New Document









เมอร์สแค่‘เตือนย้ำ’ โรคเขย่าโลก!! ‘ต้องใส่ใจ’ลดเสี่ยง

ข่าวสารสาธารณสุข

เมอร์สแค่‘เตือนย้ำ’ โรคเขย่าโลก!! ‘ต้องใส่ใจ’ลดเสี่ยง

โพสต์โดย kiatisak » 25 มิ.ย. 2015, 15:24

เมอร์สแค่‘เตือนย้ำ’ โรคเขย่าโลก!! ‘ต้องใส่ใจ’ลดเสี่ยง | เดลินิวส์

เมอร์สแค่‘เตือนย้ำ’ โรคเขย่าโลก!! ‘ต้องใส่ใจ’ลดเสี่ยง หลังได้รับเชื้อ ก็อาจส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และอาจถึงขั้นเป็น “โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง”

เป็นสถานการณ์เกี่ยวกับโรคที่น่าตกใจสำหรับทุก ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด สำหรับกรณี ’การแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง“ อีกครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีชื่อเรียกโรคเป็นภาษาอังกฤษอย่างสั้น ๆ ว่า “เมอร์ส (MERS)” หรือชื่อภาษาอังกฤษแบบเต็ม ๆ คือ “Middle East Respiratory Syndrome” หรือชื่อที่เป็นภาษาไทยคือ “โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง” ’โรคระบาด“ ยุคปัจจุบัน ’เกิดเรื่อย ๆ“ แต่

’ห้ามชิน“ ต้องมี ’สุขอนามัย“ ที่ดี!!

ทั้งนี้ ย้อนไปในช่วงก่อนหน้า ก็เกิดการระบาดของโรค “เมิร์สคอฟ” หรือ “โคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012” ในหลายประเทศของทวีปเอเชียและยุโรป ซึ่งการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในครั้งนั้น แค่ช่วงที่ยังไม่ยุติการระบาดก็คร่าชีวิตมนุษย์ไปเฉียดร้อย ซึ่งในตอนนั้นก็ตกอกตกใจกันทั่วโลก...เหมือนในตอนนี้ และ

“สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เองก็ย้ำเตือนไว้ว่า...โลกยุคปัจจุบันเป็น ’ยุคประตูโรคเปิด“ โรคระบาดจึงยิ่งดุ-ยิ่งคุมยาก!!

ช่วงที่มีการระบาดของ “เมิร์สคอฟ” ในไทยนั้น ทางสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีการให้ข้อมูลแก่คนไทยไว้ว่า อาการของโรคนี้ หลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่า ผู้รับเชื้อจะมีไข้สูง เกิดอาการไอ หายใจหอบ จากนั้นจะเริ่มหายใจลำบากมากขึ้น และอาจจะมีภาวะปอดบวมเกิดขึ้นด้วย หลังได้รับเชื้อ ก็อาจส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และอาจถึงขั้นเป็น “โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง” ซึ่งลักษณะอาการต่าง ๆ ที่ว่ามานี้จะคล้าย ๆ กับโรคระบาดเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่เกิดในยุคหลัง ๆ รวมถึงคล้าย ๆ กับโรค “ซาร์ส” ที่ระบาดเมื่อหลายปีก่อน... ที่ “มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก” สร้างความตื่นกลัวไปทั่วทุกมุมโลก ความคล้ายที่ว่านี้ ก็ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้อง “ผวา”

เมื่อมีข่าว “เชื้อไวรัสโคโรน่าอาละวาด!!”

