New Document









สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรับและ

ข่าวสารสาธารณสุข

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 10 มิ.ย. 2013, 08:49

ด็อกเตอร์หญิงไทย จบจากฝรั่งเศส หวิดตายเพราะขี้นก ... และเชื้อราในอากาศ (หน้า3)
แนบไฟล์
fungi-in-pigeon's-fecus-3-(small).jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37







Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 10 มิ.ย. 2013, 08:50

ด็อกเตอร์หญิงไทย จบจากฝรั่งเศส หวิดตายเพราะขี้นก ... และเชื้อราในอากาศ (หน้า4)
แนบไฟล์
fungi-in-pigeon's-fecus-4-(small).jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 10 มิ.ย. 2013, 08:50

ด็อกเตอร์หญิงไทย จบจากฝรั่งเศส หวิดตายเพราะขี้นก ... และเชื้อราในอากาศ (หน้า5)
แนบไฟล์
fungi-in-pigeon's-fecus-5-(small).jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 11 มิ.ย. 2013, 14:49

รอยเตอร์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกประเทศเฝ้าระวังคนไข้ที่มีอาการคล้ายติดเชื้อโคโรนาไวรัสตะวันออกกลาง (Middle East Syndrome Coronavirus - MERS) ซึ่งมีโอกาสแพร่กระจายจนอาจถึงขั้นเป็น “โรคระบาด” วานนี้ (10)

WHO ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดต่างๆ โดยระบุว่า ทุกประเทศควรเฝ้าระวังการติดเชื้อโคโรนาไวรัสตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับเมื่อไข้หวัดนก H5N1 แพร่ระบาดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รวมถึงไวรัส H7N9 ซึ่งพบผู้ป่วยรายแรกในจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“เราพยายามหาข้อมูลเท่าที่จะทำได้ และรู้สึกเป็นกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสเหล่านี้” แอนดรูว์ ฮาร์เปอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของ WHO ว่าด้วยความมั่นคงสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เผยต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เชื้อ MERS จะกลายสภาพเป็นโรคระบาด

แนวทางปฏิบัติเบื้องต้นซึ่งจะร่างเสร็จภายในสิ้นปีนี้ยังเอ่ยถึงบทเรียนจากการระบาดของเชื้อไข้หวัดหมู H1N1 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 200,000 ราย ในช่วงปี 2009-2010

“ทุกประเทศต่างกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสชนิดนี้ เพราะมีความเป็นไปได้ที่มันจะแพร่กระจายไปทั่วโลก เราพบตัวอย่างหลายกรณีที่ไวรัสแพร่จากประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศหนึ่งผ่านผู้ที่เดินทาง”

ไวรัส MERS ได้แพร่จากตะวันออกกลางไปยังอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอิตาลี และยังพบผู้ติดเชื้อในจอร์แดน, กาตาร์, ตูนิเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

“ดังนั้น ขอให้ทุกประเทศย้ำเตือนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ตระหนักถึงการมีอยู่ของไวรัสชนิดนี้ รวมถึงอาการป่วยที่จะเกิดขึ้นเมื่อคนไข้ได้รับเชื้อ และหากพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ ขอให้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไวรัส MERS”

โคโรนาไวรัสตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นไวรัสในตระกูลเดียวกับซาร์ส (SARS) เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปีที่แล้ว หลังพบผู้ป่วยรายแรกในซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวม 55 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 31 ราย

แม้ต้นตอของไวรัสชนิดนี้จะยังเป็นปริศนา แต่การที่ผู้ป่วยมักเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน หรืออยู่ในสถานบริการสาธารณสุขแห่งเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าเชื้อยังสามารถแพร่กระจายอยู่ในวงจำกัดเท่านั้น

WHO เตือนให้กลุ่มประเทศตะวันออกกลางยกระดับการเฝ้าระวังเชื้อไวรัส MERS แต่ยังไม่ออกคำแนะนำใดๆ สำหรับชาวมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเตือนตุลาคมนี้
แนบไฟล์
sars.jpg
sars.jpg (51.22 KiB) เปิดดู 22511 ครั้ง
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 13 มิ.ย. 2013, 10:13

Retroscreen collaborate with Sharp to tackle airborne viruses

Retroscreen Virology Limited, global leaders in anti-viral research, clinical trials and experimental challenge studies, is pleased to announce that it has successfully completed a project for The Sharp Corporation, a leading developer and manufacturer of appliances for the consumer and business markets. Sharp has developed new air purifiers with plasmacluster ion (PCI) technology and Retroscreen was involved in testing them for their anti-viral properties.

