หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 17:27
โดย azzuri
จากการที่ สำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ได้ทำโครงการนำร่องพัฒนาระบบบริหารเวชภัณฑ์ เป็นเครือข่ายจังหวัด เฟสแรกที่จังหวัดสระบุรี ในปีงบประมาร2550 ที่ผ่านมา
และจะเริ่มเฟสที่สองในปีงบประมาณ 2551 โดยขยายกลุ่มเป้าหมายออกไป ตาม สาขาพื้นที่ ของสปสช 12 สาขา
ซึ่งจะมีจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการในเฟสที่สองนี้อีก 18 จังหวัด ซึ่งประกอบไปด้วย
หนองบัวลำภู สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา สุราษธานี สระบุรี (จำได้ไม่ครบ)
เป้าหมายหลักของโครงการคือ การใช้ยาในหน่วยบริการของรัฐทุกระดับ อย่างสมเหตุสมผล และ คุ้มค่า
โดยมีเครื่องหลักที่ใช้คือ "บัญชียาหลักแห่งชาติ2547(และ ปี2550 ที่กำลังปรับปรุง)"  และ การประกันคุณภาพยา

สาเหตุที่ต้องเปิดห้องนี้ก้อเพราะ .....สปสช ไม่ได้กำหนดแนวทาง หรือ วิธีการดำเนินการ
แต่ สปสช กำหนด เป้าหมาย และสนับสนุนงบประมาณ ให้แต่ละจังหวัดกำหนดแนวกางการดำเนินการเอง
เพราะ ว่าแต่ละจังหวัดมีต้นทุนเริ่มต้น เงื่อนไข และ ปัจจัยในการทำงานที่แตกต่างกัน
ดังนั้นจึงขอใช้ห้องนี้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร และ แลกเปลี่ยนข้อมูล และความคิดเห็น
เพื่อให้เกิดความสร้างสรรค์ และ หลากหลาย สามารถนำไปเป็นต้นแบบ ซึ่งกันและกันได้ครับ

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 18:01
โดย Wiz@rd.
สปสช. มีอำนาจอะไรในการสั่งการกระทรวงครับ

แต่เดิมกำหนดไว้ว่าให้ทำตัวเป็นผู้ซื้อบริการของกระทรวง
แต่สงสัย คนในกระทรวงหนีมาอยู่ทางนี้เยอะ เลยทำตัวเป็นคนกำหนดนโยบายซะเอง

แล้วก็ กำหนดนโยบาย โดยไม่กำหนดแนวทางหรือวิธีการเนี่ย เป็นวิธีการที่... อืม... นะ...

ไม่รู้จังหวัดผมจะโดนไม่ อาจจะโดน เพราะจังหวัดผมชอบการนำร่องเป็นพิเศษ

ไว้จะมาคุยกันครับ

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 18:13
โดย Wiz@rd.
แยกมาตอบอีกความเห็นนึง เพราะความเห็นข้างบนมันไม่ค่อยจะเข้าข่ายสร้างสรรค์

ถ้า "เป้าหมายหลักของโครงการคือ การใช้ยาในหน่วยบริการของรัฐทุกระดับ อย่างสมเหตุสมผล และ คุ้มค่า" ล่ะก็

วิธีการคือ ให้เภสัชกร มีอำนาจในการกำหนดนโยบายการใช้ยา มากกว่านี้ ไม่ใช่กำหนดการใช้โดยแพทย์ ตามใจแพทย์ทุกอย่าง
ยาตัวนี้มี ใช้รักษาได้ตามภาวะที่ต้องการ แต่ท่านไม่ใช้(ไม่รู้เพราะอะไร) ให้ไปซื้อที่คลินิคผมแล้วกัน เดี๋ยวผมเซ็นต์ให้ แล้วเอาไปให้ห้องยาเซ็นต์นะว่าไม่มี จะได้เอาไปเบิกได้ (เหอๆๆ เจอวันเดียววันนึงเป็น 10 ใบเลย โทรไปหาหมอ หมอครับ ร.พ.เรามียานี้นะครับ อ๋อ ผมไม่ถนัดในการใช้ยาตัวนี้น่ะครับ/ผู้แทนบอกผมว่า บลาๆๆ ผมว่าเลยจะเปลี่ยน  ถาม XXX (ผู้ที่ผมไม่ควรเอ่ยนาม) มันเป็นการประกอบโรคศิลป์ของแพทย์น่ะ เซ็นต์ๆไปเหอะ ปลง... กรู...)

อิจฉา โรงพยาบาล พี่ไก่ ชะมัด (แต่คงไม่คิดไปอยู่ด้วยครับ)

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 20:04
โดย azzuri
ผมมองว่าเป็นโอกาสครับ......
โอกาสที่จะโชว์พลังของวิชาชีพครับ
และถ้าได้นะครับ  ประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์
ประโยชน์คือ เก็บเศษเงินบาท เงินเหรียญ ที่ตกหล่น จากการใช้ยาที่เกินความจำเป็น

และมันก้อไม่ใช่เรื่องยากอะไร..เป็นเรื่องที่เราทำอยู่แล้ว  แถมยังมีงบ มีคน(วิทยากร) มาช่วยอีก
จากการที่คุยกับหมอจะตัด ไม่ตัดยาออกจากบัญชี ทีนี้จะมีคนมาช่วยพูด  แถมถ้าทำได้ดี เผลอๆ อาจมีinsentive ให้ด้วย

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 20:11
โดย kohboy
มาเชียร์ และเอาใจช่วย ครับ


มีกูรูทางเฮล์ธเคยพูดว่า.."สำนักงานใดถ้าไม่ได้อยู่ใต้กระทรวงติวานนท์ จะทำงานดี เสมอ"


ว่าซั่น!

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 25 ส.ค. 2007, 20:16
โดย Wiz@rd.
น่าจะ

สำนักงานหรือกระทรวงใด ถ้าไม่ได้อยู่แถวติวานนท์ จะทำงานดี เสมอ

ต่างหากครับ

(ว่ามากไม่ได้ อีกหน่อย ผมอาจจะเป็น เกลียดตัวกินไข่)

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 27 ส.ค. 2007, 09:06
โดย kohboy
ก็ตอนโทรหาแอดมิน เค้ายังไม่เมา..เลยพูดน้อย
ไง!

Re: ที่มาของห้องนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: 21 ก.ย. 2007, 10:13
โดย Jphar
ดีจัง น่าหนับหนุน  :D

พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ 2550 ก็คลอดแล้ว  ต่อไปจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบสาธารณสุขกันอีกมาก

อย่างน้อยก็จะเกิดมีธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ

ต่อไปเมื่อตั้งคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(คสช.)เสร็จ  ก็จะมีการตั้งสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติที่เมื่อก่อนเรียกว่า สปสช.

ต่อไปจะใช้ชื่อย่อเป็น สช.ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเลขานุการของ คสช. มีอำนาจจัดการบริหารทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายตามพ.ร.บ. หรือตามกฎหมายอื่น

แล้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเร็วๆนี้