New Document









หมอแพ้คดีอีกแล้วครับทั่น...

ข่าวสารสาธารณสุข

หมอแพ้คดีอีกแล้วครับทั่น...

โพสต์โดย DrugCenter » 20 ธ.ค. 2007, 13:56

ศาลจังหวัดจังหวัดขอนแก่น ได้พิจารณาคดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 928/47 ฐานละเมิด โดยมีด.ญ.นัทธมนต์ พงษ์ธีรมิตร เป็นโจทก์ที่ 1 , นางจาฏุพัจน์ พงษ์ธีรมิตร เป็นโจทก์ที่ 2 และนายบุญยศิษย์ พงษ์ธีรมิตร เป็นโจทก์ที่ 3 โดยมีบริษัทโรงพยาบาลขอนแก่นราม เป็นจำเลยที่ 1 และพญ.ทัศนีย์ โกวิทย์สมบูรณ์ เป็นจำเลยที่ 2 ฐานละเมิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า จำเลยได้ทำการละเมิดต่อโจทย์ที่ 1 ตามที่ศาลชั้นต้นพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นพ้องด้วย ดังนั้น คำอุทธรณ์จึงฟังไม่ขึ้น ซึ่งจำเลยต้องร่วมกันรับผิดชอบค่าเสียหายในช่วงเวลาที่รักษาตัวโจทก์เป็นเงิน 700,000 บาท และค่าปลงศพอีกจำนวน 80,000 บาท โดยศาลได้ยกค่าขาดไร้อุปการะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี พ.ศ.2547 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีไปแล้ว โดยระบุว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำความผิดจริง ตามฟ้อง โดยกระทำการประมาทเลินเล่อ หรือเป็นการละเมิด ต่อโจทก์ พิพากษาให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันหรือแทนกัน รับผิดชดใช้สินไหมทดแทนให้โจทก์ทั้งสาม เป็นเงินจำนวน 1,580,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันฟ้อง 29 ธ.ค. 2541 รวมทั้งให้จ่ายค่าธรรมเนียมทนายความแทนโจทก์ ต่อมาทางโรงพยาบาลขอนแก่นรามได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งมีการตัดสินคดีในวันนี้(20 ธ.ค.)

โดยนางจาฏุพัจน์ พงษ์ธีรมิตร ที่ได้ใช้เวลาในการต่อสู้คดีนานกว่า 10 ปี แม้ว่า น้องบูบู๊ หรือ ด.ญ.นัทธมนต์ พงษ์ธีรมิตร ลูกสาวจะได้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 ต.ค.45 ที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังต่อสู้ จนกระทั่งศาลได้พิพากษาให้ได้รับชัยชนะ ทำให้เธอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปลื้มใจ

นางจาฏุพัจน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า คำพิพากษาในครั้งนี้ ตนรู้สึกพอใจ โดยก่อนหน้านี้ เราเคยบอกมาตลอดว่า ไม่ได้ติดใจในเรื่องของตัวเงิน แต่อยากให้โรงพยาบาล ออกมาแสดงการยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุ หากทางโรงพยาบาลเข้ามาดูแล ตั้งแต่แรกก็ไม่จำเป็นต้องมีวันนี้ ซึ่งการที่ต้องเดินทางมาขึ้นศาลในแต่ละครั้งนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการสูญเสียในอดีต
ภาพประจำตัวสมาชิก
DrugCenter
 
โพสต์: 2502
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ต.ค. 2005, 07:45
ที่อยู่: Drug Center ขอนแก่น








Re: หมอแพ้คดีอีกแล้วครับทั่น...

โพสต์โดย naproxen » 21 ธ.ค. 2007, 14:24

ขอออกตัวสักนิดก่อน การแสดงความเห็นต่อไปนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิชาการและการพัฒนาที่ดีขึ้น ไม่มีเจตนาที่จะไปก้าวล่วงในคดีความ
และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อผู้สูญเสียและผู้เสียหายทุกฝ่าย

เกิดมาดูโลกไม่กี่วัน ตัวเหลืองมาก  เข้าข่าย ดีซ่านในทารกแรกเกิด

ค่าLab Bilirubin เป็นอย่างไร  คิดว่าคงสูง  แต่ไม่รู้ว่าสูงเท่าไหร่ และสภาพทางคลินิคของผู้ป่วยเป็นเช่นไร ตามข่าวยังไม่มีข้อมูล

โรคที่ผมคาดเดา ย้ำว่าคาดเดานะ เพราะอาศัยข้อมูลตามข่าวซึ่งข้อมูลมีจำกัด คือ  Physiologic jaundice

         ทารกแรกเกิด ที่แข็งแรงเป็นปกติ  ประมาณร้อยละ 60 อาจมีอาการดีซ่านได้ ทั้งนี้เนื่องจากตับของทารกยังทำงานไม่ได้เต็มที่  คือ ยังไม่สามารถขจัดสารสีเหลืองได้แก่ bilirubin  ออกจากกระแสเลือด  จึงทำให้มีการคั่งของสารนี้  จนเกิดอาการดีซ่าน  เรียกว่าภาวะดีซ่านสรีระ (Physiologic jaundice) ซึ่งจะตรวจไม่พบโรคหรือความผิดปกติใดๆ
       
