ต่อไปข้าราชการตำแหน่งเภสัชกร 8 วช ต้องจบปริญญาโท

[somsao]

ได้ข่าวแว่วๆ มาว่า  กพ.อยู่ระหว่างกำหนดคุณสมบัติ
ข้าราชการตำแหน่ง เภสัชกร 8 วช. ที่จะได้รับแต่งตั้งในอนาคต ต่อไปจะต้องจบปริญญาโท  หรือมีวุฒิบัตร  อนุมัติบัตรต่างๆ
โดยจะใช้กับข้าราชการที่บรรจุตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นไป

ไม่แน่ใจเรื่องข้อมูล  ใครมีข้อมูลกระจ่าง  ช่วยชี้ทางสว่างด้วย...

[เภสัชทุง]

ไม่ทราบว่า ข้อมูลผมจะ updated ไหม แต่ได้รับหนังสือของสำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ สธ 0707.05.3/50 ลงวันที่ 2 กพ. 50 แจ้งว่า กพ.จะกำหนดคุณวุฒิการศึกษาในการประเมินผลงาน ตำแหน่ง เภสัชกร 8 วช. จะต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตหรือเทียบเท่า และเภสัชกร 9 วช จะต้องมีวุฒิการศึกษาเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าหรือได้รับวุฒิบัตร อนุมัติบัตรในสาขาวิชาชีพ โดยใช้สำหรับเภสัชกรผู้ที่บรรจุเข้ารับราชการตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นไป

ทางคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติและประเมินผลงานของบุคคลสาขาเภสัชศาสตร์ ตำแหน่งเภสัชกร ซึ่งมี ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ เป็นประธาน จึงได้ส่งแบบสอบถามความเห็นในการกำหนดคุณวุฒิการศึกษาเพิ่มเติมที่กำหนดใหม่ดังกล่าว ว่า เห็นด้วยหรือไม่ และให้ตอบมาภายใน 28 กพ. 50

หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้รับแจ้งอีกว่า ผลการรวบรวมความเห็นในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร ???

จึงไม่มั่นใจว่า ข้อมูลของเจ้าของกระทู้ updated กว่าผมอีกหรือเปล่า

[Wiz@rd.]

หนังสือที่ว่ามาผมตอบไปว่าไม่เห็นด้วย
ผมบอกไปว่าไหนๆคุณจะทำเรื่อง CPE แล้ว ทำไมไม่ใช้ CPE เป็นข้อกำหนดไปซะเลย
แล้วก็การเรียนโทนะครับ ใช้เงินไม่ใช่เล่นเลยครับ และขึ้นอยู่กับนโยบายการขอเรียนต่อด้วย ดังนั้นก่อนจะคิดอะไรคิดถึงสถานการณ์ด้วยและการอนุญาตให้เรียนต่อด้วย ผมอยากเรียนต่อ (ในสาขาที่สนใจเรื่องนึง) ยังไม่ได้ไปเรียน (โรงพยาบาลกำหนดนโยบายการให้ไปเรียนต่อทุก 5 ปีครับ และครั้งที่แล้วโรงพยาบาลบอกว่า โรงพยาบาลต้องการเภสัชสาขา....เท่านั้นและมีเรียนที่....เท่านั้น จะไปไม๊ !!! จบ ไม่มีใครไป...)

[doraemon]

บางคนก็ติดขัดในอะไรหลายๆอย่างในการลาเรียน ถึงแม้หน่วยงานจะให้ไปก็ตาม จะไปเรียนต่อก็ไม่มีคนอยู่กะพ่อทำไงได้  มะเปงไร อยู่แค่ซี 7 ก็ได้ ถ้าเค้าไม่ให้ 

[spras77]

อัพเดท สุดก้ตามที่พี่ทุง บอกครับ
สำหรับเภสัชกรที่บรรจุตั้งแต่ปี 40 เป็นต้นไปครับ

โท ต้อง โท ในสาขาที่เกี่ยวข้องด้วยน่ะครับ
อย่างนี้หากผมไปเรียน โท GIS ก็จบ เลย  สิครับ 


.... ยังไม่พ้นยุคแสวงหากันอีกหรือครับ 

[kohboy]

เป็น ภญ. สิ..สบาย ผ่านเกณฑ์แน่ๆ

ยกตัวอย่างคนใกล้ๆตัวพวกเรา..กำลังทำโท..ต๊อง

๕๕๖๖

[panthy]