Retroscreen reports that the results are positive.

In principal, Sharp’s PCI technology works by splitting water molecules

and oxygen molecules into charged atoms (ions) of hydrogen and oxygen. These ions are drawn to airborne particles such as viruses and upon contact, form hydroxyl. Hydroxyl is very unstable and can permanently destroy the virus by robbing it of its hydrogen atoms.

Retroscreen Virology, specialists in anti-viral research, was asked to test how effective Sharp’s PCI technology actually was at removing airborne virus particles such as influenza. Viruses were suspended in a 1m3 box and the rate of virus removal from the air was measured. In this controlled environment, Retroscreen found that in just ten minutes, virtually all airborne viruses were inactivated when compared to controls.

Dr. Robert Lambkin-Williams, Managing Director of Retroscreen Virology Limited, commented: "We were delighted to test Sharp’s technology and are very pleased with the results. This type of technology could be very effective in reducing the risk of infection, particularly as we approach the flu season. Retroscreen has also been involved with testing nanomaterials for their anti-viral properties, and together, this highlights how new technologies developed by physicists as well as biologists, can be extremely effective at preventing the spread of infectious diseases".

Dr Lambkin-Williams and virology expert Professor John Oxford have given seminars on the use of ion technology for anti-viral purposes. In conjunction with Sharp, they have recently presented in Tokyo and Shanghai.

- ENDS -

For further information:

Retroscreen Virology Limited
Robert Lambkin-Williams, Managing Director Tel: +44 (0) 20 8709 4900
rlw@retroscreen.com http://www.retroscreen.com



Media enquiries:

Abchurch
Stephanie Cuthbert / Simone Alves Tel: +44 (0) 20 7398 7700
stephanie.cuthbert@abchurch-group.com http://www.abchurch-group.com



Notes to Editors

Retroscreen are global leaders in anti-viral research, clinical trials and experimental challenge studies. Based in London, the Company currently employs over 50 people, generating a turnover (2006/7) of approximately £5 million. Retroscreen conducts virucidal and virustatic testing, pre-clinical and clinical trails for global pharmaceutical and biotechnology companies that are developing antiviral drugs and vaccines. The Company is ISO9001 accredited and is partnered with a number of leading UK universities, including Queen Mary, University of London.

Clinical trials: Retroscreen conducts approximately five clinical trails each year, which involve several hundred candidates each, carefully selected from a database of over 4000 people. The Company offers a comprehensive service from protocol and case report form design through to effecting and co-ordinating the study, and it is currently expanding into data management and monitoring. The Company is especially renowned for its unique experimental challenge studies, conducted under strict quarantine conditions at its UK Flu Camps (see http://www.flucamp.com).

Pre-clinical: Retroscreen has invested in the development and optimisation of in vitro antiviral assay techniques for preclinical trials. The Company specialises in assays for respiratory viruses such as influenza, RSV, and rhinovirus (the common cold), as well as gastrointestinal viruses and HIV among others.

Retroscreen is also part of a consortium led by QinetiQ Nanomaterials Limited, a wholly owned QinetiQ subsidiary, which is developing a range of viral treatments from nanomaterials. The two year programme, which was completed recently, was funded by the South East England Development Agency (SEEDA) who allocated £2 million to the project.

Furthermore, Retroscreen is the lead participant in the European Surveillance Network for Vigilance against Viral Resistance (VIRGIL), which was established with a grant of £9 million from the European Union. Virgil is a network of excellence that aims to integrate and coordinate the activities of doctors and scientists from institutions across Europe who are investigating viral resistance.

For more information on Retroscreen please visit http://www.retroscreen.com

About Sharp Corporation: Founded in 1912, Sharp Electronics is a leading developer and manufacturer of electronic equipment, appliances and components for the consumer and business markets, with a key focus on high definition LCD TVs, photovoltaic (solar electric) systems and document solutions. It can claim one of the widest portfolios of business and lifestyle products under a single brand name in the world.

