New Document









ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

ข่าวสารสาธารณสุข

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย luferial » 29 ม.ค. 2009, 20:55

สิ่งที่คุณ aspirin009 พูดนั้น คือจุดอ่อนของเภสัชกร ทั้งนั้น แต่ไม่มีใครยอมรับความจริงเลย

อยากให้ พวกคุณลอง นำความคิดเห็นของคุณ aspirin009 ไปทบทวนดูว่าเป็นจริงรึป่าว

หรือได้ แค่เถียงว่า เพื่อศักดิ์ศรี วิชาชีพอย่างเดียว แต่ข้อมูล และ เหตุผล ไมมี

แบบนี้ รบ 100 ครั้ง ก็ แพ้ 100 ครั้งแล้วครับ

ลองไปดูจุดอ่อน ของวิชาชีพ ตัวเอง แล้ว นำมาปรับปรุงจะดีกว่านะครับ
luferial
 
โพสต์: 31
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2008, 12:58







Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย kero » 29 ม.ค. 2009, 21:55

ดูดีๆ ว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้เปนความต้องการของใคร และใครเริ่ม
ใครกันหนอเปนคนออกข้อสอบ
แล้วใครกันหนอที่รู้แนวข้อสอบอยู่ก่อนแล้ว

ถ้ายุติธรรมพอ ควรจะออกตัวให้มันพร้อมกันทุกวิชาชีพ มิใช่งุบงิบอุบอิบทำกันเอง ชงกันเอง แล้วก็เที่ยวบอกคนที่ไม่เคยรู้แนวข้อสอบว่าไม่มีการเตรียมตัว ก็เเค่เรื่องของเวลาที่กลัวว่าวิชาชีพอื่นเขาจะตอบโต้ได้

วิธีแบบนี้พบเหนได้ทั่วไป กับกระทรวงนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
kero
 
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 18:31

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย aspirin009 » 29 ม.ค. 2009, 23:17

ถ้ากรอบคิดมีแค่นี้จริงๆ ก็จงเป็นผู้แ้พ้ตลอดไป
aspirin009
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2009, 14:46

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย naproxen » 30 ม.ค. 2009, 00:50

คำแนะนำเพื่ออยู่กันเป็นสุขขึ้นในwebboard
1.ไม่ชอบความเห็นใคร ก็อย่าไปอ่าน เช่น เห็นชื่อ ... ออชื่อนี้เราไม่อ่าน ไม่ตอบ ไม่พูด ไม่กล่าวถึง ทำนองตัดหางปล่อยวัดไป

2.ใครคิดว่าตนเก่งกว่าผู้อื่น ผู้อื่นโง่กว่า สอนให้แล้วตั้งเยอะทัศนคติยังไม่เปลี่ยน กรอบคิดยังเท่านี้
ถ้าสอนมากแล้วก็ยังเหมือนเดิม เราควรหยุดสอน ถ้าเรายังสอนไม่จบ บางทีอาจเข้าใจผิดคือจริงๆคนอื่นเก่งกว่าเรา หรือ เราก็โง่ หรือโง่กว่าเขา
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย adRIAmYCin » 30 ม.ค. 2009, 08:25

naproxen เขียน:คำแนะนำเพื่ออยู่กันเป็นสุขขึ้นในwebboard
1.ไม่ชอบความเห็นใคร ก็อย่าไปอ่าน เช่น เห็นชื่อ ... ออชื่อนี้เราไม่อ่าน ไม่ตอบ ไม่พูด ไม่กล่าวถึง ทำนองตัดหางปล่อยวัดไป

2.ใครคิดว่าตนเก่งกว่าผู้อื่น ผู้อื่นโง่กว่า สอนให้แล้วตั้งเยอะทัศนคติยังไม่เปลี่ยน กรอบคิดยังเท่านี้
ถ้าสอนมากแล้วก็ยังเหมือนเดิม เราควรหยุดสอน ถ้าเรายังสอนไม่จบ บางทีอาจเข้าใจผิดคือจริงๆคนอื่นเก่งกว่าเรา หรือ เราก็โง่ หรือโง่กว่าเขา
แนบไฟล์
X2963820-11.gif
X2963820-11.gif (24.55 KiB) เปิดดู 11500 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
adRIAmYCin
 