  สุดท้าย ระบบราชการก็มองแต่ Input มากเกินไป  การประเมิน C นั้นเป็นการประเมินผลงานที่ผ่านมา กับ การทำวิชาการ    แล้วไหงมากำหนด Input อีกแล้ว  แต่พอมาเห็นปี พศ.  ก็สมควรนะ  เพราะเด็กรุ่นนี้ เรียนโทกันทั้งน้าน สาขาอาชีพอื่น ก็ต่อโทกันหมด การที่เภสัชกรจะ ยกระดับให้มีเภสัชกรที่เชี่ยวชาญเฉพาะในระดับปริญญาโท ก็น่าจะเป็นผลดีต่อวิชาชีพ
  เห็นด้วยนะคะ  ที่ อยากให้ เภสัชกรมีการพัฒนาตนเอง  แต่จำเป็นถึงขั้น education หรือไม่  ถ้ามี  ทั้งกระทรวง ทั้ง อจ. ทั้งพื้นที่ต้องมาช่วยกันคิดต่อแล้ว ว่าวิธีจะทำให้เภสัชกรสามารถพัฒนาตนเองได้ โดยไม่ติดขัดกับระบบที่ไม่เอื้ออำนวย อย่างไร  เช่น เรียนทางไกล
    แต่ทั้งนี้ ไม่ได้เห็นว่า คนจบโท เก่งกว่าคนจบตรีนะคะ  แต่ โดยประมาณว่า คนที่ได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นน่าจะมีความรู้ (Knowledge) ทักษะ ( skill)  เพื่อนำไปสู่ ความสามารถ (Ability) และพฤติกรรมในการทำงานที่ดี (Behavoir)

[azzuri]

โทเอ็มบีเอ ก้อ ไม่ความหมายสิครับ

ไปขายยาดีกว่า

[panthy]

  MBA อดอยู่แล้ว  แต่ MPA  กพ.ให้แฮะ  แต่ไม่ทราบ ว่าจำเป็นต้องต่อโทสาขาทางเภสัชหรือไม่

  ทั้งๆที่ MBA สอนเรื่องประสิทธิภาพ  การจัดระบบงานOperation mgt. ซึ่งประยุกต์ใช้ได้กับงานเภสัช  กลับไม่ให้ 
 

[Rx31]

ไม่ทราบว่ามีใครพอจะรู้ หรือ มีหนังสือที่บอกว่า ให้จบสาขาไหนได้บ้างครับ
แล้วจำเป็นหรือไม่ครับที่ต้องเป็น ภ.ม. เป็น วท.ม. ได้หรือไม่ครับ อย่างของจุฬาที่เค้าเปิด หลักสูตรวิทยาศาตรมหาบัณฑิต สาขาเภสัชศาสตร์สังคมและบริหาร (นานาชาติ) จะได้หรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ

[azzuri]

MPA  ต่างจาก MBA แค่ ตรงคำว่าธุรกิจ กับ รัฐฯ  มิน่ำซ้ำ ยังเอาหลักแนวคิดมาจากการบริหารธุรกิจด้วยซ้ำ
จะให้ลาไปเรียนอีกเรอ ก็คงไม่ไหว......  ตอนเรียนMBA ไป เฉพาะค่าเทอม (ไม่รวมค่าเหล้า) ก้อหนักอยู่แล้ว
นอกจากไอ้ทำๆอยู่ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่ใช่การประกอบวิชาชีพก้อช้ำใจพอแล้ว แถมไอ้ที่ไปร่ำเรียนมาก้อไม่มีความหมายอีก


ดังนรกชัง หรือ สวรรค์แกล้ง







เอะ แล้วผมจะบ่นทำไมละครับเนี้ย อวช.7 ผมยังไม่ส่งเลย
ทั้งๆที่เพื่อนในรุ่นเดียวกันผมทำก่อนชาวบ้านเกือบ ปีกว่าแต่ผมยังไม่เสร็จ
ไม่ใช่ว่าผมทำเรื่องยาก หรือ ว่าผมขี้เกียจทำอะไรทั้งสิ้น...แต่ผมตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าทำไมผมต้องทำ
เพราะผมไม่อยากทำงานราชการ ซึ่งไม่ใช่พึ่งเป็นนะครับ ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆแล้ว
มีความตั้งใจตั้งแต่ไม่จบด้วยซ้ำครับว่า ผมจบแล้วจะไปพัฒนาร้านของผมให้ดี
ซึ่งก้อทำไปทำมา อยู่ สสจ ได้ปีที่ 8ปี โดยไม่ได้ย้ายไปไหนเลย
โดยผมตั้งใจจะลาออกตั้งแต่เมื่อ2-3 ปีทีแล้ว โดยตั้งหลักไว้ว่า พอทำซี6 ได้ก็พอแล้ว.........ออก
แต่เกิดเหตุสะกัดดาวรุ่งพอดี..ผมได้ซี ได้ไม่กี่ปี หัวหน้าผมก็ชิงลาออก แบบไม่ทันตั้งตัว
ก็เลยเจอเหตุการณ์ที่ลาออกไม่ได้.........เพราะอะไรก็ไม่ทราบ...ผมเลยไม่กล้ายื่นใบลาออก