Sharp is listed on the FTSE4Good Global Index and aims to be an environmentally advanced company that balances business growth and environmental protection. To help equalize greenhouse gas emissions, Sharp focuses its extensive research and development on energy-saving and energy-creating products.



http://www.retroscreen.com/news-publications/story/retroscreen-collaborate-with-sharp-to-tackle-airborne-viruses/
แนบไฟล์
retroscreen.jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 22 มิ.ย. 2013, 18:56

?เมอร์ส?ไวรัสมรณะ

ร้ายกว่า?ซาร์ส?โอกาสเสียชีวิต65%

ซาอุฯตายแล้ว32ราย/WHOถกรับมือ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน วารสารการแพทย์ นิวอิงแลนด์เผยแพร่รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับ?ไวรัส มิดเดิล อีสต์ เรสปายราทอรี ซินโดรม(Middle East respiratory syndrome)หรือ?เมอร์ส?ที่จัดทำโดยคณะนักวิจัยนานาชาติระบุว่าผลจากการศึกษาผู้ติดเชื้อ 23 รายซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 15ราย จากโรงพยาบาล 4 แห่งในซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดพบว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 65 สูงกว่า ไวรัส ซาร์ส ที่มีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ60

ปัจจุบันซาอุดิอาระเบีย มีผู้ติดเชื้อไวรัส เมอร์ส 49 คนโดย 32 คนในจำนวนนี้ได้เสียชีวิตแล้ว ซาอุดิอาระเบีย รายงานพบการติดเชื้อรายแรก เมื่อเดือนเมษายนปี 2555และต่อมาพบการติดเชื้อในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ อิตาลี ตูนิเซียและฝรั่งเศส ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 64 คน เสียชีวิตไปแล้ว 39 คน เท่ากับมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 59

ดร.ทริช เพิร์ล นักระบาดวิทยาอาวุโส ที่ศูนย์การแพทย์ จอห์น ฮิปกิ้น หนึ่งในทีมผู้วิจัย บอกว่าไวรัสมีความคล้ายคลึงกับไวรัส ซาร์ส แต่มีความรุนแรงและอันตรายกว่ามาก ซึ่งเธอยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ไวรัสดังกล่าวแพร่กระจายได้อย่างไร ผ่านน้ำลายจากการไอและจามหรือไม่ หรือแพร่ระบาดด้วยวิธีการอื่น เนื่องจากพบว่า คนไข้หลายรายในโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส กลับได้รับเชื้อและแสดงอาการ ขณะที่ แพทย์ก็พบกับความยากลำบากในการรักษาและควบคุมอาการเพราะที่ผ่านมา ยังไม่ทราบเกี่ยวกับข้อมูลของไวรัสดังกล่าวมากพอ จึงไม่สามารถให้การรักษาได้ตรงจุด

โดยเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกหรือWHOจะมีการประชุมกันที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์สและหาหนทางในการรับมือ ก่อนที่จะถึงเทศกาลรอมฎอนในเดือนหน้าซึ่งจะมีชาวมุสลิมหลายล้านคนเดินทางไปประกอบพิธีแสวงบุญยังประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุด

สำหรับไวรัส เมอร์ส อยู่ในตระกูลโคโรน่า-ไวรัส เช่นเดียวกับไวรัส ซาร์ส ที่เคยระบาดทั่วโลกเมื่อปี 2546 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800คนซึ่งรายงานการศึกษาล่าสุดระบุว่าไวรัส เมอร์ส มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าและแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้อย่างรวดเร็วโดยจากผู้ป่วยกรณีศึกษา23คน พบว่า 21คน ติดเชื้อจากคนสู่คน ระยะฟักตัวของไวรัส เมอร์ส-คอฟ ใช้เวลาเฉลี่ย4วันและร้อยละ95ของผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการป่วยภายใน10วัน
แนบไฟล์
mers.jpg
mers.jpg (94.45 KiB) เปิดดู 22493 ครั้ง
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 23 มิ.ย. 2013, 04:28