โพสต์: 862
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2008, 08:40

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย kero » 30 ม.ค. 2009, 09:43

ตกลงเรื่องนี้เปนเรื่องของการแพ้ชนะหรือเรื่องของเหตุและผล ที่ผ่านมาไม่ใช่การพูดคุยหรือแสดงความเหนเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่ายหรอกหรือ ผมว่าคนแสดงความเหนที่ผ่านมาก็ดูเปนผู้ใหญ่พอสมควร มิน่ามีความคิดเยี่ยงนี้

ผมว่านี่เปน webboard เภสัช ที่เราแสดงความคิดอิสระ โดยมิได้พาดพิงวิชาชีพอื่น การที่ผู้อื่นเข้ามาใช้เวปแห่ง ก็ควรเคารพผู้ที่อยู่ในวิชาชีพนั้น

ที่สำคัญเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้เปนเภสัชที่อยู่ รพ ชุมชน เเต่เปน ความเหนและมุมมองอีกมุมนึงของผม ไม่ได้ชวนไคท้าต่อยตี

และไม่ได้ไม่ชอบไค หรือรักไค เปนพิเศษ น้อมรับและฟังเหตุผล และเเสดงเหตุตามที่ผมประสบมาจิงๆ

ผมมิรู้หรอกว่าที่พี่อาภรณ์ทำหนังสือไปยื่นเขาอ้างอิงจากหลักการอะไร แต่มั่นใจว่าข้อมูลที่เภสัชหรือวิชาชีพอื่นที่นอกเหนือจากหมอนั้น ถูกประเมิน ต้องมิใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง หลักใหญ่น่าจะไม่เหนด้วยจากข้อมูลที่ประกาศออกมา ไม่ใช่ไม่เหนด้วยกับความขาดแคลนของหมอต่อประชากร หรือเงินที่แพทย์ควรได้รับเพราะถ้าคิดแค่นั้น แพทย์ คงต้องได้เงินน้อยกว่า ทันตแพทย์เสียอีก

ว่าถ้าวิชาชีพเหล่านั้น ทราบและรู้ว่าจะมีการประเมินและตั้งธงบทสรุปไว้แบบนี้เขาคงมีการรวบรวมข้อมูลที่ดีกว่า มีเหตุผลที่ยอมรับได้มากกว่า เสนอให้กับกรรมการได้พิจารณาจากข้อมูลจริงได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ใครดีใครได้

มิใช่หวังไปสู้รบ แพ้ชนะอะไร เพราะสุดท้าย คุณๆ ทั้งหลายก็ยังต้องทำงานร่วมกัน ขาดไคคนใดไปไม่ได้

อย่างน้อยเหตุผลที่ได้รับการชี้แจงจะได้เกิดการยอมรับ ไม่ใช่มีความคิดค้างคาในใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kero
 
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 18:31


Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย MagicTurtle » 31 ม.ค. 2009, 11:21

