New Document









ไปอบรมวิจัยในคนมา

ข่าวสารสาธารณสุข

ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 11:51

ไปอบรมวิจัยในคนมา เลยสรุปมาเผยแพร่ (ตอนที่ 1)


การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพและกำหนดถ่ายทอดการศึกษาวิจัยทางคลินิก
(วิจัยในคน) แก่บุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร
ระหว่างวันที่ 2 ? 5 มีนาคม 2552 ณ โรงแรมลองบีช ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เรื่องที่ 1 นโยบายและทิศทางการวิจันในคนด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
สถานการณ์
- สถานบริการสาธารณสุขมากกว่าร้อยละ 95 จัดให้มีบริการแพทย์แผนไทย และมากกว่าร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
- ประชาชนใช้บริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในสถานบริการสาธารณสุขภาครัฐ ร้อยละ 9.39 ในปี 2550 และ ร้อยละ 5.80 ในปี 2551
- มูลค่าการใช้ยาสมุนไพร ร้อยละ 0.8 ในปี 2547
ปัญหาอุปสรรค
- องค์ความรู้ที่ใช้ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดการศึกษาวิจัย พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีคุณภาพ มาตรฐาน
- บุคลากรขาดการยอมรับและขาดบุคลากรแพทย์แผนไทยที่เชี่ยวชาญ
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
- องค์ความรู้ ถูกต้อง น่าเชื่อถือ
- ผลิตภัณฑ์ ดี มีมาตรฐาน
- บุคลากร เก่ง มีคุณธรรม
ในปี 2552 มีแนวทางการสนับสนุนงานวิจัยในโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุข คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เอดส์ มะเร็ง ปวดเมื่อย เครียด ติดยาเสพติด โดยให้ความสำคัญกับ Efficacy Quality Safety
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม







Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 11:53

ต่อ ตอนที่ 2

เรื่องที่ 2 การวิจัยและพัฒนายาจากสมุนไพร และตัวอย่างงานวิจัย
เอกสารที่แนะนำให้อ่านและใช้เป็นแนวทางงานวิจัย
1. Research Guidelines for Evaluating the Safety and Efficacy of Herbal Medicines 1993
2. General Guidelines for Methodologies on Research and Evaluation of Traditional medicine 2000
3. WHO Guidelines for Methodologies Research and Evaluation of Traditional medicines
ความยากของการ evaluation of safety , efficacy quality of medicinal plants ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ efficacy , toxicity และปริมาณของ active constituents ได้แก่
1. Accuracy of plant identification
2. Where the plants are cultivated or collected ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องของ ชนิดของดิน อุณหภูมิ ความชื้น แสงแดด ความสูง มลพิษ อายุของพืช ฤดูกาลที่เก็บเกี่ยว ส่วนของพืชที่นำมาใช้
3. Post-harvest handling&processing
4. A single plant can contain hundreds of natural constituents

ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนายาจากสมุนไพร
ขั้นที่ 1 การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและกลไกการออกฤทธิ์ ทำให้ทราบสารสำคัญและวิเคราะห์ปริมาณได้
ขั้นที่ 2 ศึกษาทางพิษวิทยาในสัตว์ทดลอง
เมื่อทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วส่งข้อมูลการวิจัยระดับพรีคลินิกให้กรรมการจริยธรรม (Ethic Committee : EC) พิจารณาเพื่อขออนุมัติวิจัยทางคลินิก
ขั้นที่ 3 ดำเนินการวิจัยทางคลินิก Phase 1 ? 4
Phase 1 ศึกษาในคนสุขภาพดี 18-20 คนเพื่อศึกษา safety
Phase 2 ศึกษาในผู้ป่วยขนาดไม่เกิน 50 คน เพื่อศึกษา safety และ Efficacy
Phase 3 ศึกษาในผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นประมาณ 500 คน เพื่อศึกษา Efficacy
Phase 4 ศึกษาในผู้ป่วยประมาณ 1,000 คน หลังจากยาวางตลาดแล้ว เพื่อติดตามความปลอดภัยในการใช้ยา (Chronic toxicity)
รูปแบบการวิจัย
1. Before ? After study design
2. Cross ? over study design
3. Controlled trial
การวัดผล
1. ประสิทธิผลในการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ
2. ผลข้างเคียง
3. ความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการรักษา
ตัวอย่างงานวิจัย
1. ฟ้าทะลายโจร ในการรักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ เมื่อศึกษาพบว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มเติมในการรักษาโรคอุจจาระร่วง และบิด แบคทีเรีย มีฤทธิ์พอๆกับ Loperamide ในการลดการสูญเสียน้ำในลำไส้จาก E.coli enterotoxin
2. ขิง ในการรักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร
2.1 บรรเทาอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง
2.2 ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน จากการเมารถ เมาเรือ
2.3 ป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน หลังการผ่าตัด
3. ขมิ้นชัน ในการรักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร แล้วยังพบว่า
3.1 โลชั่นน้ำมันขมิ้นชัน 2.5 % ตำรับของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ป้องกันการกัดของยุงลายบ้านได้นาน 7 ชั่วโมง และป้องกันการกัดของยุงลายสวน ยุงก้นปล่อง และยุงรำคาญได้นาน 8 ชั่วโมง
3.2 ผงขมิ้นชันทาหัวสิว ทำให้สิวยุบเร็วกว่าและหายเร็วกว่า
3.3 สารสกัดขมิ้นชัน 500 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ มีประสิทธิผล และปลอดภัยในการรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม (Knee osteoarthritis) ไม่แตกต่างจากการรักษาด้วย ibuprofen 400 mg. วันละ 2 ครั้ง
4. ยาครีมบัวบก ใช้สมานแผล
5. ยาเจลพริก บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ
6. ชุมเห็ดเทศ รักษาอาการท้องผูก รักษากลากเกลื้อนที่ผิวหนังได้ แต่รักษากลากที่ผมและเล็บไม่ได้
7. ไพล รักษาอาการอักเสบ ปวดบวม ฟกช้ำ
8. พญายอ สามารถทำลายเชื้อไวรัส Vericella zoster ที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดและอีสุกอีใส ใช้รักษาแผลจาก herpes simplex, herpes zoster รักษา skin inflammation และ aphthous uleer
9. ยาบรรเทาไข้ ได้แก่ รากย่านาง รากชิงซี่ รากคนทา รากท้าวยายม่อม รากมะเดื่อชุมพร
10. ยาจันทน์ลีลา บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู
11. ยาธาตุอบเชย กับการรักษา Functional dyspepsia
12. ใบหม่อน กับฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
- รายงานวิจัยที่โรงพยาบาลสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ป่วย NIDDM ที่ได้รับ Glibenclamide ร่วมกับแคปซูลหม่อน 20 กรัม/วัน นาน 8 สัปดาห์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารเช้า (FBS) และ HbA1c อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับก่อนรับประทานหม่อนร่วมด้วย
- รายงานการวิจัยที่โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 27 ราย ได้รับสารสกัดด้วยน้ำของใบหม่อน ขนาด 2.1 กรัม/วัน แบ่งให้ครั้งละ 700 mg วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารนาน 8 สัปดาห์ ไม่มีผลลดน้ำตาลในเลือด แต่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลง 13% และ 28.5% ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ 8
13. มะระขี้นก งานวิจัยพบว่า น้ำคั้นผลสด เนื้อผลอบแห้ง สารสกัดชนิดต่างๆ ของมะระขี้นกช่วยให้ glucose tolerance ดีขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังไม่มีการศึกษาขนาดที่ใช้เป็นยา ความเป็นพิษ หรืออาการข้างเคียงอย่างเป็นระบบ
14. เพชรสังฆาต แก้ริดสีดวงทวาร มีฤทธิ์ต้านอักเสบ มีการวิจัยการใช้เพชรสังฆาตเปรียบเทียบกับ Daflon พบว่าผลการรักษาไม่แตกต่างกัน
15. เถาวัลย์เปรียง บรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง การศึกษาเปรียบเทียบกับการใช้ Diclofenac พบว่า ผลการรักษาไม่แตกต่างกัน
16. รางจืด ใช้ถอนพิษ
- โรงพยาบาลบางกระทุ่ม และโรงพยาบาลเดชอุดม ศึกษาสรรพคุณของชาชงรางจืด เพื่อต้านพิษของสารกำจัดศัตรูพืชในกลุ่ม organophosphate ชาชงรางจืดสามารถเพิ่ม activity ของเอนไซม์ cholinesterase ในเลือด แต่การศึกษายังไม่อาจสรุปผลได้
- คณะเภสัชศาสคร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาวิจัยฤทธิ์ของรางจืดในการต้านพิษต่อตับของแอลกอฮอล์ พบว่า สารสกัดด้วยน้ำของรางจืดช่วยป้องกันการตายของเซลตับจากพิษของแอลกอฮอล์ในหลอดทดลอง และในหนูขาวที่ได้รับแอลกอฮอล์
- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ใช้สมุนไพรรางจืด แก้พิษจากการบริโภคไข่แมงดาทะเลในผู้ป่วย 2 ราย พบว่ามีอาการดีขึ้น ทำให้มีแนวคิดเพิ่มเติมว่าจะสามารถนำรางจืดไปใช้แก้พิษในปลาปักเป้าได้หรือไม่ เพราะเป็น Tetrodotoxin เหมือนกัน
17. ลูกประคบ ลดการอักเสบ แก้ปวด ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 11:54