กลไกการทำงานฆ่าเชื้อโรคด้วย Plasmacluster Air Sterilizer

http://www.youtube.com/watch?v=w-e_Dd4-zJY
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 17 ก.ค. 2013, 03:49

องค์การอนามัยโลกแจ้งเตือนให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศ ดำเนินการเฝ้าระวังโรคในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน และติดตามรูปแบบความผิดปกติต่างๆ อย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 ในผู้เดินทางที่กลับมาจากตะวันออกกลางและมีอาการทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน

โคโรนาไวรัสคืออะไร? อันตรายแค่ไหน? เรามีข้อมูลจากศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพมาฝากเป็นความรู้เพื่อรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดกันมาติดตามกัน

ทำไมถึงต้องตามติดผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012

ล่าสุดตรวจพบผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2012 แล้ว รวม 77 ราย เสียชีวิต 42 ราย โดยพบรายงานผู้ป่วยทั้งหมด จาก 9 ประเทศ ดังนี้ จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี และอิตาลี โดยส่วนมากพบผู้ป่วยในประเทศซาอุดิอาระเบีย

รูปเชื้อโคโรนาไวรัส ภาพมาจาก Dr. Fred Murphy, Sylvia Whitfield CDC 1975 (15523)

เชื้อไวรัสโคโรนา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2508 เป็นไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว (single stranded RNA virus) ในตระกูล Coronaviridae ซึ่งประกอบด้วยสายพันธุ์ย่อยหลายชนิด สามารถทำให้เกิดโรคได้ทั้งในคนและสัตว์ เช่น หนู สุนัข แมว กระต่าย ไก่ วัว กระบือ สุกร ขณะนี้ไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคในคนที่รู้จักมี 6 ชนิด โดย 4 ชนิดทำให้เกิดโรคไข้หวัด และอีก 1 ชนิดทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ "โรคซาร์ส"

ถึงแม้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะมีอาการแสดงคล้ายโรคซาร์ส (SARS-CoV) ที่เคยระบาดมาก่อน แต่เชื้อที่ทำให้ก่อโรคมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน จากการศึกษาทางพันธุวิทยาของเมอร์ส พบว่า มีความใกล้ชิดกับโคโรนาไวรัสของค้างคาว แต่ในปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปถึงวิธีการติดต่อ และแหล่งโรคได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดจากสัตว์ชนิดใด โดยพบว่าผู้ป่วยส่วนมากมีอาการป่วยหลังจากเดินทางกลับจากประเทศในตะวันออกกลาง โดยพบว่ามีการระบาดของเชื้อเกิดขึ้นภายในโรงพยาบาล บริเวณภาคตะวันออกของประเทศซาอุดิอาระเบีย ผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ ได้แก่ ญาติใกล้ชิดของผู้ป่วยเอง ผู้ป่วยที่อยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก ห้องไตเทียม รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยด้วย และผู้ที่ติดเชื้อและมีอาการแสดงที่รุนแรงมักจะมีโรคประจำตัวร่วมด้วย

เชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 คืออะไร?

ไวรัสโคโรนาโดยทั่วไป พบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในเขตอบอุ่น มักพบในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ โดยจะพบได้ในทุกกลุ่มอายุ การติดต่อคล้ายกับโรคทางเดินหายใจ คือ ผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ จากการไอหรือหายใจรดกัน หรือจากมือที่เปื้อนเชื้อโรคสัมผัสจมูกหรือตา ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 3-4 วัน ส่วนเชื้อก่อโรคซาร์สมีระยะฟักตัว 4-7 วัน (อาจนาน 10-14 วัน) หากไวรัสอยู่ภายนอกร่างกายจะสลายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง และถูกทำลายได้ด้วยสารซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด

การติดต่อเชื้อนี้ สันนิษฐานว่าผ่านจากสัตว์และแพร่มาสู่คนเรา: รูปมาจาก http://www.nature.com/nature/journal/v4 ... 6a_F1.html

จากการศึกษาวิจัยพบว่า สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ค้างคาว ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ทั้งระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจ โดยพบว่าก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ถึงร้อยละ 35 มีอาการได้ตั้งแต่ ระดับน้อยเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา จนถึงระดับรุนแรง (โรคซาร์ส) ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด ระบบการหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 มีอาการอย่างไร?

