New Document









ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่ากัน

ข่าวสารสาธารณสุข

Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่

โพสต์โดย white-blue » 14 เม.ย. 2010, 14:52

1. เปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เราไม่พอใจให้มันเป็นไปตามสิ่งที่เราพอใจ

2.เปลี่ยนตัวเองผลักดันตัวเองไปยืนอยู่ในจุดที่เราพอใจ

3.พอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่

ต่างคนต่างความคิดผมว่าไม่มีใครผิดถูกนะ

สำหรับผมถ้าขอ 1 ทำไม่ได้ และยอมรับข้อ 3 ไม่ได้คงมีเหลือให้เลือกข้อเดียว.....นานาจิตตัง แต่ใครตังเยอะก็มาให้ยืมหน่อยนะพวก
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32







Re: ใช้ชื่อ "แพทย์ปรุงยา" เหมือนเิดิม เพื่อให้ศักดิ์ศรีเท่

โพสต์โดย jing » 20 เม.ย. 2010, 12:30

somasaka100 เขียน:ปัจจุบันนี้มี :wink:
ทันตแพทย์ -หมอฟัน (6ปี)
สัตวแพทย์ --หมอสัตว์ (4 หรือ 6 ปีแล้วยังไม่แน่ใจ ..ตกข่าวอยู่)
แพทย์ แยกลึกลงไป อาจเรียนเพิ่มขึ้นไปอีกหลายปี เป็นเฉพาะทาง ไปจน ถึงผู้เชี่ยวชาญ
จักษุแพทย์--หมอตา
สูตินารีแพทย์--หมอด้านผู้หญิง
กุมารแพทย์--หมอเด็ก
อายุรแพทย์--หมอด้านอายุรกรรม
วิสัญญีแพทย์--หมอด้านรมยาสลบ
ศัลยแพทย์--หมอผ่าตัด
รังสีแพทย์--หมอด้านรังสี
หรืออื่นๆๆ อีกมากมาย
แล้วจะมี เภสัชแพทย์--หมอยา(6ปี) ซักอีก 1 ประเภทไม่ได้หรือครับ 555..

ผมคิดเองครับ..ไม่มีใครเป่าหูหรือบังคับ..
เหตุผลมีอยู่ว่า

เภสัชกร
อาจเป็นคำที่หลายๆๆๆๆๆคนเข้าใจผิด โดยเฉพาะ ตจว.
ผมเป็นคนบ้านนอกมากๆๆ (ขอย้ำมากๆๆ).. อาจอยูในป่าเสียด้วยซ้ำในสภาพเมื่อเทียบกับบุคคลทั่วไป..
(ยกตัวอย่างละแวกบ้านผม ไม่รู้จักเภสัชกรซะด้วยซ้ำ ตอนผมสอบได้--คะแนนสอบตอนนั้นเข้าแพทย์สบาย
แต่ผมเลือกเข้าเภสัชศาสตร์ด้วยใจรักด้านนี้(ไม่ชอบเลือดเอาซะเลย)--แหะๆๆไม่ได้โม้นะคับ..
แต่ชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้ว่าเภสัชคืออะไร หลายคนพูดว่า
-เลี้ยงสัตว์หรือ ..ทำไมต้องไปเรียนด้วย ที่บ้านมีวัวกับไก่ตั้งเยอะ ไปเรียนเสียเวลาปล่าวๆ
-เภสัชกรคือคนหยิบยาในห้องยาใช่ไหม เห็นว่าเงินเดือนแค่ 6 พันกว่าเรียนทำไม ไปทำอย่างอื่นดีกว่า..
จ๊าก..เอาข่าวมาจากไหนเนี่ยว่าเงินเดือนแค่นี้
-เภสัชกรคือแค่พวกขายยาใช่ไหม ขายยาได้กำไรดี เอาเปรียบคนจนนะเนี่ย
-ทำไมไม่เรียนหมออนามัยหล่ะดีกว่าเยอะ สอบเข้าไม่ได้เหรอ อ้าวเป็นงั้นไป...(เจ้าหน้าทีสาธารณสุข 2ปีนั่นเอง)
-เภสัชกร จบแล้วไม่ตกงานหรือ เห็นยืนเต็มร้านยาเลย เงินเดือนลองถามแล้วได้ไม่กี่พันบาท(เหมาทุกคนว่าเป็นเภสัชกร หมดเลยอ่ะนะ)
-หรือไปเรียนพยาบาลยังดีกว่าเยอะ..อีกแล้วคับท่าน
-หรือไปเรียนเทคนิคการแพทย์ดีกว่ามั้ง
-หรือจบแล้ว หาแฟนเป็นพยาบาลสิจะได้สบาย มีคนรู้จัก..(อ้าวเหรอ สงสัยเภสัชกรไม่มีใครรู้จักมั้ง)
-เรียนทำไมตั้ง5-6ปี ..เห็นญาติที่จังหวัดนั้น จังหวัดนี้ จบ ม.3 ก็ขายยาได้แล้ว..ฟังแล้วยิ่งท้อไปใหญ่
-หรือเจ้าหน้าที่ในห้องยา เห็นจบ ม.6 ยังทำงานในห้องยาเลย(สงสัยอันนี้แน่เลยที่บอกว่าเงินเดือน 6พันกว่า)
-หรือพระบิดาและพระมารดาผมเองยังพูดว่า..เรียนเภสัชไปทำไม ค่าเทอมแพง(เนื่องจากมีญาติเรียนเอกชนอยู่
และบ้านผมก็อยู่ ชนบท ไม่ค่อยมีอันจะกินเท่าไหร่)
เรียนแพทย์ดีกว่า มีทุนด้วย ..ผมเลยต้องอธิบายต่างๆๆนานากว่าจะเข้าใจ..ซึ่งเรียนเภสัชศาสตร์ผมก็ได้ทุนยากจนทุกชั้นปี
-หรือ..ๆๆๆๆ อีกเยอะแยะมากมาย...
นี่คือสิ่งที่ประชาชนตาดำๆๆหลายท่านเข้าใจผิดคับ(ไม่รู้เหมือนกันทุกที่ไหม)
เลยถ้าเปลี่ยนศัพท์ที่เรียก
จากคำว่า เภสัชกร (คล้ายกรรมกรยังไงไม่รู้..หรือว่าเป็นจริง)


