New Document









รายแรกทราบว่าติดเชื้อวัณโรคจากคนไข้และเป็นเชื้อดื้อยารุนแรง

ข่าวสารสาธารณสุข

รายแรกทราบว่าติดเชื้อวัณโรคจากคนไข้และเป็นเชื้อดื้อยารุนแรง

โพสต์โดย kiatisak » 20 พ.ค. 2017, 10:38

เมื่ออัตราคนมีปัญหาบรรจุไม่ได้ ก็ต้องมีมาตราการณ์ป้องกันคนที่ทำงานอยู่ ทำงานแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดีหน่อยนะ ทุกวันนี้บุคลากรการแพทย์ต้องเสี่ยงติดเชื้อโรคในสถานที่ปฎิบัติการเพียบ เป็นอะไรขึ้นมา ไม่คุ้มกับการสูญเสียเลย
.

ช่วงนี้มีข่าวน้องหมอจบใหม่ เสียชีวิตค่อนข้างติดๆกัน รายแรกทราบว่าติดเชื้อวัณโรคจากคนไข้และเป็นเชื้อดื้อยารุนแรง อีกรายคือคุณหมอหนุ่มร่างกายกำยำที่สงสัยว่าปอดติดเชื้อจนมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตในที่สุด ก่อนอื่นพี่ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของน้องหมอทั้งสองคนที่เชื่อว่าน้องๆทั้งคู่น่าจะเป็นความหวังและเสาหลักของครอบครัว

เรื่องการเสียชีวิตของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรก มีข่าวอยู่เนืองๆ ทั้งอุบัติเหตุจากการพักผ่อนไม่พอขับรถหลับใน โรคภัยไข้เจ็บ แม้กระทั่งการฆ่าตัวตายจากความเครียด จากหลากหลายปัจจัย ทำให้เราต้องสูญเสียคนหนุ่มสาวมีอนาคตที่ยังควรจะสามารถช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้อีกหลายหมื่นหลายแสนคนไปอีก 30-40ปี

ส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือระบบงานสาธารณสุขของประเทศ ที่มีภาระงานหนักหน่วงเกินกว่าที่บุคลากรที่มีอยู่จะสามารถรับมือได้อย่างเพียงพอ การอยู่โยงเวร 72ชม. ได้นอนเป็นงีบๆ มีให้เห็นอยู่ในยุคปัจจุบัน การที่ต้องออกตรวจทั้งๆที่ตัวหมอตัวพยาบาลป่วย คาสายน้ำเกลือ ฉีดยาฆ่าเชื้อไปตรวจไป ยังเป็นเรื่องปกติในโรงพยาบาลรัฐ สุดท้ายแล้วถ้าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข บุคลากรไม่ได้รับการเพิ่มจำนวนให้เพียงพอกับภาระงาน ไม่มีการควบคุมชั่วโมงการทำงานให้พอเหมาะ แต่ยังอ้างคำว่า "เสียสละ" และ "จรรยาบรรณ" มาก่อนตลอดเวลา เคสนี้ก็ยังไม่ใช่เคสสุดท้าย ที่เราจะต้องสูญเสียหมอหนุ่มสาวอายุน้อยไปก่อนวัยอันควร

ประเด็นที่ควรต้องพูดถึงกันจริงๆ อาจไม่ใช่การชื่นชมการเสียชีวิตในหน้าที่ (เราไม่ได้อยู่ในสนามรบ ไม่ได้ไปฆ่าฟันกับใคร เหตุแบบนี้มันไม่ควรเกิด) แต่คำถามสำคัญกว่านั้นคือ ระบบสาธารณสุขของประเทศนี้จะดูแลปกป้องบุคลากรให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร

สุดท้าย หากมีน้องๆหมอพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์หรือสาขาอื่นๆได้อ่านอยู่ ในฐานะรุ่นพี่อยากฝากข้อคิดไว้ว่า การมีอุดมการณ์เป็นสิ่งดี การทุ่มเทแรงทั้งกายใจเพื่อช่วยชีวิตคนไข้เป็นเรื่องประเสริฐ แต่อย่าลืมดูแลตัวเอง และคนข้างหลัง เราไม่ได้จะเรียนจบออกมาเพื่อทำงานจนตายไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง และทิ้งคนข้างหลังเอาไว้โดยไม่มีโอกาสได้ดูแลใครในครอบครัวเลย