ผู้ป่วยมักจะมีอาการของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ หรือบางคนอาจจะมีอาการของปอดอักเสบ เช่น หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก หรือบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีระบบหายใจล้มเหลวได้ และยังสามารถพบการแสดงทางอวัยวะอื่นได้ เช่นจากรายงานของกลุ่มผู้ป่วยพบว่า มักมีอาการไตวายเฉียบพลัน ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้ ระยะเวลาฟักตัวของเชื้อยังไม่ทราบแน่นอน แต่อยู่ในช่วงประมาณ 1-12 วัน ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานควบคุมโรคและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางให้สังเกตอาการภายในระยะเวลา 14 วัน

สำหรับการวินิจฉัยโรคนอกจากอาการและประวัติดังกล่าวไว้ในข้างต้นแล้ว อาจจำเป็นต้องอาศัยการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อช่วยวินิจฉัย

ผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจรุนแรงที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการที่เดินทางไปในกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางภายใน 14 วันหลังจากท่องเที่ยวในประเทศดังกล่าว หรือผู้ที่มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ภายในระยะเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางกลับมาจากกลุ่มประเทศในคาบสมุทรอาระเบีย (ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ เยเมน โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อิรัก อิสราเอล ซีเรีย จอร์แดน เลบานอน ) โดยที่จำเป็นต้องแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบด้วย

ป้องกันตัวเองจากเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 ได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันการติดเชื้อเบื้องต้นได้โดย การหลีกเลี่ยงผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อ เช่น ผู้ที่มีไข้ ไอ น้ำมูก หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด หรือที่สาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของโรคทางเดินหายใจ ควรล้างมือบ่อยครั้งด้วยน้ำและสบู่ เนื่องจากเชื้อพบได้ทั้งในอากาศ น้ำมูก และเสมหะ ซึ่งอาจปนเปื้อนที่มือของผู้ที่ติดเชื้อแล้วไปจับสิ่งของหรือวัตถุทั่วไป นอกจากนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับปศุสัตว์มีชีวิต หรือ สัตว์ป่า ในกรณีที่เดินทางไปในประเทศในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ จากข้อมูลปัจจุบัน ขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนกหรือเครียดกับโรคนี้จนเกินไป เนื่องจากแนวโน้มการระบาดมาประเทศไทยยังไม่อยู่ในระดับที่น่ากังวล อย่างไรก็ตามขอให้ผู้อ่านศึกษาข้อมูลการป้องกันและดูแลรักษาเบื้องต้นเพื่อเตรียมพร้อมในการป้องกันตนเองและครอบครัวแหล่งข้อมูลสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ , กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข,

http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/news ... ems=668WHO subdued over Middle Eastern nations’ handling of coronavirus, http://www.thestar.com/news/world/2013/ ... virus.html Interspecies transmission pathways for coronaviruses, http://www.nature.com/nature/journal/v4 ... 6a_F1.html Daily News - Manager Online - มันมาจากคนแดนไกล! โคโรนา ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012, http://www.manager.co.th/Daily
แนบไฟล์
SARS_0.jpg
SARS_0.jpg (28.99 KiB) เปิดดู 22430 ครั้ง
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 23 ก.ค. 2013, 18:54

หวัดนกคืนชีพ ... จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกรายใหม่ หลังว่างเว้นไปเกือบ 2 เดือน

ไชน่า เดลี่ - จีนตรวจพบผู้ป่วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ หลังห่างหายไปเกือบ 2 เดือน โดยผู้ติดเชื้อเป็นหญิงวัย 61 ปี จากมณฑลเหอเป่ย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ค่อนข้างแปลกประหลาดที่พบการติดเชื้อในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นเช่นนี้

รายงานข่าวกล่าวว่า หญิงวัย 61 ปี ชาวเมืองหลังฝัง มณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีน เป็นผู้ป่วยจากเชื้อไข้หวัดมรณะ เอช7เอ็น9 (H7N9) รายใหม่ที่พบในแดนมังกร หลังจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไข้หวัดดังกล่าวได้หายไปจากจีนแล้วเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา

