ผศ.ดร.สมชาย เชื้อวัชรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล ยอมรับว่า อุปกรณ์ชีวนิรภัยระดับ 4 หรือระดับป้องกันสูงสุดเป็นเรื่องสำคัญมาก อยากให้ทุกฝ่ายวางแผนรับมือในเรื่องนี้ เพราะสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยอีโบลามีความรุนแรงมาก แม้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรงกับเลือดหรือเสมหะ แต่หากผู้ป่วยจามไอในอากาศก็อาจมีเชื้อผสมเป็นเหมือนหยดน้ำเล็ก ๆ หากสูดเข้าไปร่างกายจะติดเชื้อทันที
***************************************************
นักวิทย์ฯไทยผวา ! ไร้ชุดป้องกันอีโบล่า ขอ "งบฉุกเฉิน" คสช.ด่วน ! ..
การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาไวรัสอันตรายระดับสูงสุดของโลกนั้น แม้ยังตรวจไม่พบในประเทศไทย แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเริ่มรู้สึกกังวลถึงแนวทางรับมือ หากมีระบาดมายังทวีปเอเชีย โดย...เฉพาะจากคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา เนื่องจากปัจจุบันห้องแลปวิเคราะห์เชื้อโรคของไทยยังไม่มีชุดอุปกรณ์ป้องกันไวรัสร้ายระดับนี้
"ตอนนี้พวกเราไม่มีอุปกรณ์ไบโอเซฟตี้ หรือเครื่องป้องกันชีวนิรภัยระดับ 4 เลย มีเพียงระดับ 3 เท่านั้น เพราะห้องแลปในประเทศไทยยังไม่มีระดับ 4 ซึ่งต้องลงทุนเงินมหาศาล ทั่วโลกมีห้องทดลองปลอดภัยระดับ 4 ไม่กี่แห่งเท่านั้น ทุกวันนี้กำลังกลุ้มใจปรึกษากันว่า หากมีโรงพยาบาลส่งเชื้อมาให้ตรวจจริง ใครจะทำ เพราะคงไม่กล้าเสี่ยงให้ทีมนักวิจัยของเราทำแน่ ๆ คงต้องส่งไปห้องแลปต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายเกือบแสนบาท แต่ถ้าเชื้ออีโบลาระบาดหนักไปทั่วโลกจริง คงไม่มีใครช่วยเราตรวจได้ เหมือนอย่างกรณีไวรัสหวัดใหญ่ 2009 ทุกประเทศต้องช่วยตัวเอง" ศ.ดร.พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
ทั้งนี้ ชุดอุปกรณ์เบื้องต้นที่ใช้ป้องกันนักวิจัยหรือแพทย์ผู้ต้องสัมผัสเชื้ออีโบลานั้น จะเป็นชุดชีวนิรภัยพิเศษใช้ในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับสูงสุด (Biosafety Laboratory Level, BSL) และตู้ที่เก็บเชื้อไวรัสชนิดนี้ต้องมีระบบป้องกันพิเศษเช่นกัน ศ.ดร.พิไลพันธ์ ยอมรับว่า ส่วนตัวแล้วคงไม่กล้าให้บุคลากรในห้องทดลองไปรับเอาเลือดที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นไวรัสอีโบลามาตรวจวิเคราะห์อย่างแน่นอน หากไม่ได้สวนใส่ชุดชีวนิรภัยป้องกันเชื้อโรคระดับ 4 ซึ่งเป็นชุดที่มีอุปกรณ์ช่วยกรองอากาศ และต้องสวมใส่ถุงมือรวมพิเศษด้วย เพราะไม่มีใครรู้ว่าเชื้ออันตรายตัวนี้จะแพร่กระจายแบบไหนได้บ้างในระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจหาสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ
ด้าน ผศ.ดร.สมชาย เชื้อวัชรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล ยอมรับว่า อุปกรณ์ชีวนิรภัยระดับ 4 หรือระดับป้องกันสูงสุดเป็นเรื่องสำคัญมาก อยากให้ทุกฝ่ายวางแผนรับมือในเรื่องนี้ เพราะสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยอีโบลามีความรุนแรงมาก แม้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรงกับเลือดหรือเสมหะ แต่หากผู้ป่วยจามไอในอากาศก็อาจมีเชื้อผสมเป็นเหมือนหยดน้ำเล็ก ๆ หากสูดเข้าไปร่างกายจะติดเชื้อทันที
"ที่น่าเป็นห่วงคือสถานพยาบาลต่างจังหวัดบางแห่ง มีแค่หน้ากากอนามัยธรรมดา ไม่ได้มีหน้ากากพิเศษให้หมอหรือพยาบาลใส่ อยากให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันด้วย และที่สำคัญหากตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยในต่างจังหวัดแล้ว ควรมีการจัดหาพื้นที่หรือสถานกักกันโรคชั่วคราว เพื่อให้ผู้ป่วยแยกพักระหว่างส่งเลือดมาตรวจวิเคราะห์ว่าเป็นอีโบลาหรือไม่ ไม่ควรให้อยู่รวมกับผู้ป่วยคนอื่น ๆ " ผศ.ดร.สมชายกล่าวแนะนำ