วิกฤตหมอกควันเหนืออ่วมผู้ป่วยพุ่ง 2 พันคน

[kiatisak]

วิกฤตหมอกควันเหนืออ่วมผู้ป่วยพุ่ง 2 พันคน

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้สภาพอากาศหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเริ่มเข้าสู่สภาวะวิกฤตจากปัญหาหมอกควันที่ปกคลุมทั้งเมืองและพบว่าปริมาณฝุ่นละอองมีขนาดเล็กไม่เกิน10ไมครอน (PM 10) มีค่าเกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ สำหรับค่ามาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่จังหวัดลำปางพบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงที่สุดในภาคเหนือ ในหลายพื้นที่เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมามี PM10 เฉลี่ย 217-260 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดย 3 ตำบลของอำเภอแม่เมาะที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงสุด และเกินค่ามาตรฐานได้แก่ ตำบลสบป้าด มี PM10 217 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตำบลบ้านดง 240 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และตำบลแม่เมาะ 260 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ สาเหตุที่พื้นที่จังหวัดลำปางมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กจำนวนมากและเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดไฟป่าติดต่อกันหลายวันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดควันไฟสะสมจำนวนมากและกระจายไปในจังหวัดใกล้เคียงทั้งลำพูนและเชียงใหม่

ขณะที่สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ก็อยู่ในสภาวะวิกฤตเช่นกันโดยพบว่าหมอกควันปกคลุมมืดทึบไปทั้งเมืองตลอด2วันที่ผ่านมา โดยวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมาปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงสุดในเขตตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง อยู่ที่ 180 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเขตตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง อยู่ที่ 162 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ด้านนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงระยะนี้จังหวัดเชียงใหม่ต้องเผชิญกับวิกฤตหมอกควันปกคลุมไปทั้งเมือง ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐานและกระทบต่อสุขภาพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการวางแผนและเตรียมการป้องกันมาอย่างรัดกุมล่วงหน้าแล้ว แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นในจังหวัดลำปาง และหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับมีลมพัดมาทางทิศเหนือเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่โดยตรง และด้วยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นแอ่งกระทะ ทำให้ได้รับหมอกควันไฟมาอย่างเต็ม ๆ ทำให้ค่า PM 10 วัดได้สูงถึง 180 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ส่วนสถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่าสะสมรวม 234 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 1,699 ไร่ ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารักษาตัววันละ 1,800-2,000 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งได้มีการแจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเสี่ยงประจำโรงพยาบาลชุมชนและสาธารณสุขอำเภอแล้วจำนวน 100,000 ชิ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้เร่งประสานศูนย์ฝนหลวงภาคเหนือเพื่อดำเนินการทำฝนเทียมโดยเร่งด่วน เพราะสภาพอากาศขณะนี้ยังมีความชื้น การทำฝนเทียมจะได้ผลมากขึ้น ขณะเดียวกันทางจังหวัดจะเร่งให้ อปท.ทุกพื้นที่ฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต่อว่า ขณะนี้จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อย้ำมาตรการในการแก้ปัญหาให้เป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเร่งหาทางแก้ไขด้วยเพราะหวั่นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของประชาชนและผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดลำพูนและแพร่ ก็มีปัญหาสภาพอากาศวิกฤตเช่นกัน