ในฐานะที่ทำงานใน รพ.เอกชน บอกได้คำเดียวว่า หมอนั่งยิ้ม เพราะรัฐขยับขึ้น...เอกชนก็ต้องขยับขึ้นตาม (ปั่นกันขึ้นไป ไล่เท่าไหร่ก็ไล่ไม่ทันหรอกครับ) ผลลัพธ์ไปขยับขึ้น DF ให้คนไข้ สุดท้ายใครลำบาก... ก็ประชาชนลำบาก ญาติพี่น้องเราที่ต้องไปรักษาลำบาก
การขึ้นครั้งละมากๆ ส่วนของรัฐก็ไปเบียดบังภาษีส่วนรวม... ส่วนเอกชนก็เอาภาระไปให้คนไข้ ให้สังคม
วิชาชีพพวกเราทั้งแพทย์ เภสัชฯ และพยาบาลควรทำเพื่อสังคมมากกว่า อาจมีปรับขึ้นบ้างตามสภาพเศรษฐกิจ ส่วนใครอยากได้มากขึ้นหน่อยก็ไปทำกับเอกชน หรือไปทำธุรกิจส่วนตัวซะ เอกชนสมัยนี้ก็แพงมากเพราะต้องมาแข่งจ่ายผลตอบแทนแพทย์ เภสัชฯ และพยาบาล นี่แหละ... นึกถึงอนาคตของลูกหลานเราหรือญาติเราหากเจ็บป่วยต้องเข้า รพ.เอกชน บ้างสิ...
วิชาชีพแพทย์ เภสัช พยาบาล ควรอยู่ด้วยคุณธรรม จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ตามที่ได้เรียนมา ตามคำสอนของพระบิดา เป็นที่เคารพรักของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป...
วิชาชีพไหนขาดแคลน... ก็ควรผลิตเพิ่ม... เพิ่มระยะเวลาการใช้ทุน... เพิ่มทุนที่ต้องเสียหากออกจากราชการ และแสดงความสมัครใจที่จะเรียนเพื่อกลับไปดูแลสังคม (ไม่ใช่เงิน) ตั้งแต่ก่อนเรียน
วิชาชีพไหนล้นก็ลดการผลิตเสียบ้าง... ไม่ใช่ผลิตไม่ลืมหูลืมตา... ออกมาเป็นภาระสังคม ภาระวิชาชีพ แล้วก็ไม่มีคุณภาพ (หากล้น ก็ควรลด และเน้นคุณภาพให้มากขึ้น)
รัฐควรเข้ามาควบคุม DF หรือค่าหัตถการของเอกชนบ้าง ให้มีกรอบมาตรฐาน (ไม่ให้ตั้งตามใจชอบหรือแพงเกินไป) ไม่ให้แพงเกินไป
เก็บภาษีแพทย์ภาคเอกชนให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะหมอสมัยนี้ เลี่ยงภาษีเก่ง ได้ทั้งเงินเดือนได้ทั้งค่าตรวจ แต่ไม่ยอมเสียภาษีแบบอัตราก้าวหน้า หากภาคเอกชนถูกตีกรอบเงื่อนไขมากขึ้นก็จะอยู่ภาครัฐมากขึ้น
อีกอย่างหนึ่งก็ปล่อยให้สมองไหลไป...ตามกลไกของมันเถอะ มันจะได้สะท้อนภาพความเป็นจริง แต่ผมคิดว่าจริงๆไหลไปได้ไม่เยอะหรอกครับ
1. ผมเคยชวนเพื่อนที่เป็นหมอหลายต่อหลายคนให้ลาออกมาทำงานเอกชน ส่วนใหญ่ไม่กล้าลาออก... เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง ความไม่มั่นคง มีความเสี่ยงสูง สวัสดิการก็ไม่ได้เหมือนราชการ เงินเกษียณเงินบำนาญก็ไม่มี (เอกชนส่วนที่ได้เพิ่มก็ต้องเก็บเองไว้ใช้ตอนชรา) ทำให้ดูเหมือนขาดแคลน (ที่จะมาอยู่ประจำ) ส่วนใหญ่แพทย์ชอบทำงานเป็น Past time
2. แพทย์มีการกระจุกตัวในเขตเมืองสูง กว่าครึ่งอยู่ในภาคกลาง กว่า 50% อยู่ในเขตอำเภอเมือง ทำให้ตามอำเภอชุมชนดูเหมือนจะขาดแคลน ปัญหาก็คือรัฐไม่สามารถกระจายแพทย์ไปต่างจังหวัดและต่างอำเภอได้ และแพทย์ตามโรงพยาบาลของรัฐมักเปิดคลินิกโดยใช้ฐานคนไข้โรงพยาบาลไปคลินิก พอคนไข้คลินิกมากขึ้นก็เบียดบังเวลาของรัฐไปตรวจทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย ทำให้คนไข้ดูแออัดใน รพ.รัฐ และจะหนีไปตรวจที่คลินิก คนไข้คลินิกมากเท่าไหร่หมอก็จะเบียดบังเวลาของรัฐมากขึ้นเท่านั้น และดูเหมือนรัฐจะขาดแคลน(เวลา)หมอ
3. ภาคเอกชนจริงๆ ก็ขาดแคลนหมอไม่มาก แต่หมอมักไม่กล้าลาออกถ้าไม่จำเป็น จึงเป็นกลไกต้องจ้างหมอแพงๆให้ลาออก ซึ่ง รพ.เอกชนจริงๆ เค้าก็ต้องการหมอประจำไม่มาก ต้องการจริงๆก็ 2-3 คน เพราะค่าจ้างหมอก็เป็นภาระองค์กรมากเหมือนกัน รับมากเกินองค์กรก็อยู่ไม่ได้ (หาเงินจากคนไข้ไม่พอจ่ายให้หมอ :lol: ) สังเกตุให้ดีสิ... ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี มีโรงพยาบาลเอกชนปิดไปอีกแห่ง (อยู่ไม่ได้หรอก) นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่หมอไม่กล้าออกมาอยู่เอกชนเต็มตัว
เป็นอีกมุมมองของคนที่อยู่ภาคเอกชนนะ ซึ่งอาจไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง แต่ก็อยากเห็นทั้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาล ทำงานด้วยกัน ด้วยความรัก ความสามัคคี อย่าจุดประเด็นความแตกแยก วิชาชีพเราทำเพื่อสังคม... ไม่ใช่เพื่อเงินสูงเกินงานที่ทำ ไปเบียดบังเงินภาษีหรือยกภาระให้คนไข้ อย่าทำให้รู้สึกว่าเมืองไทยเป็น "สังคมทุนนิยม... พูดจากันด้วยเงินทอง"

