New Document









มหันตภัยในโรงพยาบาล

ข่าวสารสาธารณสุข

มหันตภัยในโรงพยาบาล

โพสต์โดย kiatisak » 28 เม.ย. 2014, 10:21

มหันตภัยในโรงพยาบาล

คำพังเพยไทยโบราณที่ว่า “หนีเสือปะจระเข้” เป็นคำพังเพยที่เป็นข้อเตือนใจให้คนทั้งหลายได้ครุ่นคิดใคร่ครวญในการแก้ปัญหาหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง หรือในการผ่านพ้นจากเรื่องร้ายหนึ่ง แต่ต้องเผชิญหน้ากับอีกเรื่องร้ายที่ใหญ่โตกว่า

วันนี้ต้องกล่าวถึงเรื่องมหันตภัยในโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่รู้กันดีว่าโรงพยาบาลคือสถานรักษาพยาบาลที่ดูแลบำบัดความเจ็บป่วยทั้งหลาย เป็นที่เย็นสำหรับคนร้อนจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย แต่เมื่อหวังหนีร้อนไปพึ่งเย็นแล้ว แทนที่จะหายร้อนกลับพาลตายไปดื้อ ๆ

ในระยะไม่กี่วันนี้มีท่านผู้ใหญ่ที่รู้จักและเพื่อนฝูงล้มหายตายจากกันไปหลายคน และบางคนสาเหตุที่ตายก็เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าอย่างยิ่ง และไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร เป็นเรื่องอะไร เป็นปุ๊บ 2-3 วันก็ตายปั๊บ โดยมีเหตุผลในการแจ้งตายว่าเป็นโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต

ก็ขอป่าวประกาศให้เป็นที่รู้กันโดยทั่วกันว่า ไอ้โรคบ้านี้จะมีลักษณะและข้อที่ต้องทำความเข้าใจดังต่อไปนี้
ประการแรก มันเป็นโรคพิเศษที่มีอยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่มีอยู่ตามท้องถนนหรือแม่น้ำลำธารหรือที่บ้านหรือโรงแรม หรือแม้แต่ในโรงเรียน หรือในวัดวาอาราม เพราะเหตุที่มันมีอยู่เฉพาะในโรงพยาบาล นักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศจึงให้ชื่อมันว่า “Hospital Disease” ซึ่งฝรั่งเขาจะยอมรับและเข้าใจว่ามันเป็นโรคที่มีอยู่ในโรงพยาบาล

แต่ประเทศไทยของเรากลัวว่าคนจะกลัวโรงพยาบาล จึงไม่เรียกมันว่าโรคจากโรงพยาบาล หรือ “Hospital Disease” แต่เรียกว่าโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต

ประการที่สอง ไอ้โรคบ้านี้ถึงวันนี้ก็ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ชาติไหนได้รู้จักมันว่ามันเป็นเชื้อโรคอะไร มันเกิดขึ้นอย่างไร มันพัฒนาไปอย่างไร และมันติดเชื้อได้อย่างไร มีแต่ทราบถึงอาการว่าใครก็ตามที่ติดเชื้อโรคบ้านี้แล้วก็จะเสียชีวิตใน 24 ชั่วโมง หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกิน 3 วัน

ประการที่สาม โรคบ้าที่ว่านี้มันจะเกิดขึ้นในขณะที่คนไข้เข้าไปถึงโรงพยาบาลและในเวลาใดเวลาหนึ่งที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และเมื่อเข้าถึงกระแสโลหิตแล้วจะทำให้เลือดเป็นพิษ และเกิดอาการวายอย่างทั่วด้าน คือไตวาย ตับวาย หัวใจวาย และชีวาวายในที่สุด มีการทราบอย่างมากที่สุดในขณะนี้ก็แต่เพียงว่าภาวะที่จะติดเชื้อบ้านี้จะมีลักษณาการสองอย่าง คือ คอเรสเตอรอลในตัวผู้ป่วยต่ำกว่าปกติ และภูมิต้านทานของร่างกายต่ำกว่าปกติ

