New Document









‘อีโบลากลายพันธุ์’...วิกฤติขั้นสูงสุด

ข่าวสารสาธารณสุข

‘อีโบลากลายพันธุ์’...วิกฤติขั้นสูงสุด

โพสต์โดย kiatisak » 04 ก.ย. 2014, 09:55

‘อีโบลากลายพันธุ์’...วิกฤติขั้นสูงสุด

ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญอีโบลาถึงกับต้องเอามือก่ายหน้าผาก เมื่อวารสารการแพทย์ "ไซแอนซ์" ตีพิมพ์ผลงานทีมนักวิจัยระดับโลกที่ระบุว่า อีโบลาสายพันธุ์ซาร์อีร์ซึ่งกำลังระบาดอยู่นั้น เมื่อตรวจดูสารพันธุกรรมเชิงลึกพบว่า พวกมันกลายพันธุ์ไปแล้วกว่า 300 ตำแหน่ง เชื้ออีโบลาที่ถูกนำมาตรวจสารพันธุกรรมข้างต้นเก็บมาจากผู้ป่วย 78 รายในเซียร์ราลีโอน แสดงว่าพวกมันกลายพันธุ์ระหว่างแพร่กระจายจาก "คนสู่คน"

"อีโบลากลายพันธุ์ 300 ตำแหน่ง เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแค่ไหน ?"

สอบถามไปยังแพทย์ด้านไวรัสวิทยา และผู้เชี่ยวชาญจุลชีววิทยาประจำทีมติดตามเฝ้าระวังไวรัสอีโบลาของประเทศไทย ผลสรุปของเหล่านักวิทยาศาสตร์ข้างต้นคล้ายคลึงกันว่า "ตื่นเต้นมาก เพราะปกติไวรัสจะไม่กลายพันธุ์รวดเร็วและรุนแรงขนาดนี้" เปรียบเทียบกับไวรัสไข้หวัดใหญ่แล้ว แม้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่ถ้านำมาตรวจสารพันธุกรรมพบการเปลี่ยนแปลงเพียงไม่กี่ตำแหน่งหรือไม่เกินสิบตำแหน่งเท่านั้น แต่เชื้ออีโบลาตัวนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง มันพยายามดัดแปลงตัวเองสู้กับภูมิคุ้มกันของมนุษย์

"ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ตำแหน่งพันธุกรรมของอีโบลามีประมาณ 2 หมื่นกว่าตำแหน่ง กลายพันธุ์ไปแล้วถึง 300 ตำแหน่ง และไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงไปอีกเท่าไร การระบาดปี 2014 นี้ถือว่ายาวนานต่อเนื่องกว่า 7-8 เดือน ถ้าเปรียบเทียบกับการระบาดครั้งก่อนๆ สามารถควบคุมได้ภายใน 3-4 เดือน แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะยาก เพราะพื้นที่ระบาดอยู่ในชุมชนมีประชากรหนาแน่น รวมถึงการขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้เชื้อระบาดเร็วและรุนแรงกว่ารอบที่ผ่านมา"

ผู้เชี่ยวชาญไวรัสอีโบลาข้างต้น ยอมรับว่า ความน่ากลัวหรือปัญหาหนักใจมี 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1 การกลายพันธุ์ของเชื้อตัวนี้ จะทำให้มันสามารถดัดแปลงอยู่กับมนุษย์ได้ดีขึ้น อาจมีความรุนแรงน้อยลงกลายเป็นเหมือนไวรัสไข้หวัดใหญ่ หมายความว่า ที่ผ่านมาอีโบลาเป็นไวรัสเชื้อรุนแรง ใครได้รับไวรัสร้ายสู่ร่างกายจะป่วยหนัก ต้องนอนบนเตียงไม่สามารถเดินทางหรือเดินออกไปไหนมาไหนได้ แต่ถ้าอีโบลาปรับปรุงตัวเองให้รุนแรงน้อยลง คนป่วยอาจไม่ต้องนอนซมอยู่กับที่ หรืออาจมีเชื้อในร่างกายแล้วไม่แสดงออก กลายเป็นพาหะนำไปสู่คนอื่น เชื้อตัวนี้จะยิ่งกระจายไปมากกว่าเดิม ถือเป็นวิกฤติสูงสุด เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่มียารักษาแล้ว แต่อีโบลายังไม่มี

"อัตราการเสียชีวิตของไข้หวัดใหญ่มีเพียงร้อยละ 0.1 ไวรัสร้ายบางตัวอาจทำให้เสียชีวิตร้อยละ 10 ซึ่งถือว่ามากแล้ว แต่ไวรัสอีโบลามีอัตราการตายถึงร้อยละ 50-60 นั่นคือเหตุผลที่ทำไมหมอและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกถึงพยายามเตือนภัยเชื้อร้ายตัวนี้" ผู้เชี่ยวชาญจุลชีววิทยากล่าวอธิบาย

อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยข้างต้นยังทำให้มีความหวัง เนื่องจากการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของเชื้ออีโบลา ทำให้สามารถติดตามเส้นทางได้ว่ามันเดินทางติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งอย่างไร เมื่อไร และที่ไหน พร้อมกันนี้ทีมวิจัยนำเอาลำดับพันธุกรรมของไวรัสอีโบลาชุดนี้เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตหรือสังคมออนไลน์เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกช่วยกันวิเคราะห์ และตรวจดูการกลายพันธุ์ว่าส่งผลกระทบต่อยาหรือวัคซีนที่กำลังผลิตมากน้อยแค่ไหน
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document