ป.ล. ในประเทศที่พัฒนาแล้วการตายของบุคลากรในที่ทำงาน จะได้รับการสอบสวนหาสาเหตุอย่างหนัก สิ่งที่ได้จะไม่ใช่แค่คำชื่นชมในหนังสือพิมพ์รายวันหน้าหนึ่ง
Admin Dr. Jame

https://web.facebook.com/Drnextdoor/?hc ... ED&fref=nf
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







Re: รายแรกทราบว่าติดเชื้อวัณโรคจากคนไข้และเป็นเชื้อดื้อยารุน

โพสต์โดย kiatisak » 23 พ.ค. 2017, 16:00

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบแพทย์อายุไม่เกิน 30 ปี เสียชีวิตแล้ว 3 คน ซึ่งเกิดจากภาวะโรคเดียวกันคือ ติดเชื้อและเกิดภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome :ARDS) โดยแพทย์ที่ทำงานติดต่อกันยาวนานและอยู่ในสถานที่ที่มีเชื้อโรคมากอย่างในโรงพยาบาลก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงที่ทำให้เกิดภาวะเช่นนี้ได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถกำจัดปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้และซ่อมแซมได้ทัน ทำให้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้ ในการแก้ปัญหาภาระงานหนักเหล่านี้

ขอเสนอใน 3 เรื่องคือ

1. มีกฎหมายที่กำหนดชั่วโมงการทำงานของบุคลากรสาธารณสุขอย่างชัดเจน รวมถึงตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการกำลังคนแยกออกจาก ก.พ.

2. จัดการปรับปรุงอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงานของบุคลากรสาธารณสุข ให้เป็นไปตามหลักอาชีวอนามัย เมื่อเกิดเหตุบุคลาการเจ็บป่วยเสียชีวิตขึ้น ต้องสอบสวนหาความจริงว่าเกิดจากการทำงานหรือไม่ เช่น วัดปริมาณเชื้อโรคในอากาศ และหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพราะการทำงานจริงต้องมีระบบเตือนภัยเพื่อป้องกันบุคลากรคนอื่นอีก และ

3. ต้องมีการเยียวยาแพทย์ พยาบาล บุคลาการทางการแพทย์ ที่ประสบภัยนี้ ซึ่งนอกจากการค่าชดเชยแล้ว ควรมีการเชิดชูเกียรติ งดทับถมให้ร้าย ซึ่งที่ สธ.กำลังยกร่างหลักเกณฑ์การชดเชยเยียวยา ขอให้มีการคิดคำนวณอย่างมีหลักการด้วย เพราะทุกวันนี้คนทำงานขาดขวัญกำลังใจเพราะผู้บริหารขาดความใส่ใจ

http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx? ... 0000052299
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: รายแรกทราบว่าติดเชื้อวัณโรคจากคนไข้และเป็นเชื้อดื้อยารุน

โพสต์โดย kiatisak » 24 พ.ค. 2017, 08:34

พยาบาลคนหนึ่งติดวัณโรคจากผู้ป่วย ต้องหยุดพักรักษาตัวกว่าครึ่งเดือน โดยที่หน่วยงานต้นสังกัดไม่มีมาตรการเยียวยา พยาบาลคนนี้ ก่อนหน้านี้เธอต้องหยุดพักรักษาตัวนานกว่าครึ่งเดือน หลังพบว่า ตัวเองติดเชื้อวัณโรคจากผู้ป่วย แม้อาการเธอจะดีขึ้นแล้ว แต่การป่วยจากการทำงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประสบการณ์ที่เธอยังจำฝังใจ ก็ยังทำให้เธอคิดทบทวนต่อหน้าที่ของเธอ เมื่อต้องเผชิญกับการไม่มีรายได้ในช่วงนั้น..ดูต่อได้ที่ :

http://www.khonkaenlink.info/home/news/4378.html
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37


ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document