โดย DrugCenter » 14 ก.พ. 2008, 19:07
ม๊อบสาธารณสุข 3,000 คน บุก สธ. เหตุ กพ.ปรับโครงสร้าง
เวลา 9.30 น. ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมหมออนามัย และชมรมหัวหน้าสถานีอนามัยแห่งประเทศไทย ร่วม 3,000 คน นำโดยนายประจักษ์ ทองงาม ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือต่อ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข และ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้ปรับตำแหน่งใหม่เพื่อความก้าวหน้า
เนื่องจากตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2551 ที่มีการยกเลิกระบบซีมาเป็นระบบแท่ง ที่ได้มีการแบ่งข้าราชการออกเป็น 4 ประเภท คือ อำนวยการ บริหารวิชาการ และทั่วไป โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอนามัยถูกจัดอยู่ในประเภททั่วไป ทางชมรมต่างเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่มีความกว้างหน้า จึงขอให้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ดังนี้
1.ตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอ ขอให้ปรับเป็นประเภทอำนวยการ เช่นเดียวกับตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัย ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จบระดับปริญญาตรี และที่ไม่ได้จบปริญญาตรีในสายงานสาธารณสุข ขอให้ปรับเป็นประเภทวิชาการ
2.ขอให้บรรจุตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอ (นักวิชาการสาธารณสุข 8 ว.) และตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัยระดับ 7 ให้ครบทุกอำเภอทุกตำแหน่ง ในปี 2551 นี้
3.ผลักดันร่าง พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข พ.ศ. .. เพื่อคุ้มครองการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขของเจ้าหน้าที่
4.ขอให้ชะลอการถ่ายโอนสถานีอนามัยสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยขอให้รอการประเมินการถ่ายโอน 22 สถานีอนามัยที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ ว่ามีผลกระทบต่อประชาชน ระบบสาธารณสุข และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ภายหลังการรับหนังสื่อแล้ว นายไชยา กล่าวว่า เท่าที่รับทราบที่ผ่านมาทางกระทรวงสาธารณสุขพยายามผลักดันเรื่องเหล่านี้ แต่ติดที่ระเบียบราชการของทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการและพลเรือน (ก.พ.) โดยตนมีความเข้าใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าอนามัยดีว่าเป็นผู้เสียสละทำงานเพื่อสังคม ซึ่งหากไม่ติดระเบียบ ก.พ.เราก็พร้อมขับเคลื่อน
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ทางปลัดกระทรวงหารือแล้ว และจำทำให้ดีที่สุด ส่วนการถ่ายโอนสถานีอนามัยสู่ อปท. หากมีปัญหาการปฏิบัติงาน จากนี้จะต้องมีการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกัน โดย อปท.จะมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณเท่านั้น ส่วนการปฏิบัติงานและบริหารเป็นหน้าที่ส่วนกลางดูแล เนื่องจากงานสาธารณสุขเป็นงานที่เฉพาะทาง อบต. อบจ. ไม่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้จุดประสงค์การถ่ายโอนก็เพื่อให้เกิดความคล่องตัวจึงได้ทดลองนำร่อง แต่หากเกิดปัญหาต้องแก้ไข
ด้าน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนเคยอยู่ที่กระทรวงการคลัง ทราบว่ากฎระเบียบราชการทาง กพ.เป็นผู้ดูแล ซึ่งเท่าที่ดูข้อเสนอเห็นว่า อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ และนำหารือกับทาง กพ.ก่อน ซึ่งที่ผ่านมาภาคธุรกิจจะมีค่าโอที แต่ข้าราชการต้องเสียสละทำงาน ยื่นยันว่าจะเสนอ กพ.ให้เปลี่ยนจากประเภททั่วไป มาเป็นประเภทวิชาการ หรือบริหาร
ขณะนี้ นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงต้องดูแลเพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอยู่ดีทั้งกายและใจ แต่บางครั้งการดำเนินการใดๆ ก็อยู่ในอำนาจ กพ. ซึ่งตนก็ไม่อยากต่อว่า กพ. หลายเรื่องที่ กพ.ทำให้กระทรวงอึดอัดอย่างนโยบายจำกัดกำลังพลที่ส่งผลกระทบต่องานสาธารณสุขอย่างร้ายแรงมาเป็น 10 ปี เพราะงานกระทรวงอื่นๆ สามารถใช้บุคลากรอื่นทดแทนได้ แต่งานด้านสาธารณสุขต้องใช้ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นคลอดลูก เย็บแผล
ประกอบกับไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ปีละ 8-9 แสนคน มีจำนวมผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหา อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยจะต้องอยู่ในประเภทวิชาการทั้งหมด จะอยู่ประเภททั่วไปไม่ได้ ซึ่งทั้ง รมว. และ รมช.สาธารณสุข ต่างเห็นชอบ แต่หากจัดเข้าอยู่ในประเภทวิชาการไม่ได้ จะให้ออกนอก กพ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ได้พบและรับมอบข้อเรียกร้องจากตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอและสถานีอนามัยแล้ว ได้เดินทางลงมาพบปะกลุ่มผู้ชุมนุมด้านล่าง โดยต่างได้มอบดอกกุหลาบให้กับ รมว.สาธารณสุข และ รมช.สาธารณสุข เพื่อขอให้ผลักดันตามข้อเสนอข้างต้น