         โดยทั่วไปภาวะเช่นนี้  มักจะไม่มีอันตรายต่อทารกแต่อย่างใด  ยกเว้นในรายที่อาการตาเหลืองตัวเหลืองมาก  อาจทำให้สมองพิการได้ เนื่องจากมีการสะสมสารบิลิรูบินในสมอง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า kernicterus ทารกจะมีอาการซึม  ไท่ดูดนม อาเจียน  หลังแอ่น ตาเหลือก ชัก และอาจตายได้  หากไม่ตายก็อาจกลายเป็นเด็กพิการ
       
         การรักษาควรต้องตรวจความผิดปกติของร่างกายทารกอย่างละเอียด  โดยเฉพาะการตรวจเลือด  ตรวจปัสสาวะและตรวจพิเศษอื่นๆ เพื่อค้นหาสาเหตุอื่นที่อาจเป็นได้  โดยเฉพาะค่า lab bilirubin

        ปกติโรคนี้มักไม่มีอาการรุนแรง  ถ้าพบอาการดีซ่านในทารกแรกเกิด  ซึ่งเริ่มมีอาการในวันที่ 2-5 หลังคลอด  ควรตรวจให้ละเอียด เมื่อแน่ใจว่าไม่มีสาเหตุจากอย่างอื่น  และทารกท่าทางแข็งแรงดี  ก็แนะนำให้ทารกดูดนมและน้ำให้มากขึ้น และให้ทารกตากแดดอ่อนๆตอนเช้า และใช้แสงไฟนีออนส่อง จะช่วยลดอาการดีซ่านได้

        ในรายที่เป็นภาวะดีซ่านสรีระ (ไม่มีโรคหรือความผิดปกติต่างๆ) แต่เหลืองจัด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสมองทารก ต้องทำการถ่ายเลือด (exchange transfusion) เพื่อป้องกันภาวะ kernicterus

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายโรคที่อาจเป็น  แต่จากข้อมูลที่จำกัดตามข่าว  ผมจึงคาดเดาถึงโรค Physiologic jaundice

บทสรุปในความเห็นของกระผม

1.ถึงเพื่อนเภสัชกรร้านยาถ้าพบเด็กทารก ตัวเหลืองตาเหลือง ควรรีบ refer ไป โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

2.กรณีนี้ในความเห็นของผม  การทำงานร่วมกันอย่างดีของสหวิชาชีพทางการแพทย์  ในกรณีนี้คือ แพทย์ พยาบาล และLab เทคนิคการแพทย์  การสูญเสียครั้งนี้อาจพอจะหลีกเลี่ยงได้

3.เภสัชกรคลินิค ที่ขึ้นไปราวด์ ward อาจต้องพิจารณาอาการทางคลินิคของผู้ป่วย ร่วมกับค่า lab ต่างๆ มิใช่มุ่งแต่เรื่องของยาเพียงอย่างเดียว

4.ในทางการแพทย์ไม่มีอะไร 100% ผมเห็นด้วยว่าถ้าเกิดความผิดพลาด ควรสามารถฟ้องแพ่งได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีอาญา
เพราะปกติไม่มีผู้รักษาผู้ป่วยคนไหน ที่จะมีเจตนาร้ายต่อผู้ป่วย   ยกเว้นกรณีที่ผู้รักษามีเจตนาร้ายต่อผู้ป่วยของตนถึงค่อยดำเนินคดีอาญา

5.หากเกิด Medical Error ผู้รักษาควรทำความเข้าใจและสื่อสารกับผู้สูญเสียด้วยจิตใจที่เห็นอกเห็นใจ  ทำนองเดียวกับผู้สูญเสียก็ต้องเข้าใจว่าในทางการแพทย์นั้น มันไม่มีอะไร 100% แม้จะทำถูกต้องทุกอย่างแล้วก็อาจเกิดความเสียหายได้ ผู้รักษาและผู้สูญเสียต้องมีการสื่อสารกันอย่างเห็นใจและเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

6.ควรมีกองทุนและหน่วยงานรัฐซึ่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นใครหรือฝ่ายไหนก็ตาม จากการรักษาพยาบาลในประเทศไทย   

พงศธร  เหล่าสกุล
แก้ไขล่าสุดโดย naproxen เมื่อ 21 ธ.ค. 2007, 14:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: หมอแพ้คดีอีกแล้วครับทั่น...

โพสต์โดย somsao » 22 ธ.ค. 2007, 18:36

ขอบคุณค่ะ คุณ naproxen อธิบายได้ชัดเจน ได้รู้ความรู้มากๆ

และเจ้าของกระทู้  ที่นำเรื่องที่น่าสนใจมาให้ทราบกัน
somsao
 
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ต.ค. 2006, 15:44


ย้อนกลับไปยัง คาปูชิโน

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document