เป็นคำว่า แพทย์ปรุงยา (สมัยก่อน)....หมอยา(ตามชาวบ้านเรียก)..เภสัชแพทย์(ผมคิดเองคับ แหะๆ)
น่าจะทำให้หลายคนเข้าใจดีขึ้นไหม.....
ซึ่งหากทำงานร้านยา ผมเชื่อว่าประชาชนเกินครึ่ง คิดว่าทุกคนที่อยู่ร้านยาคือเภสัชกรหมด.. เพราะขายยาโดยเภสัชกรตลอดวัน..555

เพราะฉะนั้นต้องเพิ่มบทบาทให้ชัดเจนมากขึ้นด้วยคับ(อย่างเช่นน้องๆๆที่จบ Pharm.D ในปัจจุบัน)

แต่ต่างประเทศ ผมคิดว่า ประชาชนคงเข้าใจดีคับ คือ
คำที่ลงท้ายว่า -ist คือผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ (pharmacist... dentist...specialist หรืออื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น)
เพราะจบตามสาขาและได้วุฒิเช่น doctor of pharmacy ,doctor of dent..(ไม่แน่ใจว่าถูกไหม) และอื่นๆ

ผมการเปลี่ยนชื่อ ช่วยได้เยอะนะคับ(ผมคิดเอง) ยังคงไม่สายไป..แต่นอกจากเปลี่ยนชื่อแล้วก็ต้องกระตุ้นการทำหน้าที่หรือเพิ่มบทบาทให้มากขึ้นด้วยนะครับ อย่างน้อยก็คงทำให้หลายคนแถวบ้านผมเข้าใจได้ดีขึ้นอีกกลุ่มหนึ่งด้วย...

ส่วนการยกระดับเป็น ร้านยาคุณภาพก็ดีครับ...แต่อาจขาดประชาสัมพันธ์นะครับ..
เพราะลองสอบถามประชาชนตามต่างจังหวัด ก็ไม่มีใครรู้จักเลย..ว่าต่างจากร้านยาทั่วไปอย่างไร อาจเป็นเหตุผลให้หลายๆๆร้านที่มีความพร้อมทุกด้านไม่อยากขอเปลี่ยนเป็นร้านยาคุณภาพนะครับ เพราะไม่มีแรงดึงดูดอะไร..แต่ร้านที่เปลี่ยนเป็นร้านยาคุณภาพแล้วก็ขอยกย่องนะครับ..
...ความคิดส่วนตัวคับ..อาจไม่ตรงใจหลายท่านคงไม่ว่ากันนะครับ..

ผมรู้ว่าทุกคนมีความคิดต่างกันครับ...และฟันธงได้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนจากเภสัชกร..เป็นชื่ออื่นได้หรอกครับ.. :surprised:


ผมเห็นด้วยกับแนวคิด เภสัชแพทย์มากครับ เราเรียนด้านยามาตั้ง 6 ปี ก็สมควรที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยาที่ได้รับการยอมรับเป็นอีกสาขาหนึ่ง แต่นี่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก ทั้งนี้ดูได้จากเวลาที่คนในสังคมสงสัยหรือต้องการข้อมูลเรื่องยาก็มักจะเอ่ยถึงอายุรแพทย์หรือทีวีก็ไปสัมภาษณ์แต่อายุรแพทย์ ทั้งๆที่เรื่งยานี้เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงแต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ผมก็เลยอยากให้ใช้ชื่อว่าเภสัชแพทย์ เหมือนกับทันตแพทย์ เราก็จะมีความชัดเจนในความเชี่ยวชาญด้านยาและเวลาเรียนต่อก็สามารถเรียนต่อเฉพาะทางด้านยาสาขาต่างๆใน field ของเราได้โดยเฉพาะ เหมือนกับหมอฟันที่เรียนต่อใน field ของช่องปากโดยเฉพาะได้
jing
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ต.ค. 2009, 22:11

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document