"มานิต" ระบุ เตรียมถก รมว.ไอซีที เปิดช่องให้ อย.มีอำนาจปิดเว็บไซต์โฆษณาเกินจริงขัดต่อ กม.ทันที แค่เพียงแจ้งให้ไอซีทีทราบ เป็นการลดขั้นตอน แฉพบการโฆษณาเข้าข่ายกว่า 230 เรื่อง ...
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ได้หารือกับ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ในการที่จะให้อย. สามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่ตรวจสอบพบว่ามีการโฆษณาขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย หรือขายสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย.ได้ทันทีซึ่งในเร็วๆ นี้อาจจะทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ก่อนจะสามารถปฏิบัติได้จริง
"เจ้า หน้าที่ของ อย.จะต้องไปอบรมเพิ่มเติมความรู้จากไอซีทีก่อนที่จะดำเนินการได้หาก อย. สามารถปิดเว็บไซต์ที่ทำผิดกฎหมายที่ อย.รับผิดชอบอยู่ได้ทันทีไม่ต้องมีการสื่อสารหลายขั้นตอน จะช่วยร่นระยะเวลาการทำงานได้มาก การคุ้มครองผู้บริโภคทำได้รวดเร็วขึ้น จาก เดิมต้องรอ อย.ตรวจสอบ หากพบต้องแจ้งให้ไอซีทีตรวจสอบซ้ำแต่ในอนาคตเมื่อ อย.ตรวจ เจอเว็บทำผิดก็เพียงประสานให้ไอซีทีทราบ และตรวจสอบเพียงว่า อย.แจ้งมาจริงก็ปิดเว็บได้ทันที เรียกว่าเจอปุ๊บปิดปั๊บ" นายมานิตกล่าว
ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2551- 30 พ.ย. 2552 อย. รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การโฆษณาอาหารเกินจริ งและไม่แน่ใจว่าได้รับอนุญาตจาก อย.หรือไม่ จำนวน 140 ครั้ง 2. ฉลากอาหารไม่ระบุวัน เดือน ปีที่ผลิต หมดอายุหรือเลขสารบนอาหาร จำนวน 78 คน 3. นม เช่น นมยูเอชที นมผง เสียก่อนหมดอายุ มีสารปนเปื้อน และสงสัยในคุณภาพ 106 ครั้ง 4. การขายยาโดยไม่ขออนุญาต ไม่มีเภสัชกรขายวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท วัตถุเสพติด ยาไม่มีทะเบียน ยาชุดขายตรง จำนวน 132 ครั้ง และ 5. โฆษณายาเกินจริง และโฆษณาได้รับอนุญาตหรือไม่จำนวน 82 ครั้ง
เลขาฯ อย. กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเฝ้าระวังโฆษณาของศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้อง เรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรร.) ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา พบผลิตภัณฑ์สุขภาพดำเนินการ โฆษณาที่มีลักษณะน่าสงสัย จำนวน 230 เรื่องแบ่งเป็น อาหาร 95 เรื่อง ยา 32 เรื่องเครื่องสำอาง 90 เรื่องและเครื่องมือแพทย์ 13 เรื่อง ในจำนวนนี้หากจำแนกเป็นประเภทสื่อ พบว่านิตยสารมีการโฆษณามากที่สุด 196 เรื่อง เว็บไซต์ 17 เรื่อง และเคเบิลทีวี17 เรื่อง ซึ่งหลังจากตรวจพบลักษณะเช่นนี้ อย. จะตรวจสอบเพิ่มเติมหากพบว่ามีการโอ้อวดชัดเจนเท่ากับกระทำผิดแน่นอนจะส่ง เรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายแต่หากพบเป็นการโฆษณาที่ เรียบง่ายจะตรวจสอบว่าขออนุญาตโฆษณาจาก อย.ถูกต้องหรือไม่
นอกจาก นี้ เลขาธิการฯ อย. กล่าวด้วยว่า อย.ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยว กับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศปป.) ขึ้น เพื่อทำงานควบคู่ไปกับศรร.ด้วย โดย ศปป.ถือเป็นหน่วยงานเชิงรุกที่จะดำเนินการสำรวจตรวจจับผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่กระทำผิดกฎหมายและมีผลกระทบสูงต่อผู้บริโภค ดังนั้นผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าในอนาคต อย.จะยังคงมุ่งมั่นและพัฒนางานเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ สุขภาพต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง.
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/edu/53830