ตามการรายงาน หญิงคนดังกล่าวได้ใกล้ชิดกับสัตว์ปีกจากตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ที่เธออาศัยอยู่ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. - 9 ก.ค. และเริ่มมีอาการไข้สูงตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ต่อมาในวันที่ 13 ก.ค. เธอได้เข้าพบแพทย์ที่ศูนย์อนามัยชุมชนหลังฝัง เพื่อทำการรักษาอาการไข้สูงที่เกิดขึ้น ทว่า เธอก็ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลท้องถิ่นทันที เนื่องจากอาการป่วยรุนแรงขึ้นแม้จะมีการให้ยาปฏิชีวนะแล้วก็ตาม และเธอก็ถูกย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเฉาหยังในปักกิ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของปักกิ่ง ออกมายืนยันเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (20 ก.ค.) แล้วว่า หญิงคนดังกล่าว ป่วยด้วยเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ เอช7เอ็น9 (H7N9) ซึ่งจากการตรวจเช็คล่าสุดในวันอาทิตย์ พบว่า สภาพร่างกายของเธอตกอยู่ในขั้นวิกฤต โดยมีอาการปอดบวม ไตและระบบทางเดินหายใจล้มเหลวฉับพลัน รวมถึงภาวะติดเชื้อใน

อนึ่ง ทางโรงพยาบาลท้องถิ่นเขตหลังฝัง ได้ทำการตรวจเช็คสภาพร่างกายของสมาชิกครอบครัว และบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยหญิงรายนี้ด้วย ทว่า ไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดมรณะนี้ในบุคคลใดๆ ส่วนตลาดสดค้าสัตว์ปีกที่ผู้ป่วยหญิงคนดังกล่าวได้ไปคลุกคลีอยู่นั้น ก็ถูกสั่งปิดทำการชั่วคราว เพื่อตรวจหาต้นตอของเชื้อมรณะต่อไป
http://www.manager.co.th/China/ViewNews ... 0000090375
แนบไฟล์
556000009495202.jpg
556000009495201.jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 11 ส.ค. 2013, 05:23

จีนพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 รายใหม่
By สำนักข่าวไทย TNA News | 10 ส.ค. 2556

กว่างโจว 10 ส.ค.-สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 รายใหม่ ในมณฑลกวางตุ้ง ทางใต้ของจีน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

สำนักงานสาธารณสุขมณฑลกวางตุ้งประกาศว่า ผลการตรวจในเบื้องต้นพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 ในผู้ป่วยเพศหญิงคนหนึ่งในเมืองหุยโจวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะนี้อาการของผู้ป่วยหญิงซึ่งมีนามสกุลว่าเฉิน อายุ 51 ปี กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ และกำลังรับการรักษาในโรงพยาบาลในเมืองหุยโจว

ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขมณฑลกวางตุ้งได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ 5 คนไปยังโรงพยาบาลเมืองหุยโจว เพื่อให้ความช่วยเหลือในการรักษานางเฉินแล้ว รายงานระบุว่า นางเฉินมีอาชีพรับจ้างเชือดสัตว์ปีกในตลาดท้องถิ่นแห่งหนึ่งมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

ส่วนประชาชน 36 คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับนางเฉินถูกกักตัวไว้สังเกตอาการแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบอาการผิดปกติใดๆ สำนักงานการเกษตรมณฑลกวางตุ้งได้จัดสรรสารฆ่าเชื้อโรคจำนวน 5 ตัน ให้กับประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

นับตั้งแต่มีการค้นพบไวรัสชนิดนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนมีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเอช 7 เอ็น 9 กว่า 130 คน รวมถึง 43 คนที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ.-สำนักข่าวไทย
http://www.mcot.net/site/content?id=520 ... 8218000297
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 16 ส.ค. 2013, 11:11

เนปาลฆ่ากำจัดไก่เพิ่ม5แสนตัว หลังคุมหวัดนกระบาดไม่อยู่
โดย kiatisak » 16 ส.ค. 2013, 11:09

เนปาลฆ่ากำจัดไก่เพิ่ม5แสนตัว หลังคุมหวัดนกระบาดไม่อยู่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน 16 สิงหาคม 2556 03:15 น.

