เรียน อคันตุกะผู้ทรงภูมิปัญญา
ประมวลกฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องมีใจความสำคัญว่า
![eek :eek:](./images/smilies/icon_eek.gif)
บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่่อได้กระทำโดยเจตนา การกระทำำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และ ผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือ ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบต่อความผิด จะถือว่าผู้การะทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นไม่ได้
![arrow :arrow:](./images/smilies/icon_arrow.gif)
มาจาก ป.อ.มาตรา2 และมาตรา 59 ที่เรียกว่า หัวใจของกฏหมายอาญา
![arrow :arrow:](./images/smilies/icon_arrow.gif)
บรรยายโดย อ.เกียรติขจร วัฒนสวัสดิ์ คำบรรยาย เนติ
![lol :lol:](./images/smilies/icon_lol.gif)
ความผิดฐานหมิ่นประมาท เป็นความผิดที่ต้องการเจตนา ต้องเป็นการกระทำ ที่ ไม่เป็นการใส่ความ ผู้อื่นต่อบุคคลที่สามครับ และต้องทำให้ผู้นั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง สามประการนี้เท่านั้นครับ
1 คำว่า คุ้มกันถึงลูกจ้าง บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 16ไงครับ ในเรื่องของใบอนุญาตครับ อ่านอีกรอบนะครับ
2 คุณเห็น ถูต้องงงงนะคร้าบบบบบบ ขอปรบมือให้ เพราะนี่คือชื่อขิงกระทู้ที่ผมตั้งนั่นเอง
3 ข้อนี้คุณก็ถูกอีก แต่ยังมีประเด็นที่ต้องขยายออกไปอีกว่า เภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ กรณี 3 ชั่วโมง ได้รับค่าตอบแทน ค่าตอบแทนนั้นถือเป็น ค่าจ้าง หรือไม่?? ซึ่งเราจะมาเจอกันในกระทู้หน้าอีกครั้งครับถ้าคุณ ติดตามอ่าน
4 กรณีมาตรา 21 ตามพรบ. ยา 2510 ไว้ใช้ตอนขออนุญาติเปิดร้านขายยาครั้งแรก เพราะอยู่ในหมวด 3 หน้าที่ของผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนปัจจุบัน คำว่า ต้องจัดให้มี "ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ" ต้องจัดให้มีคือผู้รับอนุญาติขายยา ไปหาตัวเภสัชกรมา กรณี ขย 1 ไปหาตัว พยาบาลมา กรณี ขย 2 ไปหาตัวผู้บำบัดโรคสัตว์มา กรณี ขายยาสัตว์ ล้วนใช้คำว่าจัดให้มีเหมือนกัน และอยู่ในหมวดที่3 และใช้ในกรณีขอเปิดร้านครั้งแรก ในบทกำหนดโทษยังกำหนดไว้ว่า กรณีผู้ปฏิบัติการ ไม่มี ไม่อยู่ หรือ เลิกคุมร้าน ก็ให้โอกาส ผู้รับอนุญาติไปจัดให้มี ถ้ายังหาไม่ได้ก็ถูกปรับวันละ 500 จนกว่าจะหาตัวได้ แสดงให้เห็นว่าในหมวดนี้ทั้งหมวด มันเกี่ยวกับการขอเปิดและการขอต่อใบอนุญาติประจำปีเท่านั้นไม่ใช่หน้าที่ของเภสัชกร ซึ่งอยู่อีกหมวดหนึ่ง
![mrgreen :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
คำเตือน
การอ่านกฏหมายสลับหมวดหมู่อาจสับสนได้