ตอนที่ 3 จ้ะ

เรื่องที่ 3 การวิจัยด้านการนวดไทยและหัตถการการแพทย์แผนไทย
ชนิดของการวิจัยที่ใช้บ่อยๆ ทางการนวดแผนไทย
Quantitative Qualitative
Experimental Nonexperimental
True experimental
Quasi experimental
Single subject Descriptive
Carrelational
Survey Participation action

กระบวนการของการทำวิจัย
1. การกำหนดปัญหาในการวิจัย
2. การกำหนดวัตถุประสงค์
3. การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
4. การสร้างสมมุติฐานการวิจัย พร้อมทั้งกำหนดตัวแปร
5. การเลือกใช้แบบแผนหรือวิธีการวิจัยให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
6. การเลือกประชากร และ/หรือ กลุ่มตัวอย่าง
7. การศึกษานำร่อง
8. การเก็บและรวบรวมข้อมูล
9. การวิเคราะห์ข้อมูล
10. การสรุปและเผยแพร่งานวิจัย
ประเด็นการวิจัยด้านการนวดไทยที่น่าสนใจ
1. ผลทางสรีรวิทยาของการนวดแผนไทย
2. การนวดแผนไทยมีกลไกลดปวดได้อย่างไร และลดได้นานเท่าไร
3. ผลการนวดไทยในการบำบัดภาวะหรือโรคต่างๆ เช่น เครียด ข้อเสื่อม ไหล่ติด ฯลฯ
4. การรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น
5. กรรดัดตนบำบัดโรค
6. การสร้างและพัฒนาอุปกรณ์ช่วยนวด
7. เทคนิคการนวดแบบต่างๆ
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 12:01

ต่อด้วยตอนที่ 4

เรื่องที่ 4 Research Design, Methodology
นักวิจัยที่ดีควรมีคุณสมบัติ
1. Interest and curiosily
2. Accept differences
3. change attitudes
4. quick enough to make a link (associate)
5. write down whatever questions you have
6. talk to people, collect ideas ever weird ideas
7. friendly relationship
8. build up a habit of observation
9. observational data
10. review English research articles
11. positive thinking
12. always share what you have found or learned
องค์ประกอบในการทำวิจัย
- เนื้อหา (content)
- วิธีการทำวิจัย (design/methodology)
- การบริหารจัดการ ( Management)
- จริยธรรม (ethics)
ลำดับขั้นในการทำวิจัย
1. กำหนดคำถามการวิจัย (research question)
2. กำหนดวัตถุประสงค์ และขอบเขตการวิจัย
3. ออกแบบการวิจัย (research design)
4. ระเบียบวิธีวิจัย (research methodology)
5. ดำเนินการวิจัย
6. วิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย
7. การนำไปใช้ประโยชน์
การตั้งชื่อเรื่องการวิจัย อาศัยหลัก PICO
P = Population
I = Intervention
C = Comparison
O = Outcome
เครื่องมือในการวิจัย
1. เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล เช่น แบบบันทึก แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ ฯลฯ
2. เครื่องมือในการทดลอง
คุณภาพของเครื่องมือ ต้องคำนึงถึง
1. ความตรง ตรงกับเนื้อหา และมี specificity
2. ความเที่ยง มี Consistency ให้ผลการวัดที่สม่ำเสมอ คงที่ แน่นอน
3. อำนาจจำแนก มี sensitivity สูง
การคัดเลือกตัวอย่างต้องคำนึงถึง inclusion criteria , Exclusion criteria และต้องกำหนด stop criteria หรือ Discontinution criteria หากตัวอย่างอยู่ในภาวะวิกฤติ หรือมีความเสี่ยงสูง
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 12:02