ดังนั้นหากใครสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าโรงพยาบาลโดยที่ไม่รู้ตัวว่าคอเรสเตอรอลในตัวต่ำกว่าปกติ หรือภูมิต้านทานต่ำกว่าปกติแล้ว ก็จะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของโรคบ้านี้ทันที จึงมีความเสี่ยงสูงมาก

ผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับเชื้อโรคกลายพันธุ์ ไม่ว่าโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส หรือโรคเอดส์ ตั้งข้อสมมติฐานว่าเชื้อที่ว่านี้ไม่มีลักษณะแน่นอน เป็นการกลายพันธุ์และพัฒนาการเรื่อยไป เรียกว่าเปลี่ยนโครงสร้างเรื่อยไป และโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงเรื่อยไปนี้ บางครั้งก็มีขีดความสามารถในการทำให้ชีวาวายอย่างรวดเร็ว รุนแรง บางทีก็ช้าหน่อย หรือถ้าบางทีโครงสร้างเกิดสมดุลดีขึ้นมาก็ไม่เป็นพิษเป็นภัย ก็สุดแท้แต่บุญกรรรมว่าใครพบกับโครงสร้างแบบไหนในขณะใดขณะหนึ่ง

ที่น่าแปลกประหลาดก็คือทุกโรงพยาบาลและนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายกลับไม่ให้ความสนใจในการศึกษาทำความเข้าใจหรือป้องกันหรือสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อบ้านี้กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย
ปล่อยให้เป็นไปตามยถาบุญ ยถากรรม กระทั่งใช้เป็นเหตุผลอันหนักแน่นเกี่ยวกับการตายที่ทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ เลย
บางคนอย่างเช่นเพื่อนรักคนหนึ่งซึ่งมีอาการท้องเสียเพราะไปกินลูกชิ้นปลา ภรรยาพาเข้าโรงพยาบาลตอนตีสองเพื่อให้น้ำเกลือ แต่แล้วกลับติดเชื้อในกระแสโลหิต และเสียชีวิตในเวลาเพียง 2 วัน น่าเวทนานัก
นำความมาแสดงได้อย่างนี้มิได้มุ่งมาดปรารถนาว่าร้ายโรงพยาบาล และวงการแพทย์ แต่ปรารถนาให้คนทั้งหลายได้สังวรเอาไว้ว่า เวลาใดก็ตามที่จะเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ก็ให้ตั้งใจเตรียมตัวกันไว้บ้างว่า หากโชคร้ายอาจต้องเผชิญกับโรคบ้าที่ว่านี้ จึงไม่พึงตั้งอยู่ในความประมาทเป็นอันขาด

จะมีความปลอดภัยมากขึ้น ถ้าหากสามารถทราบได้ก่อนว่า ณ เวลานั้นคอเรสเตอรอลในร่างกายไม่ได้ต่ำกว่าปกติ และภูมิต้านทานไม่ได้ต่ำกว่าปกติ

เพราะถ้าหากมีภาวะต่ำกว่าปกติดังกล่าวแล้ว ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในกระแสโลหิตหรือเป็นโรคบ้านี้ก็จะมากขึ้น จึงพึงประวิงเวลาเอาไว้ก่อน จนกว่าความต่ำกว่าปกติของทั้งสองเรื่องนี้ได้กลับคืนดีเสียก่อนก็จะมีความปลอดภัยมากขึ้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติวัตรของสงฆ์ให้ฉันน้ำมันเนยข้น น้ำมันเนยใส ได้แม้ในเวลาวิกาล หรือในเวลาป่วยเจ็บ ซึ่งวันนี้ก็เพิ่งรู้กันว่าเป็นการสร้างความปกติให้ทั้งกับคอเรสเตอรอลและภูมิต้านทานดังว่านี้เป็นที่อัศจรรย์

จึงต้องประกาศพระพุทธพจน์อีกครั้งหนึ่งว่า “ธรรมจักรอันเรายังให้เป็นไปแล้ว จักไม่มีเทพ พรหม มาร มนุษย์ ยักษ์ นาค ใด หมุนกลับให้เปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ว่าในกาลไหน ๆ”.

http://www.naewna.com/politic/columnist/12185
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document