สุดท้ายอยากฝากเพื่อนเภสัชกรที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษา และควบคุมสถาบันที่จะผลิตเภสัชกรกันหน่อย... ตอนนี้ทั้งสถาบันรัฐและเอกชนผลิตกันไม่ลืมหูลืมตา (จบมาก็คุณภาพลดลง-โดยเฉพาะมหา'ลัยเอกชน)... ลองคำนวณดูว่าถ้าเราไม่ควบคุม อีกสิบปีข้างหน้าเภสัชกรจะมากวาดขยะข้างถนน และเดินแตะฝุ่น... เราต้องช่วยกันแล้วล่ะ ผมเคยคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ว่าต่อไปเภสัชกร
จะเริ่มล้นแล้วนะ แต่เค้าบอกว่ายังขาดอีกเยอะต้องรับเพิ่มอีก ผมล่ะงง..เพราะคนที่เป็นอาจารย์ส่วนใหม่จะอยู่กับทฤษฎีและตำราไม่ค่อยออกมาหาประสบการณ์จริงด้านสังคม อยากให้กลุ่มอาจารย์เข้ามาศึกษาและแก้ไขปัญหาของวิชาชีพด้วยครับ ... ด้วยความเคารพ
MagicTurtle
 
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2009, 15:36

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย apotheker » 31 ม.ค. 2009, 11:47

จริงๆแล้วมีงานอีกหลายอัตตราที่เป็นของเรา แต่ไม่เข้าไปทำครับ ร้านขายยาไงครับ ปล่อยให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนเราอยู่ได้ ผิดกฎหมายทนโธ่ ไม่ไปทวงคืนละครับ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย pompom » 31 ม.ค. 2009, 12:12

ตอนนี้ มอนอ ลดจำนวนนิสิตเภสัช มาเเล้วนะเห็น รหัส 51 ลดไปเหลือ pharm.d เเค่ 80 คนเอง
pompom
 
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2009, 16:22

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย MagicTurtle » 31 ม.ค. 2009, 13:12

