บทบาทเภสัชกรกับกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานฯของ สปสช.

[PatcharapornPanyawuthikra]

"กรรมการควบคุมคุณภาพและสถานบริการสาธารณสุขฯ"สาขาวิชาชีพเภสัชกรรม ได้รับการคัดเลือกไปแล้ว ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือ "ภก.จิระ วิภาสวงศ์" จาก สสจ.ลำพูน
ขอเล่าให้ฟังถึงการค้ดเลือกครั้งนี้คร่าวๆ
เริ่มจาก สปสช. ประกาศหาผู้รับสมัครเป็นตัวแทนสาขาวิชาชีพเภสัชกรรม ประจำจังหวัด (กำหนดวัน เดียวกับวิชาชีพอื่นๆ กติกาเหมือนกัน) โดยกำหนดกว้างๆ ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนั้น
สำหรับตัวเอง ได้รับการพิจ่รณาเป็นตัวแทนของ กทม. เนื่องจากมีน้องพี่ทราบข่าวของ สปสช โทรให้สมัครในนาม กทม. ยื่นเรื่องภายใน 11 เม.ย. ทันเวลาก่อนหมดเขต 1 วัน แล้วเดินทางไปต่างประเทศ กลับมา 19 เม.ย. วันเลือกตั้ง มี จม. และโทรศัพท์ให้ไปรายงานตัว พอไปถึงพบว่าสมัครคนเดียว ตามระเบียบของ สปสช. เลยได้เป็นตัวแทน กทม. ไปดดยปริยาย (ไม่ทราบว่าจังหวัดอื่น เป็นอย่างไรบ้าง เพราะต้องใช้กติกาเดียวกัน)
วันคัดเลือกผู้ที่จะเป็นผู้แทนระดับประเทศ เลือกจากตัวแทนจังหวัด 76 คน วันนั้นไปประชุมด้วย ดูรายชื่อแล้วส่วนใหญ่ผู้แทนจะเป็น สสจ มีที่เป็นเภสัชชุมชน หรือโรงพยาบาลไม่กี่คน ส่วนตัวพี่เองไม่ถือเป็นสังกัดใด เพราะเป็นนักวิชาการอิสระ และลงไปว่าเป็น กก สภาเภสัชกรรม (ตามที่มีตำแหน่ง - ตามระเบียบ)
วันนั้นมีผู้สมัคร 2 คน คือพี่จิระ และพี่สุวัฒน์ นครปฐม ผลคือพี่จิระได้รับเลือกให้เป็นต่ออีกสมัย (ประมาณ 4 ปี)
เห็นด้วยว่า ผู้แทนของสาขาวิชาชีพเราไม่คึกคัก และทราบข่าวกันน้อย ตัวเองไปร่วมก็ยังงงๆ แต่ไปเพราะไม่อยากเสียสิทธิของวิชาชีพ
สังเกตวิชาชีพอื่น เช่น พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ค่อนข้าง active ค่ะ
คิดว่าพี่จิระ เข้าไปเป็นวาระ 2 แล้ว คงจะช่วยแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง และน่าจะเป็นตัวเชื่อมกับสภาเภสัชกรรมด้วย

[chuchart_cu]

