http://www.pharm.su.ac.th/sites/default ... 2-2556.pdfแถลงการณ์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
กรณีการสอบความรู้เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ครั้งที่ 2/2556
---------------------------
จากคำชี้แจง คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม กรณีข่าวข้อสอบรั่ว ในการสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรขอชี้แจงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.การจัดการสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์สอบความรู้ฯ สภาเภสัชกรรม และทางศูนย์สอบความรู้ฯ ได้ขอความอนุเคราะห์ให้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสนามสอบดังกล่าว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ทั้งนี้ในการดำเนินการจัดสอบทุกครั้งสนามสอบ มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติการจัดสอบทักษะทางวิชาชีพ OSPE ของศูนย์สอบฯ อย่างเคร่งครัดและเป็นไปตามที่ศูนย์สอบฯ ได้กำหนดไว้ทุกประการ
2.ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นมา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้สนับสนุนให้นักศึกษาดำเนินโครงการทบทวนความรู้ ฝึกซ้อมทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการสอบความรู้ฯ อย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายได้มีการเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นปีการศึกษา ซึ่งนักศึกษาเป็นผู้ออกแบบข้อสอบ สร้างข้อสอบและจัดการซ้อมสอบกันเอง โดยยึดแนวทางในคู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม คณะวิชาเพียงแต่สนับสนุนให้ใช้ห้องบรรยาย ห้องปฏิบัติการ ตลอดจนอุปกรณ์ และสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่านับตั้งแต่มีโครงการทบทวนความรู้อย่างเป็นระบบ ผลการสอบความรู้ฯของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีจำนวนนักศึกษาที่สอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพฯ ในจำนวนที่มากขึ้น
สำหรับการเตรียมความพร้อม การสอบ OSPE ของนักศึกษาครั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับจากนักศึกษา ทราบว่า มีการออกแบบข้อสอบและจัดการซ้อมสอบกันเอง วันละสองรอบ ติดต่อกันทุกวันอย่างต่อเนื่องกัน ในระหว่างวันที่ 16 – 27 ก.พ. 2556 รวมแล้วไม่น้อยกว่า 20 รอบ
3.สำหรับข้อความที่ปรากฏในสื่อสังคมจำนวน 5 ข้อความในวันที่ 1 มี.ค. 2556 นั้น จากการตรวจสอบกับนักศึกษาที่จัดทำโครงการทบทวนฯ พบว่า ข้อความดังกล่าวนั้น ได้ปรากฏอยู่ในระหว่างการฝึกซ้อมของนักศึกษามาก่อนหน้านั้นแล้ว (ทั้งนี้นักศึกษาได้ส่งมอบหลักฐานเอกสารต่อคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่สภาเภสัชกรรมแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว) อย่างไรก็ตาม ด้วยวัตถุประสงค์ของการสอบทักษะ จะมุ่งเน้นการทบทวนทักษะที่นักศึกษาได้เรียน และมีความสำคัญต่อการประกอบวิชาชีพ ซึ่งสภาเภสัชกรรม ได้กำหนดทักษะที่จำเป็นไว้แล้วในคู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม จึงไม่เป็นเรื่องที่ผิดปกติที่การฝึกซ้อมจะมีความใกล้เคียงกับหัวข้อที่จะใช้สอบจริง
4.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับคำยืนยันจากนักศึกษาผู้ที่ถูกพาดพิงและนักศึกษาผู้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คว่า นักศึกษาทั้ง 2 คนได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้มาจากการทบทวนฯ รวมถึงข้อความสำคัญ 5 ข้อความดังที่ปรากฏนั้น เป็นระยะๆ ตั้งแต่วันที่เริ่มกระบวนการทบทวนความรู้ และยืนยันว่าข้อความสำคัญ 5 ข้อความนั้นไม่ได้มาจากข้อสอบแต่อย่างใด (ซึ่งไม่ตรงกับข้อสรุปของศูนย์สอบฯ ที่สรุปว่าข้อสอบรั่วมีมูล) แสดงให้เห็นว่าข้อความสำคัญดังกล่าวได้มีการแลกเปลี่ยนกันก่อนหน้าที่จะมีการดำเนินการสอบในวันที่ 1 มีนาคม 2556 แต่ด้วยเหตุที่มีข้อความปรากฏในสื่อสังคมโดยการโพสต์ลงในเฟซบุ๊คในวันที่ดำเนินการสอบในวันที่ 1 มีนาคม 2556 จึงอาจทำให้เข้าใจไปได้ว่าเกิดข้อสอบรั่วขึ้นในวันดังกล่าว
5.ข้อมูลที่ระบุว่ามีการรั่วไหลของข้อสอบ เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลย่อจากการพูดคุยของนักศึกษา 2 คน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา และหากจะพิจารณาว่าข้อสอบรั่ว ลักษณะของข้อมูลที่ปรากฏจะต้องเหมือนกับคำถามของข้อสอบอย่างชัดเจน ซึ่งจากการวิเคราะห์ คำสำคัญทั้ง 5 คำที่ปรากฏดังกล่าว จะพบว่ามีคำสำคัญที่ตรงกับคำถามในข้อสอบจริง เพียง 1 คำสำคัญ คือ คำว่า enema
