างไรหรือไม่ที่ท่านได้ทำให้สมาชิกสภาเภสัชกรรมต้องเดือดร้อนวุ่นวายเสียเวลาทำมาหากินกันถึงเพียงนี้ และไม่แน่ว่าอาจก่อความเสียหายยาวนานชั่วลูกชั่วหลาน.....เพราะเขาอ้างความชอบธรรมจาก 1500 คะแนนนั่นแหละที่ทำให้มีสิทธิ์ขาดที่จะทำสิ่งเหล่านี้ไ ด้ แม้สมาชิกจะออกมาแสดงความเห็นคัดค้านอย่างไรก็ไม่ฟัง.........อยากรู้ว่าถ้าเรารวบรวมเสียงได้มากกว่า 2000 คะแนน จะปลดกรรมการชุดนี้ออกได้หรือไม่...เพราะดูจะเป็นงานง่ายกว่าการตามแก้ไขปัญหามากมายที่เขาทำให้เราเดือดร้อนในเวลานี้  และไม่รู้จะต้องมีเรื่องเดือดร้อนอะไรตามมาอีกแค่ไหน เพราะถ้าเรื่องนี้ทำได้สำเร็จ  (โดยไม่ต้องฟังเสียงสมาชิก)  น่าจะทำให้เขามั่นใจในอำนาจและสิทธิ์ขาดนี้มากขึ้นไปอีก     เอ...ชักงง..สภาเภสัชกรรม ตาม พรบ.วิชาชีพ พศ.2537 ระบุไว้ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ [color=green][color=red]เพื่อ..ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก[/color][/color]...การกระทำที่ไม่เป็นไปตามนี้..จะมีความผิดสถานไหนนะ...



ขอคิดด้วยคนครับ
ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นคำสั่งทางปกครอง
ฟ้องครับ ถ้าไม่พอใจ..
..ฟ้องศาลปกครอง ว่าคำสั่งมิชอบ

ไม่ต้องใช้หลายคน คนเดียวก็ฟ้องได้
ในคำฟ้องก็มีคำร้องต่อศาลให้ระงับคำสั่งของสภาเภสัชไว้ก่อน


ส่วนเรื่องถอดถอนนายก , ยังไม่แน่ใจครับ
ผมจะลองศึกษาดู ในขั้นต้น คิดว่าไม่น่าจะทำได้ เพราะไม่มีกฏหมาย หรือ ข้อบังคับของสภาตราไว้

ดีไม่ดี, สองพันคนที่ลงชื่อไป อาจเจอฟ้องกลับได้
ดูดีๆละกันครับ

"ถ้าจะฟ้องจริง ก็เรียกผมไปฟังการปประชุมวางแผนก่อนฟ้องก็ดีนะครับ
ชอบครับ เวลาจะฟ้องข้าราชการ
ผมว่าง และ อยากไปเยี่ยม มข. เหมือนกัน คิดฮอดหลาย"



ครับ


:D
แก้ไขล่าสุดโดย kohboy เมื่อ 25 มี.ค. 2008, 21:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 25 มี.ค. 2008, 21:13

kohboy เขียน:
"ถ้าจะฟ้องจริง ก็เรียกผมไปฟังการปประชุมวางแผนก่อนฟ้องก็ดีนะครับ
ชอบครับ เวลาจะฟ้องข้าราชการ
ผมว่าง และ อยากไปเยี่ยม มข. เหมือนกัน คิดฮอดหลาย"

ครับ

:D



สงสัยว่าจะมีความหลังหวานชื่นที่ มข. หรือเปล่านะ  :D
:guitar: :singer:
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย wannee » 25 มี.ค. 2008, 21:19

rinko เขียน:สหราชอาณาจักรเรียนอย่างนี้ค่ะ

A-LEVEL= ปี 1 ของเรา

เพราะฉะนั้น การเรียนเภสัชศาสตร์ของเขา 4 ปี + A-LEVEL 1 ปี หมายถึง = เราเรียน 5 ปีค่ะ และได้ปริญญาเป็น MPharm

(ที่โน่นเรียนปริญญาตรี 3 ปี ในคณะทั่วไป เพราะเขาเรียน A-LEVEL ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ)

หลังจากนั้นเขาจะมีการฝึกงาน แต่ได้เงินเหมือนทำงานจริง อาจน้อยกว่าเภสัชกรจริงนิดหน่อย แต่มีเภสัชกรประกบค่ะ

ถ้าจะนับปีฝึกงานเป็นปีที่เรียน ก็ไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะเขามีการฝึกงานตลอดในขณะเรียน ไม่ใช่ฝึกแค่ตอนจบปี 4

ส่วนปี 4 ที่จบ แล้วไปฝึกงาน เขาเรียก Pre-register ค่ะ พอฝึกครบ 1 ปี ก็จะสอบเพื่อ register เป็นเภสัชกรที่โน่น

ไม่ใช่ฝึกขำๆ เพราะเขาได้เงินเดือนด้วย ความรับผิดชอบจึงสูงกว่า ถ้าจะปรับตามปีเรียน ต้องศึกษาของแต่ละประเทศอย่างลึกๆค่ะ

ไม่ใช่แค่ตื้นๆแล้วเอามาอ้างว่าควรจะเรียนเป็น 6 ปี เพราะที่สหราชอาณาจักรเอง เขาได้รับปริญญาตั้งแต่จบ ปี 4 ค่ะ ไม่ใช่ว่า preregister แล้วถึงจะได้ปริญญา


น่าสนใจตรงที่ว่า การฝึกที่เป็น preregister จะเป็นการฝึกที่คนฝึกจะได้ฝึกแบบจริงจังและได้การเรียนรู้มากกว่าการเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน
อีก 20 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
wannee
 
โพสต์: 187
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2007, 21:08

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย kohboy » 25 มี.ค. 2008, 21:20

wannee เขียน:
kohboy เขียน:
"ถ้าจะฟ้องจริง ก็เรียกผมไปฟังการปประชุมวางแผนก่อนฟ้องก็ดีนะครับ
ชอบครับ เวลาจะฟ้องข้าราชการ
ผมว่าง และ อยากไปเยี่ยม มข. เหมือนกัน คิดฮอดหลาย"

ครับ

:D



สงสัยว่าจะมีความหลังหวานชื่นที่ มข. หรือเปล่านะ  :D
:guitar: :singer:


หุหุหุ
บ่อดอก
เพียงแค่อยากไปเยี่ยมตามประสาคนมักคุ้นกัน
อีกทั้งไปกราบอาจารย์ที่เคารพบางท่าน ที่ยังเหลืออยู่


ว่าซั่น!!
:lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 26 มี.ค. 2008, 08:30

อ้างคุณKohboyเมื่อ25 มีนาคม 2551ว่า...ฟ้องครับ ถ้าไม่พอใจ..
..ฟ้องศาลปกครอง ว่าคำสั่งมิชอบ....
.....เท่าที่ทราบมาคือ ผู้ฟ้องต้องเป็นผู้เสียหายจากคำสั่งนั้น และต้องระบุว่าเสียหายอย่างไร...กรณีที่เราคาดการณ์ว่าจะเสียหาย โดยความเสียหายยังไม่เกิดขึ้น และเรา(ผู้ฟ้อง)ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง...จะทำได้หรือไม่  เรื่องนี้อาจต้องฝากให้ช่วยๆกันคิด แต่ไม่ควรคิดผ่านหน้าสนทนานี้ ...อยากทราบว่านอกจากคุณ kohboy จะมีใครรู้เรื่องทางกฏหมายและช่วยเหลือพวกเราในเรื่องนี้ได้บ้าง...
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย kohboy » 26 มี.ค. 2008, 09:07

coolturtle เขียน:อ้างคุณKohboyเมื่อ25 มีนาคม 2551ว่า...ฟ้องครับ ถ้าไม่พอใจ..
..ฟ้องศาลปกครอง ว่าคำสั่งมิชอบ....
.....เท่าที่ทราบมาคือ ผู้ฟ้องต้องเป็นผู้เสียหายจากคำสั่งนั้น และต้องระบุว่าเสียหายอย่างไร...กรณีที่เราคาดการณ์ว่าจะเสียหาย โดยความเสียหายยังไม่เกิดขึ้น และเรา(ผู้ฟ้อง)ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง...จะทำได้หรือไม่   เรื่องนี้อาจต้องฝากให้ช่วยๆกันคิด แต่ไม่ควรคิดผ่านหน้าสนทนานี้ ...อยากทราบว่านอกจากคุณ kohboy จะมีใครรู้เรื่องทางกฏหมายและช่วยเหลือพวกเราในเรื่องนี้ได้บ้าง...


แหะๆ
ผมยังเป็นเภสัชกรอยู่นะครับ
ที่รู้เรื่องกฎหมายอยู่บ้าง ก็เพราะเคยมีประสปการณ์เดินเข้า-ออกห้องพิจารณาคดีในศาลปกครอง แค่นั้นเอง  :oops: :oops:


...
-เท่าที่ดู คนเสียหายที่เห็นจะๆ ตามกระทู้นี้ ก็คงจะเป็นคณะเภสัชฯทุกแห่งหละครับ ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำสั่งของสภา (ถ้าเสียหาย)

-ส่วนเรื่องทีม,ผมว่า..คนรู้เรื่องทางกฎหมายในแต่ละคณะเภสัชฯ มีอยู่ทุกที่ครับ คงระดมกันไม่ยาก
ไม่ยากเรื่องจำนวน แต่จะยากเรื่องคุยกันรู้เรื่องรึเปล่า 
อาจต้องใช้วิธีถามก่อนว่า.."จะฟ้องมั๊ย"  ถ้าคนไหนตอบรับ ค่อยเชิญมา ส่วนคนที่เซย์โน หรือออกกลางๆ ก็ไม่ต้องเชิญมา  เพราะมาแล้วจะมาดึงกันเอง
เวลาจะลุยต้องอย่างนี้แหละครับ ตั้งธงไว้.. แล้วก็เซ็ทวิธีการบุกกันต่อไป


อิอิ
:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย coolturtle » 27 มี.ค. 2008, 08:27

เรื่องให้สถาบันเป็นผู้ฟ้องเป็นเรื่องยากกกกกซซซ............เพราะผู้บริหารสถาบันมีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในสภาฯ(นั่งอยู่ในนั้นอยู่แล้ว) ถ้าผู้บริหารสถาบัน represent ความคิดของคนในสถาบัน เราคงไม่ต้องมาเหนื่อยกันอย่างนี้หรอก...........
coolturtle
 
โพสต์: 58
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2008, 16:44

Re: เรื่องสภากำหนดให้ต่อไปมีแต่หลักสูตร 6 ปี

โพสต์โดย kohboy » 27 มี.ค. 2008, 11:58

อารมณ์แบบพึ่งใครไม่ได้นี่แหละครับ
ที่คนเราต้องพึ่งศาล

" เป็นเรื่องจริงของสังคมเราท่านที่อยู่ ณ เมืองนี้"


สู้ๆ ครับ
ไม่มีที่ให้เตรียมการ มาใช้แคร่กินข้าวบ้านผมประชุมกันก็ได้
ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สายตรงถึงสภาเภสัชกรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document