"กรรมการควบคุมคุณภาพและสถานบริการสาธารณสุขฯ"สาขาวิชาชีพเภสัชกรรม ได้รับการคัดเลือกไปแล้ว ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือ "ภก.จิระ วิภาสวงศ์" จาก สสจ.ลำพูน
ขอเล่าให้ฟังถึงการค้ดเลือกครั้งนี้คร่าวๆ
เริ่มจาก สปสช. ประกาศหาผู้รับสมัครเป็นตัวแทนสาขาวิชาชีพเภสัชกรรม ประจำจังหวัด (กำหนดวัน เดียวกับวิชาชีพอื่นๆ กติกาเหมือนกัน) โดยกำหนดกว้างๆ ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนั้น
สำหรับตัวเอง ได้รับการพิจ่รณาเป็นตัวแทนของ กทม. เนื่องจากมีน้องพี่ทราบข่าวของ สปสช โทรให้สมัครในนาม กทม. ยื่นเรื่องภายใน 11 เม.ย. ทันเวลาก่อนหมดเขต 1 วัน แล้วเดินทางไปต่างประเทศ กลับมา 19 เม.ย. วันเลือกตั้ง มี จม. และโทรศัพท์ให้ไปรายงานตัว พอไปถึงพบว่าสมัครคนเดียว ตามระเบียบของ สปสช. เลยได้เป็นตัวแทน กทม. ไปดดยปริยาย (ไม่ทราบว่าจังหวัดอื่น เป็นอย่างไรบ้าง เพราะต้องใช้กติกาเดียวกัน)
วันคัดเลือกผู้ที่จะเป็นผู้แทนระดับประเทศ เลือกจากตัวแทนจังหวัด 76 คน วันนั้นไปประชุมด้วย ดูรายชื่อแล้วส่วนใหญ่ผู้แทนจะเป็น สสจ มีที่เป็นเภสัชชุมชน หรือโรงพยาบาลไม่กี่คน ส่วนตัวพี่เองไม่ถือเป็นสังกัดใด เพราะเป็นนักวิชาการอิสระ และลงไปว่าเป็น กก สภาเภสัชกรรม (ตามที่มีตำแหน่ง - ตามระเบียบ)
วันนั้นมีผู้สมัคร 2 คน คือพี่จิระ และพี่สุวัฒน์ นครปฐม ผลคือพี่จิระได้รับเลือกให้เป็นต่ออีกสมัย (ประมาณ 4 ปี)
เห็นด้วยว่า ผู้แทนของสาขาวิชาชีพเราไม่คึกคัก และทราบข่าวกันน้อย ตัวเองไปร่วมก็ยังงงๆ แต่ไปเพราะไม่อยากเสียสิทธิของวิชาชีพ
สังเกตวิชาชีพอื่น เช่น พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ค่อนข้าง active ค่ะ
คิดว่าพี่จิระ เข้าไปเป็นวาระ 2 แล้ว คงจะช่วยแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง และน่าจะเป็นตัวเชื่อมกับสภาเภสัชกรรมด้วย

เหตุผลที่แสดงมาก็บอกชัดว่ารู้กันเพียงไม่กี่คน คือพอทางกระทรวงส่งเรื่องมาเรื่องก็ถูกดองไว้ที่ สสจ. ไม่มีการแจ้งข่าวให้ทราบกันทั่ว ไม่ทราบว่า จะดองเรื่องเก็บไว้ทำไมกัน แทนที่คนอื่นพอจะมีโอกาสได้ไปกับเขาบ้าง

[capsicum]

ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นคลื่นกระทบฝั่ง เภสัชกรที่ทำงานอยู่ที่ สสจ. ต้องไม่เฉื่อยแฉะ เมื่อรับเรื่องมาจาก สปสช.สาขาจังหวัด ก็ สนง. เดียวกันนั่นแหละ ต้องมีการส่งข่าวไปยังเภสัชกรทั้งจังหวัด อย่างุบงิบส่งพวกเดียวกันไป

[sting19]

สงสัยเภสัชกรอย่างเราๆท่านๆคงอยู่ไกลปืนเที่ยง จึงไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย 

[thai_cu]

สงสัยเภสัชกรอย่างเราๆท่านๆคงอยู่ไกลปืนเที่ยง จึงไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย 

ก็อยากให้มีความยุติธรรมกับเภสัชกรคนอื่นๆด้วยที่ไม่เคยทราบข่าวในเรื่องนี้

ขณะนี้คณะ สสร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญ มีการกำหนดว่าการเลือก สว. มี 2 อย่าง คือ
1. สว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ของประชาชน
2. สว. ที่มาจากการเลือกกันเองของวิชาชีพ

หากเภสัชเรามีโอกาสเลือกเช่นนั้น ก็หวังใจว่า อย่าอุบเรื่องให้รู้กันอยู่ในวงแคบๆหมือนเดิมอีกเลย

[spras77]

พี่เอย น้องเอย
เภสัช สสจ.เอง ยังไม่รู้เรื่องเลยก็มี
ไม่แย่กว่าหรือครับ

[azzuri]

พี่เอย น้องเอย
เภสัช สสจ.เอง ยังไม่รู้เรื่องเลยก็มี
ไม่แย่กว่าหรือครับ

[cmu_rx]

...........................