เอเอฟพี - รัฐบาลเนปาลเมื่อวันพฤหัสบดี(15) สั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำจัดไก่ราว 50,000 ตัว ในความพยายามต่อสู้กับการระบาดครั้งใหญ่ของไข้หวัดนกในแถบรอบนอกกรุงกาฐมาณฑุ

คำสั่งดังกล่าวมีออกมาหลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการฆ่าไก่ไปแล้ว 220,000 ตัว และทำลายไข่ไก่มากกว่า 400,000 ฟองที่ฟาร์ม 30 แห่ง ในความพยายามต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่สุดในเนปาล นับตั้งแต่พบการระบาดของไข้หวัดนกครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี2009

เจ้าหน้าที่เผยว่าตรวจพบหวัดนก 62 กรณีจากการเข้าตรวจฟาร์มต่างๆ 250 แห่งใน 3 เขตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขสัตว์บอกว่าคำสั่งเพิ่มความเข้มข้นในการจำกัดสัตว์ปีกนี้ มีขึ้นหลังจากข้อกำหนดห้ามขนย้ายและซื้อขายผลิตภัณฑ์ไก่นาน 1 สัปดาห์ ล้มเหลวในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสเอช5เอ็น1

"เราไม่สามารถควบคุมมันได้ เพราะยังมีการลอบขนส่งผลิตภัณฑ์สัตว์อีกอยู่แม้มีคำสั่งห้าม" นารายัน กิมิเร โฆษกสำนักงานสาธารณสุขสัตว์บอกกับเอเอฟพี "อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เข้าร่วมต่อสู้กับเราแล้ว ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมมันได้"

องค์การอนามัยโลกระบุว่าไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกระหว่างปี 2003 ถึงวันที่ 5 กรกฎาคมปีนี้ ไปแล้ว 377 ราย อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานประชาชนเสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวในเนปาล
แนบไฟล์
nepal.jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 28 ส.ค. 2013, 11:04

WHOตามผลคุมวัณโรคในกรุง พบกทม.ติด1ใน22 ของโลกป่วยมากที่สุด จี้แรงงานต่างด้าวลงทะเบียนทุกคนเพื่อคัดกรองโรค

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.)นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณะสุขและผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก(WHO) ว่า องค์การอนามัยโลกได้มาติดตามผลการควบคุมวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยพบว่าในกรุงเทพฯมีจำนวนผู้ป่วย 10,000 รายและปีนี้มีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายจำนวน 91 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า5ปีที่แล้วถึง11เปอร์เซ็นต์โดยปัจจุบันไทยเป็นหนึ่งใน22ประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคมากและมีอัตราการเสี่ยงสูงแต่ก็ยังพบปัญหาวัณโรคในแรงงานงานต่างด้าวที่ไม่ได้ทำการละทะเบียนแรงงานซึ่งทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรค โดยกทม.จะเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุขให้ใช้ระบบกฎหมาบบังคับให้แรงงานต่างด้าวลงทะเบียนแรงงานทุกคนเพื่อง่ายแก่คัดกรองโรคซึ่งกทม.จะเป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อควบคุมและลดการแพร่กระจายของโรค

ด้าน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่าวัณโรคเป็นโรคที่มีการแพร่กระจายทางอากาศ ทำให้การป้องกันโรคทำได้ยากขึ้นโดยมีระยะการฟักตัวของเชื้อในช่วง2เดือนแรกผู้ป่วยจะต้องเข้าการรักษาทันที โดยการตรวจเสมหะและรับยาฆ่าเชื้อซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ภายใน6เดือนถ้ามี การรักษาอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาวัณโรคในระยะเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ1,000-2,000 บาท แต่หากเชื้อโรคมีการพัฒนาค่ารักษาจะสูงถึงหลักแสนบาท ขอให้ประชาชนสังเกตอาการผิดปกติหากน้ำหนักลดลงผิดปกติ มีอาการไอแห้ง มีไข้ต่ำ นานกว่า 2 สัปดาห์ สามารถเข้ารับการตรวจรักษาได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของกทม.ทุกแห่งและหากพบว่ามีเชื้อวัณโรคผู้ป่วยจะได้รับการรักษาอย่างทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

http://www.dailynews.co.th/bkk/229045
แนบไฟล์
229045.jpg
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 23 ก.ย. 2013, 16:55

“คนขับ-กระเป๋ารถเมล์” กลุ่มเสี่ยงรับและเเพร่เชื้อวัณโรคสู่ผู้โดยสาร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 08:33 น.