ยิ่ง หลังๆมา มีแนวความคิดต่างๆมากมายในการที่จะปฎิรูประบบราชการ
ผมกลับมองว่า มีการลดกำลังคน เพิ่มประสิทธิภาพของงาน แต่ปริมาณงานไม่ได้ลด
ในขณะที่ ค่าตอบแทน....ไม่มีอะไรนอกจากเงินเดือนกับ ค่าเบี้ยเลี้ยงอย่างมากก็วันละ180 บาท(สูงสุดแล้ว) ถ้าไม่ออก ก็ไม่ได้อะไร
การทำงานก็โดนบีบ...งบประมาณ มีแค่2อย่าง 1. ไม่มีงบ กับ 2.งบน้อยลง  (แถม ใช้ได้ไม่เต็มที่เจ้าของงบโอนมาให้ด้วย)
การทำงานไม่มีความคล่องตัว   (อาจเป็นเฉพาะ จังหวัดผมหรือ ป่าว ก็ไม่ทราบ)
ระบบงานที่ควรจะสนับสนุนงานกลับกลายมาเป็นหน่วยตรวจสอบ ขัดแข้งขัดขา



แต่ถึงจะไม่นับ MBA ประกอบการประเมินซี9 ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
เพราะ การไปเรียนของผม มีต้นทุน ซึ่งหากจะมีการนำไปใช้ก็ต้องมีค่าตอบแทน
มาใช้ความรู้MBA ฟรีๆไม่ได้หรอก เพราะจุดประสงค์มันก้อบอกอยู่แล้ว บริหารธุรกิจ....ไม่ได้มีไว้ บริหารรัฐฯ
ผมตั้งใจจะเอามาใช้บริหารร้านของผม ต่างหาก...เสียใจด้วยนะ รัฐฯ 

[spras77]

เริ่มเป็น หน.กลุ่มงาน แล้ว งานเริ่มหนักอกหนักใจ แล้วหรือครับ

หลักเกณฑ์การพิจารณษของ กพง ผมว่าน่าจะมีรายละเอียด ที่ สป. กับ กพ.น่ะครับ ยังไง ลองค้นดู

ผมยังไม่อยาก ค้นหาอะไรตอนนี้ อยากมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด อนาคต ค่อยว่ากัน

ระบบราชการทุกวันนี้ ทำให้เราต้องปรับตัวเองให้เร็วที่สุด และต้องปรับตัวง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมยิ่งเป็นคนยึดติดอะไรนานๆ อยู่  เลยอึดอัดใจ

สุดท้ายมีคนบอกผมว่า

" เกิดมาเป็นคนต้องก้าวไป อย่างน้อยหากไม่ใช่เพื่อตัวเอง ก็ต้องเพื่อคนที่เราต้องรับผิดชอบครับ "

[kohboy]

พูุดไว้ก่อน เผื่อได้เป็นคนแรก...

..."ขอต้อนรับเสรีชนแห่งมหานครธาตุเชิงชุม ผู้สลัดตัวเองจากพันธนาการจอมปลอม"


..๕ ปีในราชการ ก็เพียงพอแล้ว เจื้อโผมเต้อะ
อิอิ

[azzuri]

[morya]

เห็นเงื่อนไขของวงการเภสัชกรรม แล้วผมรู้สึกหงอยหงอยครับ
รับราชการอยู่ รพ.ชุมชน มาตั้งนาน จนเงินเดือนจะเต็มขั้น ซี 7 อยู่แล้ว ก็ยังเป็นซี 7 อยู่ดี
ซี 8 ก็ไม่มีตำแหน่งให้กับเภสัชกร รพ.ชุมชน  แล้วยังจะมาตั้งกฎเกณฑ์ซี 8 สำหรับเภสัชกรที่จบหลัง ปี 2540 อีก
จะบ้าตาย  ไม่มีอะไรจะคิด ไม่มีอะไรจะทำเหรอครับพวกท่านคณะกรรมการ
ทุกวันนี้เภสัชกรที่รับราชการที่ รพ.ชุมชน มาเกือบจะเกษียณอยู่แล้วยังเป็นแค่ซี 7
เบื่อ และหดหู่ กับเรื่องราวแบบนี้ครับ