ขณะที่ปัจจุบันเป็นยุคโลกไร้พรมแดน เป็น ’ยุคประตูโรคเปิด“ ก็ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้องมีมาตรการ “สกัดกั้น-ควบคุม” ไม่ให้เกิดการระบาดข้ามชาติ...ซึ่งประเด็นนี้ก็ ’น่ากลัว“ โดยการระบาดของ “ไวรัสอีโบล่า” เชื้อโรคร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ในประเทศกินี แถบทวีปแอฟริกา ซึ่งครึกโครมเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา... นี่ “เป็นกรณีตัวอย่างที่ต้องสนใจ” สะท้อนอีกมุมของยุคโลกไร้พรมแดน ทั้งนี้...“...การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อุณหภูมิโลก ที่เรียกว่า สภาวะโลกร้อน สภาวะนี้อาจทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงแพร่กระจายมากขึ้น อาจทำให้เชื้อโรคชนิดเดิม ๆ กลายพันธุ์ง่ายขึ้น และเมื่อโลกร้อนขึ้นก็อาจทำให้เกิดเชื้อโรคใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น...เชื้อโรคบางตัวเคยสูญหายไปในอุณหภูมิระดับหนึ่ง แต่พออุณหภูมิโลกสูงขึ้นสัก 1 องศาเซลเซียส เชื้อก็อาจฟื้นตัวกลับมา และอาจขยายแพร่พันธุ์ได้ดีกว่าในอดีต เพราะเหมือนได้วิวัฒนาการ-ได้ปรับตัวเองมาแล้ว ซึ่งอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมกับเชื้อโรค...”...นี่เป็นการระบุในทางวิชาการจากนักวิชาการ-นักวิทยาศาสตร์ ที่ ณ ที่นี้เคยสะท้อนไว้ ’สภาวะโลกร้อน“ นี่ก็อีกจุดสำคัญในเรื่องนี้ อีกปัจจัยก่อโรคที่กำลังทวีขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน... ขณะที่ทางแหล่งข่าวระดับสูงในกรมควบคุมโรคของไทยก็เคยให้ข้อมูลไว้ว่า... “...โอกาสที่ไทยจะเผชิญ โรคติดต่ออุบัติใหม่-โรคติดต่ออุบัติซ้ำ ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง...ปัจจัยเสี่ยงอาจเกิดจาก การเคลื่อนย้ายของประชากร ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้เสรีมากขึ้น ที่ อาจรวมถึงผู้ติดเชื้อโรคระบาด อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ การเคลื่อนย้ายของสัตว์ พืช อาหาร ตลอดจน ความคล่องตัวด้านการคมนาคมขนส่ง ที่มีมากขึ้น...”...ซึ่งประเด็นนี้นี่เกี่ยวโยงโดยตรงกับ ’ยุคประตูโรคเปิด“ ที่ส่งผลให้ ’โรคร้ายเขย่าโลก“ เกิดได้ง่ายขึ้น!! ทั้งนี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์ต่างก็พยายามหาวิธีพิชิตโรคระบาด-โรคร้ายแรง แต่หากสถานการณ์สภาวะโรคร้อนยังไม่มีแนวโน้มในด้านดีอย่างมาก ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ภารกิจนี้ก็อาจจะยิ่งยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องหาวิธีสู้โรคติดต่อที่อุบัติใหม่

สู้โรคติดต่ออุบัติซ้ำแต่มีความร้ายกาจใหม่ ๆ กันไม่หวาดไม่ไหว... ดังนั้น กับเรา ๆ ท่าน ๆ “ไม่ใส่ใจไม่ได้!!”...

ก็ต้องคำนึงถึงการ ดูแลโลก-ดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะเป็นการดูแลมนุษย์เอง-ดูแลตัวเราเอง ควบคู่ไปกับการ ’ดูแลสุขอนามัย“ ทั้งกับตนเอง และช่วยแนะนำดูแลสุขอนามัยคนรอบ ๆ ตัว เพื่อที่จะ ’ลดความเสี่ยง“ เพื่อที่จะ ’ลดโอกาสแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง“ ’เมอร์ส“ ที่แพร่ระบาดล่าสุด นี่แค่การ ’เตือนย้ำ“ เตือนดุแค่ไหน? จะมีอะไรมาเตือนอีก?

ยังไม่รู้ ที่แน่ ๆ คือ ’ช่วยกันลดความเสี่ยง“ ได้เป็นดี !!!

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/330200
แนบไฟล์
1088869.jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document