New Document









เชื้อไวรัสเมอร์สยังคงมีชีวิตและติดต่อได้ในอุณหภูมิ 30 องศาเซ

ข่าวสารสาธารณสุข

เชื้อไวรัสเมอร์สยังคงมีชีวิตและติดต่อได้ในอุณหภูมิ 30 องศาเซ

โพสต์โดย kiatisak » 22 มิ.ย. 2015, 09:52

แม้ว่าจะไม่มียารักษาโรคเมอร์ส แต่การที่ทำให้สุขภาพตนเองแข็งแรงที่สุด ทราบว่ามีโรคประจำตัวอะไร และควบคุมให้เข้าใกล้สภาพปกติที่สุด จะทำให้ความสุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อน่าจะลดลง และแม้แต่ถ้าโชคร้ายติดเชื้อไป อาการจะไม่ลุกลามรุนแรงมาก รวมทั้งถ้าอาการไม่รุนแรง ปริมาณไวรัสที่จะปล่อยจากตัวก็ไม่มาก และถ้าโรคไม่รุนแรงจนลามเข้าไปที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างจนถึงปอดบวม อาการไอมีเสมหะก็จะไม่หนักหน่วงจนเกิดละอองฝอยฟุ้งกระจายไปสู่คนอื่นๆ โดยที่ต้องไม่ลืมว่า ไวรัสยังคงมีชีวิตและติดต่อได้ในอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสได้นาน 8-24 ชั่วโมง โดยที่ถ้ามีความชื้นน้อยจะอยู่ได้นาน และในอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสอาจอยู่ได้นานถึง 72 ชั่วโมง

ความยากเข็ญของการเฝ้าระวังโรคเมอร์ส
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา มติชน

เมอร์สเป็นโรคที่สลับซับซ้อนตั้งแต่อุบัติในตะวันออกกลางเมื่อ ปี 2012 ก็ไม่ลุกลามรวดเร็ว โดยที่ปะทุเป็นจุดกลุ่มเล็กๆในตะวันออกกลาง และมีการส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายๆไม่ลุกลามต่อ ความน่าพิศวงของโรคมีหลายประการ เช่น รายแรกของโลก คนไข้ชาวซาอุดิอาระเบียอายุ 60 ปี มีอาการไข้ ไอ หอบมา 7 วัน เข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตใน 12 วัน ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ไม่ทราบโรคได้มาจากที่ใด เช่นเดียวกับรายแรกที่แพร่ในเกาหลี ไม่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย สัตว์ใดๆ และรายแรกในประเทศไทย (15 มิถุนายน 2015 ได้รับการวินิจฉัยยืนยันจากศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ไวรัสสัตว์สู่คน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์) โดยได้รับตัวอย่างตรวจเมื่อ 17 มิถุนายน 2015) ก็หาต้นตอการได้รับเชื้อไม่ได้

อาการของคนไข้เมื่อติดเชื้อซึ่งมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ ปอด หลอดลม โรคไต ทำให้มีอาการหอบ เหนื่อย ไอ อาจไขว้เขวคิดว่าเกิดจากโรคที่มีอยู่เดิม บดบังอาการติดเชื้อเมอร์สในระบบทางเดินหายใจ แม้แต่ผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยก็ไม่มีไข้ และการที่มีโรคหัวใจ ปอด อาจทำให้ภาพเอ็กซ์เรย์ปอดไขว้เขว หรือเมื่อมีติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน เอกซเรย์จะไม่ฟ้องรูปแบบของปอดบวมจากไวรัส

ประสิทธิภาพของการควบคุมโรคอยู่ที่ความสงสัยว่าผู้ป่วยจะติดโรคเมอร์สและควบคุมกักกันได้รวดเร็วเพียงใด แม้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการก็ตาม ตั้งแต่ก่อนที่อาการจะเป็นมาก ซึ่งเมื่อมีอาการมาก ปริมาณไวรัสที่จะถูกปลดปล่อยออกก็จะทวีขึ้นเป็นเงาตามตัว และอยู่ที่เราจะสามารถครอบตาข่ายคลุมกักกันผู้สัมผัสโรคได้ครบถ้วนหรือไม่ ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการใดๆทั้งสิ้นจนถึง 14 วันจนแน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ ทั้งนี้โดยที่ระยะฟักตัวหลังจากได้รับเชื้อจนถึงเกิดอาการผิดปกติและปล่อยเชื้อได้จะอยู่ที่ 2-14 วัน ในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อและสามารถโยงใยได้ถึงต้นตอของการแพร่ได้ อย่างเช่นที่เกาหลีซึ่งมีต้นกำเนิดจากในโรงพยาบาล อาจจะไม่รุนแรงเท่ากับการที่มีผู้ติดเชื้อและไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกี่ยวข้องกับต้นตอได้อย่างไรหรือไม่มีต้นตอใดๆทั้งสิ้น ซึ่งบ่งบอกถึงการแพร่กระจายในระดับชุมชนแล้ว และยากที่จะคุมการแพร่ในขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มียารักษาโรคเมอร์ส แต่การที่ทำให้สุขภาพตนเองแข็งแรงที่สุด ทราบว่ามีโรคประจำตัวอะไร และควบคุมให้เข้าใกล้สภาพปกติที่สุด จะทำให้ความสุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อน่าจะลดลง และแม้แต่ถ้าโชคร้ายติดเชื้อไป อาการจะไม่ลุกลามรุนแรงมาก รวมทั้งถ้าอาการไม่รุนแรง ปริมาณไวรัสที่จะปล่อยจากตัวก็ไม่มาก และถ้าโรคไม่รุนแรงจนลามเข้าไปที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างจนถึงปอดบวม อาการไอมีเสมหะก็จะไม่หนักหน่วงจนเกิดละอองฝอยฟุ้งกระจายไปสู่คนอื่นๆ โดยที่ต้องไม่ลืมว่า ไวรัสยังคงมีชีวิตและติดต่อได้ในอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสได้นาน 8-24 ชั่วโมง โดยที่ถ้ามีความชื้นน้อยจะอยู่ได้นาน และในอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสอาจอยู่ได้นานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งนำมาซึ่งสมมุติฐานว่าการที่ไวรัส ตั้งตัวและระบาดลุกลามอย่างรวดเร็วในประเทศเกาหลี นอกจากเกิดจากการที่ผู้ป่วยรายแรกเข้าไปปะปนกับผู้ป่วยอื่นๆที่อยู่แออัด และได้รับการวินิจฉัยช้า กักกันช้า อาจเกี่ยวพันกับอุณหภูมิด้วย และทำให้แพร่หลุดจากเครือข่ายที่สืบสาวที่มาว่ามาจากโรงพยาบาล

เหล่านี้คงเป็นปริศนาซึ่งทำให้การเฝ้าระวังกักโรคอาจเต็มไปด้วยความยากลำบาก ถ้าการติดเชื้อมีการยกระดับมากขึ้น กินร้อน ช้อนกลาง อาหารร้อน ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน ปิดปากจมูก เวลาไอจาม ล้างมือบ่อยๆ ไม่เอามือป้ายจมูก ป้ายตา ไม่ถ่มน้ำลาย เสมหะลงถนน ซึ่งจะเป็นการปล่อยเชื้อกระจายฟุ้งไปอีก และกักตัวอยู่บ้านเมื่อมีอาการผิดปกติ ถ้ามากขี้นไปสถานพยาบาลล่วงหน้า รายงานทางการ ถ้าคิดว่ามีความสัมพันธ์โยงใยเกี่ยวข้องกับโรคไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถือเป็นความรับผิดชอบของตนเองต่อผู้อื่นและสังคม
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document