นักวิจัยไทยแนะเฝ้าระวังอีโบลาในหมู หลังตปท.หวั่นเชื้อแพร่ทางอากาศ
วันที่ 30 มกราคม นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกด้านโรคติดเชื้อไวรัสสัตว์สู่คน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศตรวจวิเคราะห์เลือดจากผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาพบว่า ผู้ป่วยไม่แสดงอาการ และยังพบแบบแผนทางพันธุกรรมมีการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เปลี่ยนรูปแบบการติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้นผ่านทางอากาศ ว่า เท่าที่ทราบข้อมูลนี้ยังไม่ชัดเจน ยังไม่มีหลักฐานบอกว่าเชื้อตัวน่ามีการติดต่อผ่านทางอากาศได้หรือไม่
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เท่าที่ตนได้ศึกษาดูการวิจัยเรื่องนี้คาดว่า เป็นการทดสอบเชื้อไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในแอฟฟริกาตะวันตก โดยเทียบเคียงจากการศึกษาแพร่เชื้อไวรัสอีโบลาสายพันธุ์เรสตัน (reston ebola virus) จากลิงสู่หมู และจากหมูสู่คน แต่คนที่ได้รับเชื้อจากหมูนั้นไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า การทดสอบครั้งนี้จึงตั้งสมมติฐานว่าหมูเป็นพาหะที่สามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสอีโบลาได้ จึงทำการเลี้ยงหมูรวมกับลิงแต่ใช้ผนังลวดกั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้สัตว์ทั้ง 2 ชนิดสัมผัสกัน พบว่าในระยะเวลา 8 วัน ลิงมีอาการเหมือนโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เลยพิสูจน์ว่ามีการแพร่เชื้อจากหมูได้เช่นเดียวกับสายพันธุ์เรสตัน ที่สำคัญคือสามารถแพร่มาสู่คนได้
แต่การทดลองนี้ก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าสายพันธุ์ที่เป็นปัญหานี้ติดต่อจากหมูสู่คนผ่านทางอากาศได้หรือไม่ ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลกออกมายอมรับว่างบประมาณที่ใช้ในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาเหลือน้อยจนอาจจะทำให้การควบคุมโรคทำได้ยากขึ้น อันที่จริงการควบคุมโรคนี้ลำบากมาตั้งนานแล้ว เพราะระบบสาธารณสุขของประเทศเหล่านั้นพังยับเยิน อาสาสมัครก็น้อยลงเพราะหลังเข้าไปทำงานในพื้นที่แล้วยังต้องถูกกักตัว 21 วัน ต้องเสียงานเสียการ