:razz: ควรลดอย่างยิ่งยวด...และเคี่ยวให้เข้มข้น...ให้ได้เภสัชกรคุณภาพจริงๆ คงต้องช่วยกันรณรงค์ในการควบคุมการผลิตเภสัชกร
อย่างที่ apotheker พูดก็ยังไม่ถูกนัก
1.ปัจจุบันร้านยาเปิดใหม่เยอะมาก เกือบทุกตรอซอกซอย(แข่งกับSeven) เพราะจบมามากไม่รู้จะทำงานอะไรก็เปิดร้าน
2. ร้านยาดั้งเดิมที่แขวนป้ายเภสัช ซึ่งสถานะการจริงๆเภสัชกรเข้าไปทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเป็นร้านของเค้ากินเงินเดือนของเค้า ได้แต่ยิ้มมองตาปริบๆ แถมเค้ายังดูถูกว่าเภสัชฯมากินเงินเค้าเปล่าๆ (นี่พูดถึงส่วนใหญ่นะครับ) จริงๆแล้วยุคนี้เภสัชกรควรเป็นเจ้าของร้านและดูแลร้านเอง ควรถอนป้ายออกให้หมด ให้ร้านเขาเป็นประเภท ขย.2 และควบคุมยาที่เค้าจ่าย เพราะปัญหาเรื่องยาส่วนใหญ่จะเกิดกับร้านขายยาที่ไม่ใช่เภสัชฯ โดยใช้ชื่อป้ายเภสัชกรเอามาขายต่างๆได้ จึงควรถอนและคุมเข้มส่วนนี้ให้มากกว่าร้านขายยาที่เป็นเภสัชกรในที่สุดแล้ว ขย.2ก็จะหมดไป เหลือแต่ ขย.1 (ร้าน ขย.2 ร่ำรวยจากใช้ป้ายเภสัชกรหากินมานานแล้วช่วงที่เภสัชฯขาดแคลน ยุคนี้ควรคืนกลับสู่เภสัชฯได้แล้ว) แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ขย.2 เอาป้ายเภสัชมาแขวนให้เป็น ขย.1 แล้วขายยาอะไรก็ได้เพื่อเอามาจ่ายเภสัช ไม่มีการจ่ายตามวิชาการเพราะเค้าเป็นพ่อค้า แข่งเรื่องราคา และขายให้ได้มากที่สุด ซึ่งยุคสมัยนี้ควรเป็นยุคร้านยาที่เภสัชกรเป็นเจ้าของและดูแลมากกว่าพ่อค้าหมอตี๋หมอบ้าน :lol:
และแปลกที่เภสัชฯ มักคุมเข้มกับเภสัชฯ แทนที่จะคุมเข้มร้านขายยาที่ไม่ใช่เภสัชฯ เช่น ขย.2 คลินิกเถื่อน หมออนามัยที่ฉีดยาสุ่มสี่สุ่มห้า
:lol:
3. ปัจจุบันเภสัชฯ ควรหันกลับมาช่วยวิชาชีพเราให้มากขึ้น อย่าปล่อยตามยถากรรมอีกเลย เราจะไม่หน้ากลับไปมองบรรพบุรุษ(เหล่าอาจารย์)ผู้บุกเบิกวิชาชีพเภสัชกรรมว่าเขาเสียสละแค่ไหน "เภสัชกร ต้องควบคุม... และที่มีอยู่ต้องเข้มแข็งต่อสู้ เพื่ออนาคตของวิชาชีพเรา" อยากให้มีเภสัชกรเก่งๆ และทำเพื่อวิชาชีพอย่างพี่กิตติ
ส่วนเภสัชกรเต่าวิเศษ... ขอเป็นกำลังช่วย
MagicTurtle
 
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2009, 15:36

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย pharmakkk » 31 ม.ค. 2009, 13:40

ขอขอบพระคุณพี่ magic turtle มากๆ ครับ สำหรับข้อคิดเห็นดีดี ตั้งแต่อ่านมาก็เพิ่งเห็นกระทู้นี้อ่านแล้วเย็นสบายที่สุด
pharmakkk
 
โพสต์: 26
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2008, 18:05

Re: ผลความคืบหน้า การประชุมเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายล่าสุดเป็นไงบ้าง

โพสต์โดย ShioMi » 31 ม.ค. 2009, 15:25

ขอยกนิ้วให้กับความคิดของคุณเภสัชกรเต่าวิเศษเลยครับ H45

อ่านแล้วเย็นเหมือนที่คุณ pharmakkk บอก ไม่มีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลให้เห็นเลย

H59
ภาพประจำตัวสมาชิก
ShioMi
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.พ. 2007, 14:34

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document