ตอนที่ 5

เรื่องที่ 5 การเขียน concept sheet ประกอบด้วย
1. Title
2. Proposed investigators
3. Study rationale
4. Study objectives
5. Study design and outline
6. Patient population
7. Study treatment
8. Primary Endpoint and Secondary Endpoints
9. Sample size
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย chaoya » 24 มี.ค. 2009, 12:03

มีการนำเสนอโครงร่างวิจัยที่มีผู้อาสาจะทำด้วย
1. ประสิทธิผลและความปลอดภัยในการใช้ยาเพชรสังฆาต ในการป้องกันโรคกระดูกพรุน
2. ผลของสารสกัดตรีผลา ต่อการลดความเครียดในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง (ตรีผลา ประกอบด้วย สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม)
3. การศึกษาเปรียบเทียบการใช้ยาแผนปัจจุบันในผู้ป่วย COPD กับการใช้ยาแผนปัจจุบันร่วมกับยาตำรับอภัยสาลีในผู้ป่วยนอก โรคถุงลมโป่งพอง COPD (ยาอภัยสาลี ประกอบด้วย ตัวยา 21 อย่าง)
4. ประสิทธิผลของการใช้สารสกัดจากใบหม่อนที่มีผลต่อการลดคอเลสเตอรอล
5. ประสิทธิผลของการนวดเท้าในการรักษาอาการชาเท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
6. ประสิทธิผลของการนวดไทย การประคบสมุนไพร ใน Myofacial Pain Syndrome
7. ประสิทธิผลของการนวด 5 ท่า ในการรักษาอาการตกหมอน
chaoya
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2005, 12:01
ที่อยู่: สสจ.สมุทรสงคราม

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย pharmakop » 25 มี.ค. 2009, 07:05

ครบถ้วน ครอบคลุมจริง ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย GPE » 06 เม.ย. 2009, 14:46

ไปมาเหมือนกัน สนุกมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
GPE
 
โพสต์: 201
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2004, 11:08
ที่อยู่: จ.ขอนแก่น

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย kapong » 13 เม.ย. 2009, 12:13

รับราชการเป็นเภสัชกร อยู่รพศ.
อยากศึกษาต่อด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก
โดยที่ไม่ต้องลาออกจากระบบราชการ
ใครพอมีข้อมูลบ้างครับ

ขอบคุณครับ
tualek_krub@hotmail.com
kapong
 
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 15:46

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย pharmakop » 14 เม.ย. 2009, 06:57

ต้องการวุฒิ ด้านการแพทย์แผนไทย หรือต้องการความรู้เฉยๆ เพราะแผนโบราณ เขาให้อ่านหนังสือแล้วก็ไปสอบได้ โดยมอบตัวเป็นศิษย์กับครูแผนไทยก่อน อ่านหนังสือ ไปสอบด้านเภสัชกรรม และเวชกรรมแผนโบราณ ได้ ส่วนการเรียนต่อ รู้สึกมีเรียนสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตาม ม.ราชภัฎ อยุ๋ อย่างที่ จนท. รพ.ผมไปเรียนตอนนี้ ที่ สกลนคร และ วสส.อุบลครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไปอบรมวิจัยในคนมา

โพสต์โดย weerapong_rx » 18 เม.ย. 2009, 02:11

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
เก็บรายละเอียดได้ดีมากครับ โดยเฉพาะสมุนไพรที่มีศักยภาพในระดับคลินิก
ไม่ทราบว่าจะทำการทดลองเองด้วยหรือไม่ครับ
เผื่อผมอยากจะขอความรู้เพิ่มเติมเพื่อประยุกต์กับงานของผมในอนาคตครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
weerapong_rx
 
โพสต์: 57
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2006, 17:04
ที่อยู่: London, UK


ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document