เปิดผลวิจัยพบ “คนขับ-กระเป๋ารถเมล์” ติดเชื้อวัณโรคถึงร้อยละ 33.15 เหตุอยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทจำกัดนาน ชี้ชัดเป็นกลุ่มเสี่ยงรับเชื้อจากผู้โดยสารและแพร่ไปยังผู้โดยสารคนอื่น เผยกลุ่มความดัน เบาหวาน หัวใจ เสี่ยงรับเชื้อมากกว่ากลุ่มอื่นร้อยละ 38.14 จี้เร่งค้นหาผู้ป่วยช่วยตัดวงจรแพร่เชื้อ

นายเบญจวรรณ เพชรสุขศิริ นักวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำเสนอเรื่อง “อัตราการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มผู้ให้บริการบนรถสาธารณะ ปี 2556” ในงานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2556 ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด ประเมินความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อวัณโรค ในกลุ่มผู้ให้บริการบนรถโดยสาร บขส.เพื่อสร้างความตระหนักและเฝ้าระวังหยุดยั้งวัณโรค ซึ่งการค้นหาผู้ป่วยจะช่วยตัดวงจรการแพร่เชื้อได้ด้วย ซึ่งผู้ขับขี่รถสาธารณะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องอยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทจำกัดเป็นเวลานาน และต้องพบกับคนจำนวนมาก หากติดเชื้อหรือเป็นวัณโรค จึงถือเป็นผู้ที่จะสามารถแพร่และทำให้เกิดการติดต่อโรคไปสู่คนวงกว้างได้

นายเบญจวรรณ กล่าวอีกว่า จากการทดสอบเลือดตามความสมัครใจในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,252 ตัวอย่าง พบว่า อัตราการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มผู้ขับรถและพนักงานที่ให้บริการบนรถโดยสารสาธารณะ มีผลบวกคือติดเชื้อ ร้อยละ 33.15 ไม่พบการติดเชื้อ ร้อยละ 66.85 พนักงานชายให้ผลบวกร้อยละ 34.52 พนักงานหญิงให้ผลบวกร้อยละ 23.75 เมื่อวิเคราะห์ตามอายุ พบว่ากลุ่มอายุ 41-50 ปี ให้ผลบวกมากที่สุดร้อยละ 34.91 และจะพบในผู้ที่มีอายุงานระหว่าง 6-10 ปี มากที่สุด นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ที่มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดัน หัวใจ จะมีผลบวกสูงขึ้นกว่ากลุ่มอื่นร้อยละ 38.14 อย่างไรก็ตาม พนักงานที่ให้บริการบนรถสาธารณะมีอัตราการติดเชื้อวัณโรคสูงกว่าบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพดี โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการนั้น ถือเป็นกลุ่มที่ควรเฝ้าระวัง ซึ่งร้อยละ 10 ของวัณโรคระยะแฝงจะเสี่ยงเกิดวัณโรคปอดได้ภายใน 10 ปีด้วย

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000119505
แนบไฟล์
tb3.jpg
tb3.jpg (56.07 KiB) เปิดดู 22158 ครั้ง
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

Re: สำหรับโรงพยาบาลที่สนใจทดสอบระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการตั้งรั

โพสต์โดย kiatisak » 26 ก.ย. 2013, 04:03

ไม่ต้องลือ ตรวจพบจริงๆ ... คนขับรถโดยสารติดเชื้อวัณโรคกว่า 30%
ใครนั่งรถตู้ รถเมล์ ต้องระวัง !!! เชื้อโรคฝังตัวได้นานเกิน 10 ปี

http://www.nationchannel.com/main/progr ... 30921/3783 84227/
kiatisak
 
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 13:37

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document