สำหรับตัวเอง ได้รับการพิจารณาเป็นตัวแทนของ กทม. เนื่องจากมีน้องพี่ทราบข่าวของ สปสช โทรให้สมัครในนาม กทม. ยื่นเรื่องภายใน 11 เม.ย. ทันเวลาก่อนหมดเขต 1 วัน แล้วเดินทางไปต่างประเทศ กลับมา 19 เม.ย. วันเลือกตั้ง มี จม. และโทรศัพท์ให้ไปรายงานตัว พอไปถึงพบว่าสมัครคนเดียว ตามระเบียบของ สปสช. เลยได้เป็นตัวแทน กทม. ไปโดยปริยาย

จากข้อความนี้ก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่อยู่ กทม. เอง ทั้งๆที่เภสัชกรใน กทม. มีเป็นพันเป็นหมื่นคน ก็ยังเป็นแบบนี้เลย

[capsicum]

บทบาทเภสัชกร(วิชาชีพ)กับกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขของ สปสช.
คุณคิดว่า เภสัชกรในฐานะตัวแทนวิชาชีพควรมีบทบาท1*  และคุณสมบัติ2*อย่างไร ทั้งในระดับจังหวัดและระดับชาติ

1* บทบาท ทำหน้าที่ทางวิชาชีพในเชิงรุก ให้ความยุติธรรมกับประชาชนตามแนวทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพมาตรฐาน ที่สำคัญหน่วยบริการจะต้องได้รับมาตรฐานทั้งภาคส่วนเอกชนและภาคส่วนรัฐ ในฐานะเภสัชกรวิชาชีพต้องเข้าไปกำหนดกฎเกณฑ์ในส่วนของเภสัชกรรมที่ได้กระทำไปแล้ว และเพิ่มเติมในส่วนบริบาลเภสัชกรรมให้ครบถ้วนเมื่อหน่วยบริการเข้าโครงการ  ถือเป็นการยกระดับวิชาชีพสู่มาตรฐานสากล
2* คุณสมบัติ  เภสัชกรที่จะเข้าไปทำหน้าที่นี้นั้น  เนื่องจากหน้าที่นี้ควรเป็นตัวแทนในภาคประชาชน ดังนั้น เภสัชกรตัวแทนวิชาชีพต้องไม่รับราชการคือต้องไม่เป็นข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่เป็นข้าราชการของ สสจ. จังหวัด

เนื่องจากงานภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบมีมาก ต้องประชุมกันบ่อยมาก คนมาทำหน้าที่จะต้องทุ่มเทให้กับงาน ดังนั้นเมื่อมีงานประจำของข้าราชการที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ต้องมาทำงานตรงนี้อีกจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานได้มีประสิทธิภาพ และเป็นการทำงานสองหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน เหมือนกับโกงเวลาของทางราชการไปทำอย่างอื่น จึงไม่น่าจะทำหน้าที่โดยสุจริต

เห็นด้วยกับความเห็นนี้

[capsicum]

อยากให้ตัวแทนของเภสัชกรที่เป็น "กรรมการควบคุมคุณภาพและสถานบริการสาธารณสุขฯ"สาขาวิชาชีพเภสัชกรรม มาส่งข่าวรายงานความเคลื่อนไหว หรือสรุปผลการประชุมแต่ละครั้งในเวบนี้ เพราะเภสัชกรเกือบทั้งหมดไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้เลย ได้ยินแต่สำนักงานโครงการร้านยาคุณภาพที่ตั้งอยู่ที่อย. โปรยยาหอมให้เภสัชกรเป็นร้านยาคุณภาพ โดยเอาเรื่องการเอาร้านยาคุณภาพไปเชื่อมต่อกับโครงการหลักประกันสุขภาพ สปสช. หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (เดิม) มาเป็นตัวล่อกิเลศ ทั้งๆที่ไม่มีอนาคตอะไรเลย