สำหรับคำสำคัญอีก 4 คำ ไม่ได้ตรงหรือสอดคล้องกับคำถามข้อสอบโดยตรงแต่อย่างใด และการจะได้คำตอบตามคำสำคัญในแต่ละข้อดังกล่าว จะต้องผ่านกระบวนการในการหาข้อมูลจากผู้ป่วย (ซักประวัติอย่างละเอียด) ก่อนที่จะสามารถสรุปว่าเป็นคำสำคัญดังกล่าว ซึ่งนักศึกษาต้องมีทักษะในการซักประวัติจึงจะสามารถได้คำตอบตามคำสำคัญดังกล่าว ประเด็นดังกล่าวจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นข้อสอบรั่ว (อ้างอิงจากคำชี้แจงกรณีข่าวข้อสอบรั่ว ข้อที่ 3 ของสภาเภสัชกรรม วันที่ 30 มีนาคม 2556)
6.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีข้อเสนอแนะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ดังนี้
6.1คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เห็นด้วยกับสภาเภสัชกรรมที่จะดำเนินการปรับปรุงแนวปฏิบัติการจัดสอบทักษะทางวิชาชีพ OSPE ของศูนย์สอบฯ ให้มีความสมบูรณ์และรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันและให้ความมั่นใจในกระบวนการจัดสอบความรู้ฯ ของทุกสนามสอบ
6.2คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเสนอแนะแนวทางในการออกข้อสอบ OSPE ว่าควรเน้นการสอบทักษะที่เภสัชกรทั่วไปควรปฏิบัติได้ ซึ่งนักศึกษาเภสัชศาสตร์จากทุกสถาบันที่ได้ผ่านการเรียนการสอนและฝึกปฏิบัติวิชาชีพจากหลักสูตรที่สภาเภสัชกรรมให้การรับรองแล้วสามารถสอบผ่านได้ ไม่ควรเป็นข้อสอบในลักษณะที่เน้นการท่องจำ หรือข้อสอบในลักษณะ speed test หรือเป็นข้อสอบที่มีลักษณะเฉพาะเป็นกรณีที่ไม่พบโดยทั่วไป เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้มีการจัดติวมากยิ่งขึ้น
6.3การประกาศผลสอบความรู้ฯ ควรเป็นสิทธิเฉพาะบุคคลในการรับทราบผลการสอบ จำนวนร้อยละของนักศึกษาที่สอบผ่านของแต่ละสถาบันควรเป็นสิทธิของแต่ละสถาบันในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสถาบัน เนื่องจากการที่สถาบันใดมีจำนวนร้อยละของนักศึกษาที่สอบผ่านได้มากหรือน้อยเป็นเพียงการบอกว่านักศึกษามีความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามเกณฑ์มาตรฐานของสภาวิชาชีพฯ เท่านั้น
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอขอบคุณทุกท่านที่มีใจเที่ยงธรรม พร้อมที่จะรับฟังข้อมูลรอบด้านอย่างมีสติ และมีวิจารณญาณ ไม่ด่วนสรุปและตัดสินผู้อื่น เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของสังคมออนไลน์ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยกระบวนการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับการสอบ และความเคร่งครัดต่อการดำเนินการตามข้อกำหนดของศูนย์สอบฯ เป็นหลักประกันได้ว่าการสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ณ สนามสอบ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความโปร่งใส บริสุทธิ์ และอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เข้าสอบได้ โดยสามารถให้คำยืนยันได้ว่า ผู้ที่ผ่านการสอบความรู้ฯ จากสนามสอบ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะที่ผ่านเกณฑ์ประเมินของศูนย์สอบความรู้ฯ อย่างแท้จริง
ทั้งนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีปณิธานแน่วแน่ที่จะผดุงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ที่คณะฯ สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้ใดเจตนาที่จะทำการทุจริตในการสอบครั้งนี้หรือครั้งใดๆ ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้อื่นมาตรวจสอบ คณะฯ จะไม่ช่วยเหลือปกปิดข้อเท็จจริงและพร้อมที่จะลงโทษผู้ที่ทำการทุจริตดังกล่าวจนถึงที่สุด สำหรับการสอบในครั้งนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้วว่าการจัดสอบครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และพร้อมที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดตามกระบวนการและครรลองของวิญญูชนที่พึงกระทำและขั้นตอนทางกฏหมายเพื่อผดุงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพวกเราชาวเภสัชฯ ศิลปากร
เภสัชกรหญิง รองศาสตราจารย์ ดร.จุไรรัตน์ นันทานิช
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร