New Document









ผลการพิจารณาค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย

ข่าวสารสาธารณสุข

Re: ผลการพิจารณาค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย

โพสต์โดย Noriko03 » 13 ก.พ. 2009, 11:47

พวกเรารุ่นพี่ต้องแสดงให้เห็นถึงพลังเภสัชกรไทยค่ะ
ไม่ใช่การริษยาแน่
เพราะ "ไม่ได้ขอให้เท่าเทียมแพทย์ หรือมากกว่า"
แต่อัตราการเพิ่มไม่ควรต่างกันมากขนาดนี้
ตอนนี้ค่าเวรแพทย์ก็ถีบตัวจากเดิม 900 บาท เป้น 1800 บาท
ขณะที่เภสัชเพิ่มจาก 600 บาทเป็น 780 บาท พอๆกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเลย
ทั้งๆที่หลักสูตรเราก็เข้มข้นเพิ่มจาก 5 ปีเป็น 6 ปี
ค่าครองชีพเราก็พอๆกับหมอ
แบบนี้เขาเรียก [b]"ต้องการความยุติธรรม" ไม่ใช่ริษยาค่ะ[/b]
Noriko03
 
โพสต์: 210
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 11:16







Re: ผลการพิจารณาค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย

โพสต์โดย Pharm_36 » 16 ก.พ. 2009, 21:11

เสนอบ้าง
1.เนื่องจากหมอรัฐบาลส่วนใหญ่ไม่จบบอร์ด (ในรพช.)แล้วรู้สึกว่ารพ.เอกชนได้เงินดีกว่า เพราะรายได้ของแพทย์สามารถเรียกเก็บจากผู้ป่วยตาดำๆได้ รัฐบาลทำไม่ได้ แต่เภสัชกรทำไม่ได้ เพราะไม่มีคนใหญ่คนโตที่เป็นเภสัชกรอยู่ในทีมพิจารณาร่างพรบ.ให้เภสัชกรสามารถเรียกเก็บเงินจากการให้บริการในส่วนของเภสัชกรได้ ทำให้รายได้ของเภสัชกรในรพ.เอกชนไม่เท่าหรือน้อยกว่าหมอ เงินรายได้จากหมอเอกชนมาจากประชาชนที่ไปหา เน้นนะครับที่ไปหา :twisted:
2.แล้วจากข้อมูลตามรพ.ต่างๆมีคนชงเรื่อง หมอขาดแคลน(ดูจากอะไรว่ะ) อ๋อดูจากข้อมูลการลาศึกษาต่อในแต่ละสาขา ทำให้เบื้องต้นสั่งการให้เพิ่มโอทีหมอแต่เพียงวิชาชีพเดียว วิชาชีพอื่นๆเต้นเป็นเจ้าเข้า แล้วตรูละไม่ต้องกินใช่ไหมเลยไม่ต้องขึ้นเงินให้(ในขณะที่น้ำมันแพง ข้าวของแพง) พอมีคำสั่งมาคนรองลงมาก็รีบ ใส่เรื่องในวาระการประชุมส่วนกลางรพ.ซึ่งก็มีแต่หมอๆทั้งหลายที่ได้รับข่าวดี ต่อมาก็เอาเข้าที่รพ.ใครรพ.มันเสนอเองสรุปเองเสร็จสรร โดยไม่ดูเงินบำรุง
3.ติดตามมาด้วยเรื่องการขึ้นเงินเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย เพราะหมอทั่วๆไปที่อยู่ตามรพช.เรียกเก็บเงินจากคนไข้ไม่ได้นี่ ก็เลยเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการหาเงินใส่กระเป๋าหมอๆๆด้วยกัน โดยไม่คิดว่ามันเป็นเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่จากคนไข้(โดยส่วนตัว คิดว่าของหมออิงจากเงินเพิ่มพิเศษ 10000 ที่หมอได้อยู่แล้ว เอามาคิดว่าต้องได้เท่านั้นเท่านี้ ไม่รู้ว่าเหาตัวไหนชงเรื่อง) ส่วนวิชาชีพอื่นๆ ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมมั้งเลยปล่อยให้ออกมาในรูปนั้น แล้วก็ลืมดูว่าไม่ได้ใส่วิชาชีพพยาบาลลงไป ก็เลยโดยรวมตัวกันประท้วง
สังคมหมอสูงขึ้นทุกวันจนสังคมวิชาชีพอื่นๆเทียบไม่ติด เพราะอะไรเพราะสังคมไม่เปลี่ยนแปลง โง่ยังไงก็โง่อย่างนั้น บริหารงานตั้งแต่หัวจรดเท้าก็มีแต่วิชาชีพหมอเท่านั้นที่เป็นหัวหน้าสูงสุด ไม่ว่าหมอคนนั้นจะโง่จะโกงกิน จะงี่เง่า เห็นแก่ตัว แต่มันก็กำหนดให้ต้องเป็นหมอที่เป็นผอ.ในวงการสาธารณสุข แล้ววิชาชีพอื่นๆละครับท่านไม่ต้องพูดถึงใครเลียดีลิ้นดีก็ได้ไปลิ้นสากๆเลียแล้วสดุดก็อยู่กับที่
เรามาตั้งรพ.สหวิชาชีพกันไหมครับพี่น้องให้อำนาจตามความเหมาะสม ไม่ใช่กำหนดตายตัวตั้งแต่เกิด
นับวันสาธารณสุขยิ่งจมดิ่งสู่เส้นทางการทำงานเพื่อเงินมากกว่าตระหนักถึงการทำงานเพื่อประชาชนผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ขึ้นทุกวัน
ทุกวันนี้ระบบสาธารณสุขขาดแคลนหมอจริงๆครับ หมอที่เห็นแก่คนไข้มากกว่าเงินตรา แต่วิชาชีพอื่นๆเค้าอุทิศตนเองให้กับงานและคนไข้จึงไม่ขาดแคลนครับ และก็ไปอยู่เอกชนเหมือนบางวิชาชีพ ถ้าการเรียกร้องของวิชาชีพอื่นๆไม่เกิดผลอย่าไปใส่ใจเลยครับพิมพ์ไปด่าไปก็เท่านั้นเพระอะไรถ้านึกไม่ออกก็อ่านข้อความผมซ้ำๆ ให้คิดว่าเราทำงานเพื่อความสุขของคนไทยที่ยากไร้ ขาดซึ่งคนเอาใจใส่และดูแลสุขภาพ ปล่อยให้บางวิชาชีพมันบ้าอำนาจของมันต่อไป
ถ้าหมอขาดจริงทำไมไม่ตั้งเกณฑ์ใหม่ในการใช้ทุน ใครจะไปอยู่เอกชน สมมตินะครับ
1.ให้ชดใช้เงิน 10 ล้าน โดยห้ามทะยอยจ่าย
2.กำหนดไปสิต้องใช้ทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี การไปเรียนต่อต้องกลับมาใช้ทุนรพ.ต้นสังกัด อีก 10 ปี ดูสิมันจะขาดอีกไหม
แก้ไขล่าสุดโดย Pharm_36 เมื่อ 19 ก.พ. 2009, 22:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
Pharm_36
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 14:54

Re: ผลการพิจารณาค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย

โพสต์โดย vinny » 19 ก.พ. 2009, 14:14

ตอบคุณ Pharm_36 ครับ
ถ้าเราไปบอกให้แพทย์ทำอย่าวงที่คุณบอก
ถ้าหมอขาดจริงทำไมไม่ไปตั้งเกณฑ์ใหม่ในการใช้ทุนว่ะ ใครจะไปอยู่เอกชน
1.ให้ชดใช้เงิน 10 ล้าน โดยห้ามทะยอยจ่าย
2.กำหนดไปสิต้องใช้ทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี การไปเรียนต่อต้องกลับมาใช้ทุนรพ.ต้นสังกัด อีก 10 ปี ดูสิมันจะขาดอีกไหม
อย่างว่าละเอาคนที่มันบริหารไม่เป็นเอาไปอยู่งานบริหารงานก็ออกมารูปนี้และ ดีแต่ใช้เงินให้หมดคลังหลวง เดี๋ยวจะไม่มีผลงานตอนสิ้นปี
เพิ่มเติมหากพี่ๆที่อยู่สมาคมเภสัชกรรม ถ้าทำได้นะครับ
1.ให้ร้านยาทุกแห่งต้องมีเภสัชกรประจำ ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่
2.กำหนดให้เภสัชกรเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้จ่ายยา โดยไม่มีข้อแม้
3.ห้ามหมอที่เปิดคลินิกจ้างลูกจ้างที่ไม่ใช่เภสัชกรทำหน้าที่จ่ายยาแทนเภสัชกร
4.ทบทวนบทบาทหน้าที่ของเภสัชกรใหม่โดยด่วน
5.ของบประมาณส่งเสริมการสนับสนุนการทำงานของเภสัชกรที่อยู่ตามรพ.ให้เต็มศักยภาพ ในด้านคลินิก
ถ้าทำได้ของให้ทำนะครับ
แล้วถ้าเขาขอให้เราทำบ้างคือ
1.ถ้าเภสัชจะไปทำงานเอกชน,เปิดร้านยา,ไปทำกับบริษัทยา,หรืออยู่ในclinicของหมอ ต้องชดใช้เงิน 10 ล้าน โดยห้ามทะยอยจ่าย
2.กำหนดว่าเภสัชต้องชดใช้ทุน 10 ปี หลังเรียนจบ เเละถ้าเรียนต่อ ก็ชดใช้ ทุนอีก 10 ปี
3.ห้ามเภสัชขายยาให้ผู้ป่วยที่ไม่มีใบสั่งจากเเพทย์เด็ดขาด คือถ้ามีคนจะมาซื้อยาต้องบอกให้ไปหาหมอก่อน
ถ้าเขาขอมาเเบบนี้บ้างเราจะกล้าให้หรือครับ ดั้งนั้นผมจึงคิดว่าทางออกนี้เป็นไปไม่ได้
ตามความคิดผม ผมว่าในปัจจุบันเเพทย์กับเภสัชเราก็ช่วยเหลือกันอยู่เเล้ว ถ้าเขาจะเล่นงานเราจริงๆเขาก็ทำได้เเค่ให้คนไปซื้อยาโดยไม่มีใบสั่งจากเเพทย์ เขาก็ฟ้องตำรวจได้เเล้ว หรือ ที่เราเอาชื่อไปเเขวนป้ายที่ร้านถ้าเขาบอกให้ไปตรวจสอบเรื่อยๆเราก็จบ
ผมจึงคิดว่าอย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยเพราะสุดท้ายถ้าเราเล่นเขาหนักๆเเล้วเขาเล่นเราคืนเราอาจจะเสียมากกว่าได้ เพราะตอนนี้เราก็มีทางในการประกอบอาชีพหลายทาง อย่างการเปิดร้านยาเราให้ใครมาคุมก็ได้โดยที่เราไม่ต้องเหนื่ยเอง ผมว่าอาชีพเราสบายกว่าเเพทย์มากเพราะแพทย์ต้องลงมือทำเองทุกอย่าง ผมจึงอยากให้เพื่อนๆลองเอาความเห้นของผมปคิดดูครับ ถ้ามันเกิดเป็นอย่างข้อความข้างบนผมว่าเราจะลำบากกว่านี้ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมออกความคิดเห็นครับ
vinny
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 20:50

Re: ผลการพิจารณาค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย

โพสต์โดย Pharm_36 » 19 ก.พ. 2009, 22:15

ตอบครับอันนั้นเป็นการยกตัวอย่างครับ
เพราะผมมองว่าการแก้ไขโดยใช้เงินไม่ใช่เป็นการดึงให้แพทย์อยู่ในวงการของรัฐ
มันเป็นแค่การใช้อำนาจที่แพทย์มีในการเอื้อประโยชน์มากกว่า ส่วนความเหมาะสม
คือสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกที แต่ที่ผมเสนอนั้นคือทางเลือกที่สามารถดึงให้แพทย์อยู่ในระบบ
ได้นานขึ้น ส่วนเรื่องการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอครับ ถ้าไม่มีใบสั่ง
ถ้าคุณจ่ายคุณก็ผิดอยู่แล้วนิในกรณีที่เป็นยาอันตราย ส่วนอื่นๆก็เหมือนเดิม งง หรือคุณขายยา
อันตรายโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ ?????? อะล้อเล่น ในบางตัวอักษรที่อ่านแล้วคิดว่ามันรุนแรง
ก็ขอให้อ่านผ่านไปนะครับอย่าใส่ใจ แต่หากบางสิ่งสามารถมีประโยชน์บาง ก็อยากเห็นมัน
เกิดขึ้นมากกว่าที่มาเถียงกัน เพราะการพิมพ์และอ่านก็เป็นการสื่อสารเพียงฝ่ายเดียว การ
ที่จะให้เข้าใจกันเลยคงยากครับ ขอบคุณที่ให้เสนอความคิดเช่นกัน แต่อาจต้องขออภัย
หากบางข้อความมันบ้าๆบอๆครับ อึดอัด
Pharm_36
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 14:54

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document